โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ได้ใจ! สื่อจีนชม “อั้ม - เบลล่า” ไล่แบนดาราบางกลุ่ม “นานา” โดนโต้เจ็บแสบ “คอลเอาต์” เหยื่อการเมือง?

Manager Online

เผยแพร่ 25 ก.ค. 2564 เวลา 12.14 น. • MGR Online

สื่อจีนชม “อั้ม - เบลล่า” call out สร้างสรรค์ ไล่แบน กลุ่มด้อยค่าวัคซีน ชนวนเหตุดรามาข้ามชาติ คนอเมริกันเชื้อสายไทย ซัดกลับ “นานา” ไม่รู้จริง แค่อยากโจมตีไทย ชำแหละ “คอลเอาต์” ยุทธวิธีใหม่ ใช้ “ดารา” เป็นเครื่องมือ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(25 ก.ค.64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น สื่อจีนชม “อั้ม พัชราภา - เบลล่า ราณี” call out สร้างสรรค์ ไล่แบน “กลุ่มดารา” วิจารณ์ด้อยค่าวัคซีน ชนวนเหตุดรามาข้ามชาติ”

โดยเนื้อหาระบุว่า “สืบเนื่องจากกรณีที่คนบันเทิงหลายคนพากันออกมาแสดงความเห็นผ่านโซเชียล เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเรียกร้องให้รีบนำเข้าวัคซีน mRna เข้ามาโดยเร็ว และโจมตีวัคซีนซิโนแวคจากจีน ซึ่ง มีดารา คนดัง ร่วมวิพากษ์วิจารณ์ด้วย

ต่อมาได้มีกระแสจากสื่อจีน ที่ออกมาวิจารณ์ดาราไทยหลายคน โต้การวิจารณ์ในเชิงด้อยค่าวัคซีนซิโนแวค และได้มีกระแสชื่นชม “อั้ม พัชราภา และ เบลล่า ราณี” ว่าออกมา call out ได้อย่างสร้างสรรค์ ช่วยเหลือคนอื่น ขณะที่ก็มีกระแสต่อว่า “แต้ว และ “ใหม่ดาวิกา” ว่า เราบริจาควัคซีนให้เขา ยังสมควรถูกต่อว่าด้วยเหรอ

ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กของ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล ระบุว่า “ล่าสุด ทีมงาน FC ของผมที่เชี่ยวชาญภาษาจีน ได้ไป ตลุยในสื่อโซเชียลจีนมา และได้ทำการแปลเม้นต์ทัศนะของคนจีนที่มีต่อการ call out ของเหล่าดาราไทย ใครเป็นใคร โดนคนจีนวิจารณ์อย่างไร เชิญทัศนากันเอาเองละกันนะครับ ตอนนี้ผมขอหลบไปกินน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในก่อน”

ขณะที่ชาวจีน แห่คอมเม้นท์ดุเดือด เช่น คอมเม้นท์ถึง “ใหม่ ดาวิกา” ว่า พวกเค้าห่อหุ้มด้วยอุดมการณ์ความรักชาติ อ้างสิ่งที่ตัวเองคิดว่า เป็นความชอบธรรมทางการเมือง ต่อต้านวิทยาศาสตร์ เหมือนที่ชักจูงคนให้หลงทาง, ฉีดหรือไม่ฉีดเป็นเรื่องของพวกเค้า ตอนนี้ประเทศจีนทำเต็มที่แล้ว ดูอั้มสิ นางเป็นตัวอย่างที่ดีของซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย

คอมเม้นต์ถึง “แต้ว ณฐพร” ว่า บริจาควัคซีนให้พวกเค้า เราก็ยังถูกด่า สมควรเหรอ? พูดตามตรงฉันคลั่งไคล้ดาราบางคน ขณะเดียวกันฉันก็แอนตี้ความคิดพวกเค้า, คนไทยเองเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ พวกเราเป็นคนนอกที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ฉันไม่พอใจที่พวกเค้าใช้วัคซีนจีน เป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมือง

