“ปัญญา” หนึ่งในไตรสิกขาที่พุทธศาสนิกชนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี
ปัญญา เกิดจากการมีสมาธิและศีล
ปัญญาคือ เครื่องขุดรากถอนโคนกิเลสอย่างหนึ่ง เป็นความรอบรู้ รู้ทั้งทางโลก และทางธรรม
พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องปัญญาไว้ว่า “นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา-แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี” ซึ่งอธิบายได้ว่าแสงในรูปแบบอื่นอาจดับหรือริบหรี่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่แสงสว่างที่เกิดจากปัญญาเป็นแสงที่สามารถฝึกฝนเพื่อให้เกิดเพิ่มขึ้นได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญสามารถนำไปใช้ได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน และจะไม่มีวันที่แสงนั้นจะดับลงด้วย แม้แต่คนที่ตามืดบอดก็ยังสามารถเห็นแสงแห่งปัญญานี้ได้ด้วยเช่นกัน
ปัญญาในที่นี้ไม่ใช่ความฉลาด ไม่ใช่ความเก่ง แต่เป็นปัญญาที่เกิดขึ้นจากการคิดหาเหตุผล การเจริญภาวนา การฟังและอ่านเพื่อขุดรากถอนโคนกิเลสที่ทำให้เกิดทุกข์ เพราะการมีปัญญาคือมีสภาพรู้แจ้งตามเป็นความจริง รับรู้ถึงทุกข์ ถึงกิเลสที่เกิดขึ้น ซึ่งพอรู้ชัดว่าจะสามารถทำลายกิเลสได้อย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ ที่สำคัญยังสามารถสอนและแนะนำคนที่ยังลุ่มหลงไปกับกิเลสนั้นได้ด้วย
ปัญญาเป็นสิ่งที่ทำให้ให้มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลก เพราะมนุษย์สามารถคิดวิเคราะห์และเรียนรู้ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีทั้งคุณและโทษขึ้นอยู่กับว่าจะถูกนำไปใช้ในด้านใด เพราะฉะนั้นก่อนจะทำการสิ่งใด ให้ใช้ปัญญาตัดสินอย่างเป็นธรรมก่อนว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี สิ่งไหนถูกหรือผิด แล้วจึงตัดสินทำเฉพาะในสิ่งที่ถูกที่ควร
ใครที่นำปัญญามาใช้อย่างถูกทำนองครองธรรม ก็จะทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมตามความเป็นจริงและไม่เอาเปรียบหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ดังนั้นปัญญาจึงเปรียบเสมือนแสงสว่างส่องนำทางให้เดินไปในทางที่ถูกที่ควรด้วย
การบอกว่าปัญญาคือที่สุดของแสงสว่างนั้นไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงเลย เพราะปัญญาเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มองโลกได้อย่างเข้าใจ มองได้กว้างและลึกซึ้งมากกว่าที่ตาเห็น ดังนั้นหากคนเราดำรงชีวิตด้วยการใช้ปัญญานำทาง ก็ไม่ต่างอะไรจากการเดินทางในตอนกลางคืนแต่มีคบไฟส่องสว่างตลอดเวลา จึงมีความปลอดภัย ในทางกลับกันถ้าใช้ชีวิตแบบไร้สติปัญญา ก็เหมือนกับเดินทางบนถนนที่มืดมิดไม่มีแสงสว่างใด ๆ ซึ่งการเดินทางท่ามกลางความมืดย่อมมีอันตรายมากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว
ความเห็น 38
Tickety-Boo!!!🐈
BEST
เพราะเค้ารู้เหตุแห่งทุกข์..และรู้จักแสวงหาวิธีที่จะดับทุกข์.
24 ก.ย 2562 เวลา 13.55 น.
chAyA
BEST
แท้จริงแล้ว.. ผู้มีปัญญา ไม่แสวงหาทั้งสุขและทุกข์ ความสงบคือปลายทางค่ะ
24 ก.ย 2562 เวลา 14.50 น.
Pol Thunya
ก็ทุกข์มันมีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น ให้แบกไง..
24 ก.ย 2562 เวลา 14.07 น.
F0487ชัชฎา CEO07389
เมื่อเวทนาเกิดเป็นทุกข์ เราก็บอกกับตัวเราเองว่า"ทุกข์นี้คือประสพการณ์ที่เราได้รับและรู้รสชาดกับมันแล้ว" ก็ยิ้มกับมัน ปล่อยให้มันผ่านไปไม่ยึดติดกับมัน ใจเกิดคลายหันไปสนใจอย่างอื่นแทน
24 ก.ย 2562 เวลา 14.26 น.
คำสอนมีอยู่ 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 เป็นสิ่งที่เราศึกษาแล้วรู้เลย
ประเภทที่ 2 เป็นการฝึกสอนวิธีค้นหาในสิ่งที่เราไม่รู้
24 ก.ย 2562 เวลา 14.08 น.
ดูทั้งหมด