ถาม…
บางครั้งการที่เราคิดในเรื่องบางเรื่องอยู่คนเดียว คิดซ้ำไปซ้ำมา จนละอายแก่ใจที่เพ้อบ้า ๆ บอ ๆ ยิ่งไม่อยากคิดภาพก็ยิ่งโถมเข้ามา อยากจะลืมแต่มันทำไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีความสุขเลย สิ่งดี ๆ คงไม่หวนกลับมาอีกแล้วเข้าใจค่ะ แต่ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นมาก็จะยังคงอยู่ตลอดไป ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ…..
ตอบ…
ไม่มีความรู้สึกสุขหรือทุกข์ใดที่จะอยู่กับเราตลอดไปหรอกครับ ต่อให้เราอยากจะกอดเก็บมันเอาไว้แค่ไหน ก็ไม่สามารถทำได้ ถึงจะทุกข์แค่ไหน แต่เรายังมีหน้าที่ที่ต้องทำ และเพื่อให้ช่วงเวลาเลวร้ายผ่านพ้นไปได้เร็วยิ่งขึ้น
ผมขอแนะนำให้คุณลองปฏิบัติห้าข้อต่อไปนี้ดูนะครับ !!!
1. ทำสิ่งที่ควรทำ
มีหน้าที่อะไร รับผิดชอบอะไรอยู่ก็ทำให้ดีที่สุด อย่าปล่อยตัวปล่อยใจให้เลื่อนลอย อย่าทิ้งหน้าที่ของตนเอง ยิ่งทุกข์มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องตั้งใจทำงานให้ดี ขยันสุด ๆ พัฒนาตัวเองสุด ๆ เอาจิตใจจดจ่ออยู่กับการงานของเราไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. พยายามทำตนให้มีแสงสว่างในตนเอง
เมตตาให้มากๆ เห็นแก่ตัวให้น้อย ๆ คิดถึงคนอื่นมาก ๆ คิดถึงตัวเองน้อย ๆ เมื่อคิดถึงคนอื่นมาก เราจะโกรธเกลียดน้อยลง อภัยได้ง่ายขึ้น เข้าใจเหตุผลของผู้อื่นง่ายขึ้น จิตใจก็จะเบาขึ้น
3. พูดแต่สิ่งดี
อย่าพูดสิ่งทำลายความหวัง อย่าทำสิ่งที่ทำให้ชีวิตของตนหดหู่ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่า อย่าย้ำคิดย้ำทำ อย่าโทษคนอื่น อย่าโทษตัวเอง อย่าโทษฟ้าโทษดิน แต่ให้ยอมรับว่าสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ทำความเข้าใจ ให้อภัย และวางแผนชีวิตเพื่อจะก้าวเดินต่อไป
4. ฝึกมองด้านดี ๆ ของชีวิต
เมื่อความทุกข์มาเยือน เราก็ต้องสร้างแสงสว่างให้เกิดขึ้น จงมองโลกให้มันสว่างไสว มองข้อดีของตนเอง มองข้อดีผู้อื่น พูดให้กำลังใจคนอื่น พูดให้กำลังใจตนเอง ดีใจกับคนอื่น ใจดีกับตนเอง มองอะไรในด้านที่บวก เก็บเกี่ยวกำลังใจที่ผ่านเข้ามา และ สนุกกับชีวิต ทำสุขภาพจิตให้เบิกบานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
5. ท่องไว้เสมอ ท่องซ้ำ ๆ ให้ขึ้นใจ
ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งของ ชื่อเสียง หรืออำนาจ วาสนา เราเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่เกิดมา เป็นแค่คนที่อยู่บนโลกเพียงชั่วคราว อย่าไปเอาเป็นเอาตายอะไรกับชีวิตมากมาย คนเรามีผิดได้ พลาดได้ ล้มได้ก็ลุกได้ ลุยให้เต็มที ทำให้สุดแรง แต่พอจบแล้วก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวางสิ่งนั้นลง ทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องความรัก หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ทุกเรื่องราวก็ใช้หลักการเดียวกันคือ สร้างเหตุให้เต็มที่ แล้วปล่อยวางในผลลัพธ์ หมายความว่า ถึงเวลาทำก็ทำให้ถึงที่สุด เมื่อทำดีที่สุดแล้ว แม้อะไรจะเกิดขึ้น ก็ยอมรับด้วยความเข้าใจว่าเราได้ทำเต็มทีแล้ว และไม่ควรเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความทุกข์ เสียใจ หรือความผิดหวังในชีวิตเป็นสิ่งที่เราไม่อาจหลีกเหลี่ยง อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าถ้าเราพยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง พยายามรักษาฐานที่ตั้งของชีวิต ทำสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าชีวิตของเราจะเกิดปัญหาอะไร อุปสรรคจะยิ่งใหญ่แค่ไหน
ผมคิดว่ามันย่อมผ่านพ้นไปได้ในที่สุด
"ถ้าอยากมีชีวิตใหม่ ก็ต้องกัดฟันลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่"
มันอาจไม่ง่ายนัก แต่เราก็ต้องฝืนใจทำ
อย่าปล่อยให้ชีวิตจมอยู่ในมุมอับเฉานานเกินไป
เพราะความสุขนั้นใกล้แค่เอื้อมมือคว้า
เพียงแต่เราต้องรู้จักเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้างเท่านั้นเอง…
ความเห็น 30
Tui of Earth
ชอบบทความนี้จัง และอีกหลายๆบทความ มันเหมือนเราพยายามเข้าใจปรัชญาของชีวิต ที่ประกอบไปด้วยสุขและทุกข์ ไม่มีใครจะสุขได้ตลอดและไม่มีใครจะทุกข์ได้ตลอด สุขและทุกข์ต่างก็ต้องใช้เวลาจัดการกับมัน
06 พ.ย. 2562 เวลา 10.49 น.
สุนัน
ดีมากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
07 พ.ย. 2562 เวลา 03.55 น.
😸รวิวรรณ 😽
ให้พิจารณาทุกอย่างไม่เที่ยง ร่างกายไม่เที่ยง ความเมตตาจะเกิดเอง เป็นเช่นนั้นจริงๆ สาธุในธรรม
07 พ.ย. 2562 เวลา 04.16 น.
Piyanan2
เตือนสติดีมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
07 พ.ย. 2562 เวลา 03.52 น.
Yong
เมื่อใจมีทุกข์เป็นเพราะความคิดผิดคือมันคิดไม่ถูกมันมักจะคิดเข้าข้างตัวเองและเห็นแก่ตัวเพราะยังมีกิเลสโลภโกรธหลงและทิฐิมานะมันหนาแน่นอยู่เต็มหัวใจของเราพาเราไปทำบาปกรรมก็เพราะความไม่รู้สึกตัวหรือขาดสติปัญญาตลอดจนขาดเมตตาไม่สามารถให้อภัยและไม่สามารถปล่อยวางอะไรอะไรได้เลยควรจะแก้ไขใจของเราให้ผ่องแผ้วโดยพยายามไม่ทำบาปเพิ่มและมาเจริญบุญกุศลด้วยการทำความรู้สึกตัวรู้เท่าทันอารมณ์เพื่อจะได้ปล่อยวางอารมณ์ที่เป็นฝ่ายบาปอกุศลที่ทำให้ใจเราฟุ้งซ่านคือความหลงให้หมดสิ้นไปเป็นผู้หายหลงก็เพราะมีสติรู้สึกตัวดังคำ
07 พ.ย. 2562 เวลา 03.25 น.
ดูทั้งหมด