คนทุกคนเวลามีความรักมักจะพยายามทำให้ความรักแฮปปี้ มีความสุขที่สุด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรเลย ใคร ๆ ก็อยากมีรักดี ๆ ที่ไม่ทำให้ทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
แต่ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ได้ทั้งหมด ความรักก็เช่นกัน เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความรักไม่เป็นอย่างที่คิด คนส่วนใหญ่จะพยายามต่อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องพยายามไปจนถึงเมื่อไหร่ สุดท้าย..แม้จะรักไป เจ็บไป คนเหล่านั้นก็ยังอดทนเพื่อประคับประคองความรักให้ยังอยู่
คนเราไม่ควรต้องจมอยู่กับความทุกข์ ความเสียใจแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่ารั้งตัวเองไว้ในวังวนความรักแบบผิด ๆ โดยเข้าใจไปเองว่านี่คือความรักที่เราต้องพยายามทำมันให้ดี จำให้ขึ้นใจเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอรักไม่เป็นไปอย่างที่คิด โดยเฉพาะความรักทั้ง 7 แบบนี้ รีบหนีไปให้ไกล เพราะไม่ว่าใคร..ก็ไม่ควรต้องเจอ !
1. รักไปก็มีแต่ทำให้ชีวิตแย่ลง
รักที่มีแต่ทำให้ชีวิตแย่ลงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบความรักที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรต้องเจอ คนเราจะมีความรักทั้งที หาดี ๆ ไม่ได้ ก็อย่ามีมันเลย ถ้ามีความรัก มีคนเข้ามาในชีวิต แต่คน ๆ นั้นคอยฉุด คอยดึง คอยรั้งให้ชีวิตเรามีแต่แย่ลง หรืออย่างน้อยก็เหมือนเดิมแบบไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ควรต้องคิดแล้วว่าเราจะรักไปทั้งแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม
คนเราเมื่อมีใครสักคนเดินเข้ามาในชีวิต อย่างน้อยก็ควรทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่ว่าด้านใดก็ด้านหนึ่ง เรื่องเงิน เรื่องฐานะ อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไปก็จริง แต่ต้องมีสักอย่างที่คน ๆ นั้นทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เช่น หน้าที่การงาน ชีวิตความเป็นอยู่ งานอดิเรก ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ หรืออะไรก็ตาม
บอกตามตรงว่าเดี๋ยวนี้ความรักอย่างเดียวมันไม่เคยพออีกแล้ว และเรื่องจริงก็คือสมัยนี้ไม่มีใครยอมไปกัดก้อนเกลือกินอีกต่อไป ถึงแม้คนที่เข้ามาในชีวิตไม่จำเป็นต้องรวย มีบ้านหลังโต แต่ก็ต้องมีความพร้อมในชีวิตระดับหนึ่งที่จะส่งเสริมกันในเรื่องอะไรสักอย่าง เรียกว่าเป็นคนที่มีมาตรวัดเดียวกัน มีศีลเสมอกันนั่นแหละ
ที่สำคัญอย่าลืมว่าคนที่มีอะไรคล้าย ๆ กันก็จะดึงดูดเข้าหากัน ถ้าเราไม่เริ่มเป็นคนดี ทำตัวดี มีชีวิตดี ๆ เสียก่อน คนที่จะเข้ามาหาเราก็ย่อมเป็นคนที่ใกล้เคียงกับเรานั่นแหละ เพราะฉะนั้นทำตัวเองให้ดี เพื่อเปิดโอกาสให้คนดี ๆ เข้ามาในชีวิต
2. รักที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เรื่องน่าเศร้าที่สุดของคนมีความรักก็คือ พอรักใครแล้ว เรามักจะชอบเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนเพื่อให้เค้ารัก เปลี่ยนเพื่อให้เค้าไม่ไปจากเรา บางคนเปลี่ยนซะจนลืมไปเลยว่าจริง ๆ เราเป็นคนยังไงกันแน่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร
บนโลกนี้มีหลายคนยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อความรัก ยอมแม้กระทั่งไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย เพื่อให้ความรักได้เดินหน้าต่อ แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าความรักแบบนี้มีแต่จะทำให้เราอ่อนแอขึ้น อยู่ด้วยตัวเองได้ยากขึ้น เพราะไม่มีพื้นที่ตรงไหนเลยที่เป็นของเรา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอีกคน ถูกกำหนดโดยอีกคน สุดท้ายเราก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง ไม่มีเค้า เราก็อยู่ไม่ได้
ความรักไม่ใช่การเปลี่ยนแต่คือการปรับและยอมรับซึ่งกันและกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่คนใดคนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เมื่อนั้นมันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความพยายามที่อาจจะหมดลงวันใดวันหนึ่งก็ได้