ขณะที่ชาวจีน พูดถึง อั้ม พัชราภา ว่า “อั้ม เป็นดาราไทยส่วนน้อย ที่สนับสนุนซิโนแวค และตัวเธอเองก็ยังฉีดซิโนแวคอีกด้วย, อั้ม เริ่ด มาก ดีกว่าพวกที่ออกมา Call Out เรียกร้องวัคซีนจากรัฐบาลมาก ฉันชอบคนที่มีทัศนคติแบบนี้ และพูดถึงเบลล่า ราณี ว่า ชาวเน็ตบางคนก็พอเถอะ ก้าวล่วงเกินไปแล้ว เบลล่า มักบริจาคเงินช่วยการกุศล และช่วยแพทย์ รวมถึงคนยากจน ทำไมไม่พูดกันบ้าง งงกับพฤติกรรมเน็ตไทยทุกวันนี้ คนไทยสมองป่วยหนักมาก

นอกจากนี้ที่ผ่านมา พบว่า คนดังในวงการบันเทิงที่ call out เรื่องวัคซีนและเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนำเข้าวัคซีนแบบ mRna จะมี เพชร กรุณพล , หมิว สิริลภัส , ต่าย ชุติมา , ป้อง ณวัฒน์ , บอม ธนิน , ญาญ่า อุรัสยา , คิมเบอร์ลี่ , ศิลปินสังกัดนาดาว , มิลลิ , ปุ้ย พิมลวรรณ , แม็ก เจนมานะ , มดดำ คชาภา , แดน วรเวช , หยาดทิพย์ ราชปาล และ ก้อย อรัชพร รวมทั้งต้าเหนิง ก็เคยมีประเด็นที่รีทวีตข้อความเรื่องวัคซีน จนโดนแฟนๆ ชาวจีนถล่ม จนต้องยอมออกมาขอโทษด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลไทยด้วยว่า ดาราบางคนหากินกับประเทศจีน ก็ไม่น่าจะไปด้อยค่าวัคซีนเขา ส่วนดาราช่อง 3 หลายคน ละครบางเรื่องก็ไปขายที่จีน ลงเว็บจีนด้วย พลาดแล้วที่ปล่อยให้ดาราออกมาวิจารณ์เสียหาย เพราะถ้าจีนแบนใครก็เป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน เพราะตลาดจีนรักดาราไทยมาก

ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ คนอเมริกันเชื้อสายไทย เหลืออด ซัดกลับ “นานา” ไม่รู้จริง แค่อยากโจมตีไทย สหรัฐฯอันตรายกว่ามาก

โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกรณี “นานา ไรบีนา” อดีตพิธีกรไทยชื่อดัง ภรรยา “เวย์ ไทยเทเนี่ยม” นักร้องชื่อดัง ได้ โพสต์ภาพจุดฉีดวัคซีนในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ติดป้ายเขียนว่า “FREE COVID-19 VACCINE HERE” หรือ “รับวัคซีนโควิด-19ที่นี่ฟรี” พร้อมทั้งโพสต์ข้อความ “โจมตีประเทศไทย” อวยสหรัฐฯ ทำให้มีคนไทยจำนวนหนึ่ง ร่วมวงโจมตีประเทศ และดินเครดิตรัฐบาลไทย

ล่าสุดได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Suttikan P. Vickers ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาระบายความในใจ เพราะเห็นแย้ง อดีตพิธีกรไทยชื่อดัง พร้อมซัดกลับอย่างรุนแรง ว่า

“#คุณนานา คุณจะมาน้ำตาไหล แบบนี้ไม่ได้นะคะ ก่อนที่คุณน้ำตาจะไหล คุณรู้บ้างมั้ย ว่าคนอเมริกันต้องเจอ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ??? ภาพ อาหารหมดเชลล์ คนยืนต่อแถวซื้ออาหารกักตุนในวันเงินเดือนออกยาวมาก คนแย่งซื้อกระดาษชำระ ผู้คนเงียบเหงาบนท้องถนน

หวาดระแวงกันเอง คนแห่ซื้อปืน เพื่อปกป้องตัวเอง เพราะถ้าเกิดการกันดารอาหาร ความยากจน ก็จะเกิดการลักเล็กขโมยน้อย ต้องไปหาปืนติดไว้ประจำบ้าน คนตายวันละหลายพัน คนติดวันละเป็นหมื่นเป็นแสน คุณไม่น้ำตาไหลเหรอคะ???

