รู้แล้วอย่าทำ..4 พฤติกรรมอันตราย ห้ามทำขณะขับรถเด็ดขาด

การใช้รถใช้ถนน สิ่งสำคัญคือต้องมีน้ำใจและใส่ใจกับเพื่อนร่วมทาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ แต่รู้ไหมว่าพฤติกรรมที่เราทำกันเป็นประจำหลายอย่าง ก็เป็นความเคยชินที่นำอันตรายให้แบบไม่รู้ตัว มาเช็กดูสิว่าคุณมีพฤติกรรมอันตรายเหล่านี้ระหว่างขับรถหรือไม่…

1. หยุดเถอะขับเกินความเร็วที่กำหนด

รู้หรือไม่..หากขับรถด้วยความเร็วต่ำกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือชนคน โอกาสที่จะเสียชีวิตนั้น มีไม่ถึง 20% แต่ถ้าชนด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โอกาสที่ผู้ถูกชนจะเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นถึง 60% เรียกว่ามีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้นมาก ดังนั้นยิ่งขับเร็วเท่าไร โอกาสสูญเสียยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรขับในความเร็วที่เหมาะสมและตามที่กฎหมายที่กำหนด นอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุได้แล้ว ยังลดโอกาสการโดนใบสั่งจราจรอีกต่างหาก

2. ง่วงก็นอนซะ

ความง่วงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายไม่ต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์เลย จะเห็นได้ว่าในช่วงเทศกาลที่คนจำเป็นต้องขับรถเป็นเวลานานนั้น มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นจากการหลับใน ดังนั้นเวลาขับรถหากรู้สึกง่วงแนะนำให้แวะพักตามปั๊มน้ำมันจุดพักรถก็ได้ ระหว่างขับก็อย่าลืมพกอาหารหรือเครื่องดื่มที่ช่วยให้หายง่วงติดตัวไปด้วยเสมอ

3. ติดจังมือถือเนี่ย

การขับรถควรโฟกัสอยู่ที่การขับรถเท่านั้น ส่วนสมาร์ตโฟนไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้ขณะขับรถ ไม่เว้นแม้กระทั่งการเปิดแผนที่ในมือถือก็ไม่ควรเป็นหน้าที่ของคนขับ เพราะการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างขับรถทำให้เสียสมาธิได้ง่าย การก้ม ๆ เงย ๆ ไม่ใช่ท่าทางที่ถูกต้องของการขับรถเลย

หากขับรถด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วละสายตาจากการขับเพียง 4 วินาที จะทำให้รถเคลื่อนที่ได้ไกลกว่า 100 เมตร ซึ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น 2-4 เท่าตัว ดังนั้นแนะนำให้งดกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมือถือหรือสมาร์ตโฟนในขณะขับรถจะดีกว่า ถือว่ารับผิดชอบชีวิตผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกันด้วย

4. กฎจราจรมีไว้ให้เคารพ

เดี๋ยวนี้คนใช้รถ ใช้ถนนหย่อนยานเรื่องกฎจราจรกันมากขึ้นเรื่อย ๆ มองซ้าย มองขวาไม่เห็นตำรวจก็ฝ่าฝืนกฎจราจรทันที ทั้งที่กฎจราจรถือเป็นกฎส่วนกลางที่นำมาใช้ควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ คิดซะว่าเสียเวลานิดหน่อยเพื่อเคารพกฎจราจรดีกว่าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วไม่คุ้มกัน

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนขับรถรู้กันดีอยู่แล้วทั้งนั้น แต่รู้แล้วทำไหม..ต่างหากที่สำคัญ ถ้าได้แค่รู้ แต่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยทำก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดอุบัติเหตุ ทางที่ดีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังพวงมาลัยขณะขับรถซะ นอกจากจะเป็นการประกันความปลอดภัยของตัวเองแล้วยังถือเป็นการรับผิดชอบชีวิตผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ ด้วย