3. รักไป..ช้ำไป
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แค่ 2 คนเท่านั้นเลยจริง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสอง แต่เป็น 3, 4 หรือมากกว่า เมื่อนั้นมันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความโลภของคน ๆ หนึ่งที่ไม่ควรแม้แต่จะถูกรัก
พอรักดำเนินมาแบบนี้ ไม่แปลกที่รักจะกลายเป็นความอดทน แต่คนเราจำเป็นต้องทนกับความรักแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า
บางคนบอกว่าไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันรู้..ว่าการจะเดินออกไปจากชีวิตใครสักคน มันต้องใช้มากกว่าความกล้า เหตุผลหลายอย่างทำให้คนเราต้องทนแม้จะรักไป ช้ำไปก็ตาม แต่ลองถามตัวเอง ถามคนรอบข้างดูให้ดีสิว่า..เราจะทนกับการไม่มีความสุขแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เพราะความอดทนมีที่สิ้นสุดเสมอ อะไรที่พ่วงท้ายมาด้วยความอดทนมันจะหมดลงและแตกหักแบบไม่เหลือชิ้นดีในที่สุด
ถึงแม้การเดินออกไปจากชีวิตใครสักคนต้องใช้เวลา แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเป็นเสียเวลาที่ไม่มีความสุขนั้นไป
4. รักที่ต้องเจ็บ (ตัว)
ไม่มีใครควรต้องเจ็บเพราะความรัก ไม่ว่าจะเจ็บใจหรือเจ็บตัวก็ตาม เพราะคนรักกันจะต้องไม่ทำร้ายกันทั้งร่างกายและจิตใจ
ที่แปลกก็คือ มีคนจำนวนมากยอมเจ็บตัว โดยให้เหตุผลว่านอกจากเรื่องทำร้ายร่างกายแล้ว เรื่องอื่นก็ดีหมด ซึ่งคนส่วนใหญ่ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ความรักและครอบครัวได้เดินหน้าต่อ แม้จะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างแปลกแต่หญิงไทยจำนวนมากก็เป็นแบบนั้น
ก่อนหน้านี้มีการศึกษาอย่างจริงจังของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ระบุว่าผู้ชายไทยมีแนวโน้มที่ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายถึง 44.8% และในจำนวนนี้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ดังนั้นถ้าเค้าเคยทำร้ายร่างกายยังไง ก็จะทำอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าไม่ว่ารักมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนพฤติกรรมของอีกคนได้เช่นกัน
ข้อแนะนำของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลบอกว่า ก่อนจะรักควรศึกษาทัศนคติของผู้ชายในเรื่องการใช้ความรุนแรง และสังเกตพฤติกรรมทางอารมณ์ก่อนแต่งงาน หากมีอารมณ์ก้าวร้าว ควบคุมตัวเองไม่ได้ ฝ่ายหญิงควรต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ แต่ถ้าแต่งงานไปแล้วและประสบปัญหา ก็ไม่ควรรู้สึกอับอายที่จะต้องหย่าร้างหรือมีคู่ใหม่ และไม่ควรต้องอดทน เพราะหลายกรณีความอดทนเป็นแรงผลักให้ผู้หญิงต้องป้องกันตัวเอง จนนำไปสู่การฆ่าสามี หรือถูกสามีฆ่ามาแล้ว
สรุปได้ว่าเมื่อรักแล้วต้องเจ็บทั้งตัวและใจ ก็ควรต้องตัดใจและเดินออกมาจากชีวิตของอีกคนซะ เพราะรักไม่ใช่การทน แต่รักคือการทั้งทุกข์และสุขร่วมกัน
5. รัก..ที่เกินรัก
ความรักเป็นเรื่องดี ๆ ที่สวยงาม แต่รักที่เกินรักจะยังคงเป็นความสวยงามอยู่ไหม ?
ในทางพระพุทธศาสนาเรามักได้ยินได้ว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ ยิ่งมีรักมากก็ยิ่งทุกข์มาก แต่ไม่ใช่เพราะรักจึงทุกข์ คนเราทุกข์เพราะไปยึดติดกับความรักต่างหาก
โดยทั่วไปคนทุกคนมีแนวโน้มที่จะคาดหวังกับอะไรบางอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นพอมีความรักก็ไม่แปลกที่จะคาดหวัง ยึดติดกับความรักและคนรัก พอคาดหวัง พอยึดติดแล้วไม่ได้ดังที่หวังก็เลยทำให้ทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัยที่สุดบนโลกใบนี้
เพราะฉะนั้นยิ่งรักมากก็ยิ่งยึดติดมาก คาดหวังมาก อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ กลายเป็นรักเกินรักที่มักจะทำลายทั้งคนที่รักและคนที่ถูกรัก ทำให้คนหนึ่งก็อึดอัด ส่วนอีกคนก็ทุกข์เพราะรักที่ยึดติดไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็กลายเป็นรักมัว ๆ ที่ถึงจะรักกัน แต่ก็ไม่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่
6. รักแท้ดูแลไม่ได้
ความรักที่ไม่เคยแสดงออก ไม่เคยใส่ใจ ยังเรียกว่า ‘รัก’ อยู่ไหม ?
