จากกรณี "น้องกานต์" หนูน้อยวัย 6 ขวบ หายออกจากบ้านเลขที่ 29 ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา จนพบเป็นศพเสียชีวิตอยู่ในป่ายาง ซึ่งห่างจากบ้านของน้องประมาณ 200-300 เมตร สภาพเหลือเพียงครึ่งท่อน
วันที่ 7 ก.ค.63 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ศาลาบ้านโป่งแรด หมู่ 2 ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี โดยในวันนี้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กำนัน แพทย์ตำบลพลับพลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และหมู่ 12 และชาวบ้านในพื้นที่ รวมประมาณ 20 กว่าคน ได้ทำการค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะของน้องกานต์ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. - 11.00 น.
ทั้งนี้จุดที่เริ่มค้นหา คือ ศาลากลางของบ้านโป่งแรดหมู่ 2 และเดินรัดเราะตามลำธาร หรือร่องน้ำบริเวณ หมู่ 2 จนถึง หมู่ 3 และวนกลับมาที่บริเวณจุดพบศพ ระยะทางการค้นหา อยู่ในรัศมี 1 ก.ม. จากจุดที่พบศพ โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่เดินริมลำธาร และกลุ่มที่เดินในลำธาร การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีฝนตกอยู่ตลอดทั้งวัน จนในที่สุดก็ยังไม่พบชิ้นส่วนอวัยวะจึงต้องหยุดการค้นหา
น.ส.จันทนา นนธิจันทร์ อายุ 33 ปี อาสะใภ้น้องกานต์ บอกว่า สาเหตุของการตาย ยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร และไม่ทราบว่าทำไมศพถึงมาอยู่ตรงนี้ ทั้งที่เดินหาตั้งหลายรอบแล้ว อีกทั้งยังสงสัยว่าก่อนตายน้องกานต์ถูกสุนัขกัดหรือไม่ ซึ่งไม่อยากใส่ร้ายใคร เท่าที่สังเกตเห็นสุนัขแถวนี้มักจะเดินเล่นตามสวนผลไม้ของชาวบ้าน และไม่เคยกัดใครมาก่อน ในส่วนของพิธีทางศาสนา อยากจะเก็บศพหลานชายไว้ก่อน จนกว่าเจอชิ้นส่วนที่เหลือ
นางปราณี คงศิริสัจธรรม เจ้าของบ้านร้างในสวนมังคุด บอกว่า ปัจจุบันนี้บ้านพักที่ชาวบ้านเรียกกันว่าบ้านร้าง เป็นบ้านพักของคนงานที่เข้ามาทำสวน ในช่วงเก็บเกี่ยวมังคุด คือมีนาคม - เดือนเมษายน ซึ่งคนงานจะอยู่ที่บ้านพักแห่งนี้ตลอด แต่ตนไม่เคยมาอยู่ที่บ้านแห่งนี้ โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้ขอพรกับศาลพระภูมิและศาลตายายไว้ว่า ถ้ายอดขายผลไม้ดีจะมาตั้งศาลให้ใหม่ และสิ่งที่ขอไว้ก็เป็นจริง จึงตั้งศาลให้ใหม่ทันที ส่วนฮวงซุ้ยที่ตั้งอยู่ตรงกลางสวนเป็นสถานที่เก็บกระดูกของเจ้าของที่ดินคนเก่า
วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ทีมประดาน้ำจากกู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี จำนวน 2 นาย ลงดำน้ำบริเวณบ่อน้ำท้ายสวนทุเรียน ห่างจากจุดพบศพน้องกานต์ประมาณ 200 เมตร เนื่องจากมีชาวบ้านบางส่วนระบุว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าที่บริเวณดังกล่าว
โดยจุดนี้มีบ่อน้ำจำนวน 2 บ่อ อยู่ติดกัน บ่อแรกความกว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตร น้ำลึกประมาณ 4 เมตร บ่อที่ 2 ความกว้าง 3 เมตร ยาว 8 เมตร น้ำลึกประมาณ 2 เมตร ซึ่งบริเวณบ่อที่ 2 มีร่องรอยดินข้างบ่อลักษณะคล้ายมีคนสไลด์ลงไปจึงเป็นข้อสงสัยว่าเด็กอาจจะพลาดตกลงไปในบ่อ โดยนักประดาน้ำใช้เวลาดำน้ำค้นหาทั้ง 2 บ่อใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
จากนั้นทีมประดาน้ำได้ค้นหาต่อ ที่บ่อน้ำข้างศาลพระภูมิจุดที่พบตุ๊กตามดตะนอย และชิ้นส่วนตุ๊กตานางรำ จุดนี้บ่อกว้างประมาณ 10 เมตร ลึก 7 เมตร ใช้เวลาค้นหาประมาณ 10 นาทีแต่ยังไร้วี่แวว ทั้งหมดจึงยุติการค้นหาในเวลาประมาณ 15.00 น.
