'เจษ เจษฎ์พิพัฒ' ปัดเป็นต้นเหตุ 'ยิปซี-ณอห์ณ' รักร้าว

‘เจษ เจษฎ์พิพัฒ’ ปัดเป็นมือที่ 3 ‘ยิปซี-ณอห์ณ’ รักร้าว

วันที่ 21 ก.ย. ที่สตูดิโอ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ พระเอกหนุ่ม มาร่วมงานแถลงข่าว “one สนั่นจอ กันยายน” จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องอดีตแฟนสาว ยิปซี คีรติ ได้เลิกรากับพระเอกหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ สาเหตุฝ่ายหญิงกลับไปคุยกับแฟนเก่า หลายคนมองว่าแฟนเก่าคนนั้นคือหนุ่มเจษหรือเปล่า

โดย เจษ เผยว่า “ผมเห็นจากข่าวนี้แล้ว แต่ไม่ได้พูดคุยอะไร เพิ่งรู้เมื่อคืนวาน เพื่อนส่งมาให้ดู ถามว่าเป็นห่วงมั้ย ไม่รู้สิ จริงๆ มันผ่านมาแล้วในส่วนของผม ยิปเขาเป็นคนดูแลตัวเองได้ คิดว่าเขาน่าจะเข้มแข็ง แต่เขาเป็นคนจริงจังกับความรัก ถ้าเกิดไม่เวิร์กเขาจะเสียใจมาก แต่เขาก็รู้ว่าต้องทำยังไงให้ชีวิตเขาไปต่อได้”

ก่อนหน้านี้เขาได้มีมาปรึกษาเราไหม ?
“คือเราคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้คุยเรื่องอะไรพวกนั้น มันเซนสิทีฟ เพราะพี่ฌอห์ณก็เป็นพี่ผม สำหรับข่าวที่ว่าเขาเลิกกันเพราะยิปกลับมาคุยกับคนเก่า และคนมองว่าเป็นผมนั้น มันไม่ใช่ผมแน่ๆ ความถี่ในการคุยกันแค่ 2 ครั้งต่อปี ไม่น่าใช่ผมหรอก”

เราก็สนิทกับฌอห์ณเหมือนกัน ?
“ตอนนั้นสนิทกันครับ แต่พอแยกกันไปทำงานของแต่ละคนก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย เหมือนเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันในตอนนั้น พอมันผ่านไปก็ไม่ได้อะไรแล้ว ถามว่ากลัวคนของเราเข้าใจผิดมั้ย ไม่มีทางหรอกครับ เพราะทุกครั้งที่คุยเราก็บอกเขาตรงๆ ว่าวันนี้ได้คุยนะ ยิปเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เล่าให้ฟังเลย เพราะผมรู้สึกว่ามันผ่านไปแล้ว ถ้าเราอยากรู้เรื่องของเขา ก็ต้องเล่าเรื่องของเราให้เขาฟังเหมือนกัน”

เรามีคนคุยอยู่แต่ไม่เปิดตัว ?
“ผมรู้สึกว่าให้มันเรียบง่ายดีกว่า มันเป็นเรื่องของชีวิตอีกส่วนหนึ่ง แต่ไม่ได้ปิดถึงขั้นว่าต้องเข้าโรงหนังคนละเวลา ก็ไปไหนมาไหนปกติ แต่แค่ไม่โชว์ให้ใครเห็น ไม่มีความคิดที่จะออกสื่อ”

เวลามีข่าวเรากับยิปซี เขามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง ?
“ผมคุยกับเขาตลอดว่าเรื่องราวไปถึงไหนแล้ว ถ้าพูดคุยก็บอกว่าคุยสารทุกข์สุขดิบ แสดงความจริงใจให้เขาเห็น เพราะผมกับยิปก็ไม่ได้เจอกันเลย เขาเป็นฟรีแลนซ์ไม่ได้อยู่ช่องวันแล้ว ไม่มีโอกาสทำงานด้วยกัน ไม่ได้เจอกัน และตอนนั้นเราจบกันด้วยดี มีความรู้สึกที่ดีให้กันในตอนนั้น และพูดกันไว้ว่ามีอะไรสามารถปรึกษาได้ อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย”

เขาโสดแล้ว แฟนๆ ก็เชียร์ให้กลับมาดีกัน ?
“อีกแล้วเหรอ แต่ผมว่าทั้งเขาและผมไม่น่าจะคิดถึงจุดนั้นแล้ว”

ตอนนี้คนของเราไปเรียนต่างประเทศ มีแพลนที่จะไปหาเขาไหม ?
“ยังไม่มีแพลนเลยครับ ตอนนี้ทำงานหนักมาก แพลนล่วงหน้านานไม่ได้ แต่ตัวเขาเองอาจจะมีแพลนกลับมา ถามว่ากลัวระยะห่างจะทำให้รักเปลี่ยนไปมั้ย มันไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้คนเราไม่คุยกัน น่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า ความห่างอาจจะทำให้เกิดเรื่องอื่น ถ้าเรื่องอื่นนั้นเราเคลียร์กันไม่ได้ ผมว่าน่าจะอย่างนั้นมากกว่า เราไว้ใจซึ่งกันและกัน ผมไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้ ถ้าความรู้สึกเปลี่ยนไป เราจะไม่ฝืนกันและกันครับ”