เมื่อคนสองคนรักกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างเดียว แต่รวมถึงการกระทำ คำพูด และอีกหลายอย่างที่บ่งบอกให้รู้ว่ายังรักกันอยู่
ถ้ารักใครสักคน ก็จงทำให้เค้ารับรู้ว่ารักเค้าทั้งการกระทำและคำพูด ไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้ารักแต่ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยมีเวลาให้ เพราะถ้ามีความรักแล้วยังต้องอยู่คนเดียวทั้งตอนที่อ่อนแอ ตอนทุกข์และสุข เราจะมีคนรักไปทำไมจริงไหม..
>> ผิดไหม ? ถ้าจะเลือกคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง <<
7. รักที่เอาแต่ครอบครอง
ปกติพอมีความรักคนเรามักจะอยากยึด อยากรั้งคนที่เรารักไว้กับตัวเสมอ ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีกคน อยากให้เค้าเป็นในสิ่งที่เราอยากให้เป็น อยากให้เค้าทำในสิ่งที่เราอยากให้ทำ แต่เชื่อไหมความรักแบบนี้ไม่เคยเป็นรักที่ยืนยาว
การที่คนหนึ่งทำตัวเป็นเจ้าของอีกคนคือการยึดติด เหนี่ยวรั้งให้เค้าไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ต้องทำอย่างที่อีกคนต้องการ ซึ่งไม่มีใครทนกับความรักแบบนี้ไปตลอด ยังไงก็ต้องมีสักวันที่อึดอัด หายใจไม่ออก กดดัน และสุดท้ายการเลิกราอาจจะเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุดก็ได้
เพราะฉะนั้น ‘รักจึงไม่ใช่การครอบครอง’ แต่ความรักคือการแบ่งปันเรื่องราวทั้งในยามทุกข์ และสุข คือการปล่อยให้อีกคนได้มีพื้นที่หายใจและเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ใช่การไม่เอาใจใส่หรือละเลยกันและกัน คำว่า ‘ครอบครอง’ กับคำว่า ‘เอาใจใส่’ ทั้งการกระทำและความหมายไม่มีอะไรเหมือนกันสักนิด
ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสได้เจอรักที่มีแต่ความรู้สึกดี ๆ เอาใจใส่ จริงใจ เชื่อใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน จะรู้เลยรักที่มีแต่การครอบครองเป็นรักที่ไม่มีใครต้องการ
>> 6 เหตุผลที่ทำให้รู้ว่า..ทำไมรักจึงไม่ใช่การครอบครอง <<
ความรักคือการแบ่งปันทั้งความทุกข์และความสุข เพราะฉะนั้นอย่ารักใครจนลืมความสุขของตัวเอง แล้วก็อย่ารักใครจนมองไม่เห็นความทุกข์ของตัวเอง..
ความเห็น 32
Chawtip
แค่เริ่มคบหากัน. เจอทีไร
ยืมเงิน ทุกครั้ง ทั้งที่เขามีเงินเดือน
เราเรียนต้องขอเงินจากพ่อแม่
แม่งยืมเงิน ไม่เคยคืนเลย
จะเอาเงินซื้อเครื่องมือหากินแม่ตัว
มายืมเราๆบอกไม่มี
เขาพูดว่า..ให้เราไปยืมคนอื่น
มาให้เขาซิ... เลิกเลยกู
ชาตินี้ไม่ขอเจอกันอีก
18 พ.ค. 2563 เวลา 00.10 น.
นิล
ถ้ารักแล้วไม่ดูแลใส่ใจอยู่คนเดียวดีกว่าเพราะชีวิตเป็นของเรา
12 พ.ค. 2563 เวลา 22.46 น.
น้องแพม
ความรักคือสิ่งที่ดีแต่รักผิดที่ผิดเวลา มันทุกข์มาก ค่ะ
27 ม.ค. 2563 เวลา 06.26 น.
กัญญา 2454
รักนะแต่ไม่แสดงออก 555 รักยิ่งกว่าตัวเอง แล้วก็หายหัวไปเลย โชคดีที่ออกไปจากชีวิตกูเสียได้ กูถึงมีความสุขจนบัดนี้
23 ม.ค. 2563 เวลา 14.00 น.
@ใบปอ_สุดที่รัก
#คำว่ารัก" สำหรับผมมันคือทุกๆสิ่งทุกๆอย่างในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะความรักมันมีพลังที้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกเปลี่ยนแปลงนิสัยและผู้คนให้ทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป. เช่น คนเกเรอย่างผมไม่เคยคิดที่จะทำหรืออยากเป็นคนดี ได้อยากเริ่มใช้ชีวิตคู่ที่ดีกับเธอคนนั้น แต่วันเวลาความรักความสุขของคนเรามันไม่แน่นอนเสมอไป ความรักและชีวิตคู่ที่ผมประคับประคองมามันก็พังลงไปตามกระแสสิ่งต่างๆตามเรื่องราวของมัน.จนกระทั่งผมกลับมาจุดๆเดิมอีกครั้งคือการไม่มีใคร
= ถึงจะอย่างไรความรักก็เป็นสิ่งที่ดีเสมอ❤
23 ม.ค. 2563 เวลา 08.04 น.
ดูทั้งหมด