คุณมาในตอนที่มันคลี่คลายแล้ว มีวัคซีนแล้ว คุณก็บอกว่ามันง่ายมาก ในการรับวัคซีน ตอนโควิดระบาดหนักๆในอเมริกา คุณไปอยู่ไหน? ทำไมคุณไม่มาร่วมทุกข์กับคนอเมริกันล่ะคะ คุณมาร่วมแต่ตอนที่นี่สุขแล้ว คุณอยู่เมืองไทยสบายใจเฉิบๆ แต่พอเมืองไทย ติดหนัก หนีมาอยู่ อเมริกา มาบอกว่าดีงั้น ดีงี้ เข้าถึงง่ายงั้นงี้ เพราะประเทศเขาผลิตเองไงคุณ มันเลยได้ใช้ เร็ว ดี ฟรี ง่าย จากภาษีประชาชนที่นี่ ไม่ต้องสั่งจองไม่ต้องรอ เหมือนบ้านเรา

คุณไม่รู้หรอกว่า ดิฉันติดโควิด เดือนนี้ปีที่แล้ว มันเป็นยังไง ยาไม่มีให้สักเม็ด ให้กลับบ้านไปรักษาตัวเองที่บ้าน ถ้าเกิดอาการหนักตายที่บ้าน หมอก็ไม่รู้ มีแต่คนที่มาเก็บศพไปฝังเท่านั้นเองที่รู้ ตรวจโควิด ผลก็ต้องรอเป็นอาทิตย์กว่าจะรู้ว่าติดไม่ติด อาการทุกอย่างมีหมด แต่ไม่มีวัคซีนค่ะคุณ ไม่มียาสักเม็ดค่ะคุณ ไม่มีเตียง ไม่เคยร้องเรียกหาเตียงไม่เคยด่าหมอพยาบาล ไม่เคยด่ารัฐบาล

ตรวจเจอ ก็ให้กลับบ้าน รักษาตัวที่บ้าน เพราะคนที่นี่ เขาเข้าใจได้ ว่ามันเป็นโรคเกิดใหม่ ไม่มียารักษา เขาเข้าใจได้ หมอให้กลับบ้านก็กลับ กลับแบบ งง งง ค่ะคุณ ครอบครัวเราติด 6 คน เราร้องไห้ พร้อมนอนรอความตายมาพอแล้วค่ะ แล้วคุณจะมาร้องไห้น้ำตาไหลเพื่ออะไร?

พวกเราชาวอเมริกัน ร้องไห้มาหนักพอแล้ว คนตายไป 6 แสนกว่า เราร้องไห้กันมามากพอแล้วค่ะ ของคุณเพิ่งไหลเองค่ะ ดิฉันอยู่ที่นี่ ไม่เคยเลยที่จะ ถ่ายภาพฉีดวัคซีนฟรีที่นี่ไปลงเลย แม้แต่ครั้งเดียว ไม่รู้จะถ่ายไปทำไม ในเมื่อที่ไหนส่วนใหญ่ก็ฟรีค่ะ…..

อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://truthforyou.co/58422/?anm=

ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น ไม่ใช่การ คอลเอาต์ธรรมดาแล้ว! ชำแหละลึก ยุทธวิธีต่อสู้ทางการเมืองรูปแบบใหม่ ใช้ นักร้อง-ดารา เป็นเครื่องมือ โจมตีนายกฯ

เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่มีการออกมาแสดงความคิดเห็น ของกลุ่มดารา นักร้อง เรื่องวัคซีนที่ประเทศไทยกำลังฉีดให้อยู่ในปัจจุบัน

การกล่าวถึงการทำหน้าที่ของระบบราชการ ของการบริการในการจัดหาเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ป่วยกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก การไม่พอใจต่อการระบาดของเชื้ออย่างรวดเร็วมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และการไม่สามารถมีรายได้หรือประกอบการงานได้ในช่วงของการมีมาตรการต่างๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ หลายประเทศในโลกนี้ก็หาได้ต่างจากประเทศไทยไม่

และการจะเคลมหรืออ้างว่า เป็นตัวแทนของประชาชนที่จะมากล่าวหารัฐบาล ประจานนายกฯ ก็แล้วแต่สื่อบางค่ายจะว่ากันไป