นายวราวุธ เพ็ชรมุนี อายุ 32 ปี นักประดาน้ำกู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี บอกว่า จากการลงค้นหาบ่อแรกน้ำค่อนข้างลึก แต่ใต้น้ำใสมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนบ่อที่ 2 น้ำตื้นบางจุดสามารถยืนได้เพราะมีหินอยู่ใต้น้ำ และบางจุดก็มีตอไม้ค่อนข้างมาก แต่น้ำใสเช่นเดียวกันมองหาโดยรอบแล้ว ไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ รวมถึงไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่าทั้ง 2 บ่อ
รศ.ดร.น.สพ.จิตรกมล ธนศักดิ์ อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ม.มหิดล บอกว่า สัญชาติญาณของสุนัขปกติไม่ใช่นักล่า โอกาสกัดแทะกระดูกคน หรือกินเนื้อคนน้อยมาก ส่วนกรณีตัวเงินตัวทอง จะชอบกินซากศพก็ต่อเมื่อหิวจริง ๆ แต่ไม่มีนิสัยแทะกินซากกระดูก
จากนั้น น.ส.จันทนา อาสะใภ้น้องกานต์ นำทีมข่าวเข้าไปสำรวจภายในบ้านบริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งน้องกานต์เคยนอนบริเวณดังกล่าวประมาณ 1 เดือนก่อนย้ายไปนอนเต้นท์ ส่วนตนกับสามีและลูกสาว 2 คนวัย 4 ขวบและ 1 ขวบนอนในห้อง ส่วนด.ช.เมฆ ลูกชายของตนนอนที่โถงติดกับประตูทางเข้าบ้าน
น.ส.จันทนา บอกว่า เหตุที่ให้น้องกานต์นอนหน้าห้องน้ำ เพื่อจะได้ลุกไปฉี่ได้ เพราะเจ้าตัวชอบฉี่รดที่นอน แต่ภายหลังน้องกานต์ยังฉี่รดที่นอนทุกวันจนผ้าเหม็น จึงทำห้องเป็นเต้นท์ให้หลานย้ายไปนอนที่เต้นท์ข้างบ้าน ซึ่งน้องกานต์ก็สมัครใจที่จะนอนบริเวณดังกล่าว โดยมีลูกสาวตนที่นอนอยู่ในห้องติดกันคอยดูแล ส่วนตนต้องนอนในห้องกับลูก 2 คนเพราะลูกคนเล็กวัย 1 ขวบเป็นโรคปอดติดเชื้อ กลัวลูกจะโดนยุงกัด ทั้งนี้ เวลานอนจะเปิดทั้งประตูและหน้าต่างไว้ตลอด เพื่อคอยมองหลานชายที่นอนด้านนอก
ด.ญ.ดาว อายุ 14 ปี ลูกสาวนางสาวจันทนา บอกว่า คืนก่อนที่น้องกานต์จะหายไป ตนไม่ได้นอนในห้องตัวเอง แต่ไปเล่นโทรศัพท์มือถือในบ้านจนเผลอหลับไปเวลา 03.00 น. กระทั่งช่วงเที่ยงตื่นมาทราบจากแม่ว่าน้องยังไม่กลับมาบ้าน ก็คิดว่าคงไปเที่ยวเล่นในสวนผลไม้ตามปกติ