ดารา นักร้อง ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ประเด็นนี้ไม่มีใครเถียง การวิพากษ์วิจารณ์ กับการด่าทอ มันก็ต่างกัน สำหรับประเด็นหลังคือการด่าทอ ให้ร้าย ใครก็ตามก็ไม่มีสิทธิทำ การที่ดารา นักร้อง จะวิพากษ์ วิจารณ์ ก็มีสิทธิทำได้อยู่แล้ว แต่การจะไปเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาการดำเนินการทางการเมือง ไม่ว่าจะของฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ กลุ่มใด ก็อาจต้องพึงระวังให้ดี ว่ากำลังนำไปสู่การเลือกข้าง และทำลายล้างทางการเมืองของฝ่ายตรงกันข้ามอยู่หรือไม่

ถ้าดารา นักร้อง ท่านใดที่เลือกข้างทางการเมือง และต่อสู้เพื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทางการเมือง ก็ไม่ขอกล่าวถึงและเป็นสิทธิของท่าน เอาให้ชัด จะเรียกร้องให้นายกฯลาออก เพราะเป็นนายกที่แย่ในสายตาคุณ ก็ทำไป ทุกฝ่ายเข้าใจได้ และคนส่วนใหญ่เข้าใจคุณ เช่น กรณีที่พระเอกท่านหนึ่งที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง เรียกร้องให้ นายกฯลาออก หรือนักร้องชื่อดังที่ด่าประจานรัฐบาลอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็เข้าใจได้ เพราะคุณเป็น “ดารา นักร้อง ที่เกี่ยวข้องการเมือง” ความชัดเจนแบบนี้ไม่มีใครว่า

แต่ถ้าดารา นักร้อง ท่านใด ที่กำลังทำไปตามแรงเหวี่ยงของสื่อ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเลือกข้างทางการเมือง ถ้าคุณจะกล่าวให้ร้ายต่อ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือรัฐบาล ด้วยถ้อยคำต่างๆ ทั้งเสียดสี โจมตี ให้ร้าย หยาบคาย แตกต่างกันไป

การทำแบบนี้ก็จะนำไปสู่การโต้กลับจากฟากฝั่งการเมืองในส่วนของรัฐบาล ดารา นักร้อง ท่านทราบหรือไม่ว่า ท่านจะเป็นส่วนหนึ่งของ “ยุทธวิธีต่อสู้ทางการเมืองรูปแบบใหม่” ที่ฝายตรงข้ามกับฝ่ายบริหารรัฐ กำลังใช้ “Influencer” ซึ่งท่านเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย และ ดารา นักร้อง คือ Influencer ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ท่านพูดอะไร ท่านกล่าวอะไรไป ท่านเขียนอะไรไป ก็จะส่งผลต่อประชาชนในวงกว้าง

การสร้างกลยุทธ์ การต่อสู้ทางการเมือง ให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน กล่าวเสียดสี โจมตี ให้ร้าย หยาบคาย ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นว่า เป็นคนที่มีความกล้า เป็นคนที่โดดเด่น ยิ่งหยาบคายมาก ก็จะถูกตีความว่า เป็นคนที่กล้ามาก ยิ่งมีการดำเนินการต่อคนที่มีระดับสูงมาก ก็ยิ่งโดดเด่นมาก ถือเป็น “การปลดแอก” “การไม่ทน” “การเป็นคนที่มีประชาธิปไตย” ฯลฯ แต่กลยุทธ์หรือยุทธวิธีนี้ ได้ผลน้อยลงทุกที

การใช้ Influencer จึงถูกนำมาใช้มากขึ้นทุกที และการผลักให้ ดารา นักร้อง ซึ่งเป็น Influencer ที่สำคัญมากๆ กลายเป็นคู่ขัดแย้งของฟากฝั่งรัฐบาล จึงมีให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นทุกที

ดารา นักร้อง ของกลุ่มที่เรียกว่า สลิ่ม ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ออกมาเป็นกันชนให้รัฐบาลแต่อย่างใด แต่ที่ออกกันมาก็เพราะมีการโจมตีให้ร้ายสถาบันสูงสุดของชาติ เท่านั้น แต่ดารา นักร้อง ที่ออกมาในขณะนี้ ในการเสียดสี หรือ โจมตี หรือให้ร้าย หรือ ด่าทอด้วยข้อความที่หยาบคาย และบอกว่านี่คือกระบอกเสียงของประชาชน ก็ควรเลือกหรือแสดงให้ชัดว่า ไม่ได้อยู่ฟากฝั่งตรงข้ามทางการเมือง

ไม่มีส่วนได้เสียทางการเมือง และเป็นการดำเนินการในนามประชาชน เพราะดารา นักร้อง ก็เป็นคนของประชาชน ท่านก็จงอย่าให้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีนี้ในการต่อสู้กันทางการเมือง เพราะท่านเป็น Influencer ที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อแก้ปัญหาชาติร่วมกัน

หลายฝ่ายเห็นพ้องกันมากขึ้นว่า การที่ ดารา นักร้อง ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยการเสียดสี หรือ โจมตี หรือให้ร้าย หรือ ด่าทอด้วยข้อความที่หยาบคายต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมากขึ้น เป็นเพราะสถานีช่องบันเทิงสำคัญหลายช่อง ก็ถูกตั้งคำถามถึงเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย มีการกล่าวเสียดสีขณะดำเนินรายการทั้งรายการข่าวหรือรายการอื่นๆ ก็มีให้เห็นมากมาย

ขออย่าให้ ดารา นักร้อง ทำแบบนี้ เพราะเห็นตัวอย่างจากช่องเหล่านี้ หรือ ทำไปเพราะได้รับการคอมเม้นท์เห็นด้วยในช่องทางการสื่อสารในฐานะ Influencer ของท่านเลย ถ้าท่านไม่ได้ประสงค์จะสร้างความแตกแยก หรือฝักใฝ่ทางการเมือง ก็จงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งให้เกิดการแก้ไขปัญหา สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติชาติร่วมกันในฐานะ Influencer ที่สำคัญของชาติเถิด

อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://www.thaimoveinstitute.com/38725/?anm=

แน่นอน, เรื่องที่หยิบยกมา บทสรุปอยู่ที่โพสต์ท้ายสุด ซึ่งดารา นักร้อง คนดัง จะต้องหันกลับมาทบทวนตัวเอง ว่า ทำไปเพื่ออะไร แสดงความคิดเห็นโดยปกติ ติเพื่อก่อ วิจารณ์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ดีขึ้น หรือไม่

หรือว่า เพราะกระแสหิวแสง เพราะเลือกข้างทางการเมือง หรือ ทางช่องที่สังกัด เลือกข้าง จึงเลือกทำตาม ทุกอย่างมันมีผลต่อการแสดงออกทั้งสิ้น และผลลัพธ์ ก็แตกต่างกัน ระหว่างการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น กับการ ด่า ประจาน ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และไม่มีเหตุผลอันสมควร เพราะเมื่อไปเจอกันที่ศาล สิ่งเหล่านี้จะส่งผลอย่างไร ก็อยู่ที่เจตนานั่นเอง

ยิ่งกว่านั้น กระแส “คอลเอาต์” ก็นับว่าน่าสนใจ เพราะดูเหมือน จะกลายเป็น “กลยุทธ์ใหม่” หรือ ยุทธวิธีใหม่ในการต่อสู้ทางการเมือง ของพวก 3 กีบ หรือฝ่ายที่ต้องการล้มลางอำนาจรัฐ ล้มล้างสถาบันฯ อย่างเห็นได้ชัด เพราะได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ดารา นักร้อง คนดังทั้งหลาย มีอิทธิพลทางความคิด อิทธิพลในการตัดสินใจของประชาชนอย่างมาก และขณะเดียวกัน อาจทำให้ดารา นักร้อง คนดัง ที่บริสุทธิ์ใจ ตกเป็นเหยื่อ และเป็นเครื่องมืออย่างไม่รู้ตัวได้ง่าย

แต่ถ้าเป็นการ “จงใจ” และเลือกใช้วิธีด่าประจานด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้เขาเสียหาย ก็จะมาเรียกร้อง “เสรีภาพ” อย่างไม่แยกแยะอย่างที่ทำกันอยู่ไม่ได้เช่นกัน เพราะอย่าลืม บ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย เอาอย่างพวก 3 นิ้วเมื่อไหร่ มีแต่เสียหายเมื่อนั้น ไม่เชื่อคอยดู!!!

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0