นางบุญเลี้ยง ผลพฤกษา อายุ 65 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เห็นน้องกานต์เดินเล่นในสวนเป็นประจำ เพราะบ้านพักของเด็กอยู่ในสวนมังคุด โดยมักจะมาเดินเล่นเพียงคนเดียว และชอบเดินเก็บมังคุด ยิ่งเป็นช่วงที่เก็บเกี่ยวมังคุดก็จะมาช่วยงานอาเป็นประจำ เชื่อว่าเด็กหรือใครสักคน อาจจะมาหักตุ๊กตานางรำเล่น
ส่วนตัวไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับที่บ้านหลังนี้ แต่ทุกครั้งที่เดินผ่านจะรู้สึกวูบ ๆ ตลอด แต่สามีของเจ้าของที่เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อปีที่แล้ว ช่วงกลางคืนเคยมาเดินเก็บใบกะเพรา ระหว่างที่เดินสายตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงแก่เดินผ่านแถวสวนมังคุด ในลักษณะใส่เสื้อคอกระเช้าลายดอก
ความเห็น 76
ตูน
BEST
พ่อแม่ถึงแยกทางกันแล้วทำไมพ่อแม่คนใดคนหนึ่งถึงไม่เลี้ยงลูกเอง พอลูกเสียจะมาเอาเรื่องให้ถึงที่สุด.คนผิดยังไงก็ต้องได้รับโทษแต่พ่อแม่สิ ลูกของตัวเองยังไม่เลี้ยงดู ไปฝากอาเลี้ยงทำไม
อามีลูกตั้งหลายคน แล้วดูอาให้น้องนอนเต้นท์นอกบ้านสิให้เด็กนอนนอกบ้านได้ไง แล้วบอกน้องชอบเข้าป่า.เด็กถ้าไม่มีปัญหาไม่มีความกดดันเด็กไม่คิดแยกตัวออกห่างจากคนดูแลหรอก. อาคือผู้น่าสงสัย.
08 ก.ค. 2563 เวลา 01.30 น.
#พาสุข..พาสุขใจ#
BEST
พ่อแม่ก้อขาดความรับผิดชอบเอาลูกมาฝากน้องชายพ่อแล้วครอบครัวอาเค้าก้มีลูกหลายคนฐานะเค้าก้อไม่ได้ดีมากมายส่วนคนเป็นพ่อกับแม่น้องต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่ไปเสวยสุขกับผัวใหม่เมียใหม่กันปล่อยน้องให้อยู่แบบโดดเดี่ยวน่าสงสารน้องมากเลยนะคะหมดทุกข?หมดโศกแล้วนะน้องกานต์ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะลูก
08 ก.ค. 2563 เวลา 01.35 น.
Nan
BEST
อย่าโทษหมาไปซะทุกเรื่อง ...
08 ก.ค. 2563 เวลา 01.06 น.
Leevaria
ลูกเรา ควรเลี้ยงเองดีสุด อย่าไปไว้ใจใคร
08 ก.ค. 2563 เวลา 01.11 น.
Yongyee
เคส นี้ ถ้าเรียก เรนนี่มาตรวจสอบพื้นที่, จะได้ผลน่ะ, พนันกับพี่น้องได้เลยว่า, คุณเรนนี่ จะเห็นอะไร เป็นตุเป็นตะ, ยิ่งมีตุ๊กตาหักกลางตัวด้วย, เชื้อว่า ทุกคนไม่ต้องเดา เลยว่า คุณเรนนี่จะพูดอะไร, ช่วงนี้ คุณเรนนี่Hot
08 ก.ค. 2563 เวลา 01.16 น.
ดูทั้งหมด