กลายเป็นเหตุการณ์สั่นสะเทือนทั่วโลกออนไลน์ หลังจากดาวทวิตเตอร์ชื่อดัง เต้ย Mystyle ได้จบชีวิตตัวเองภายในรถเก๋ง โดยภายในรถมีเตาอั้งโล่ ที่มีร่องรอยการจุดถ่านที่มอดไหม้แล้ว และได้วางผ้าไว้ขอบเตาเพื่อป้องกันไฟไหม้ ซึ่งหลายคนได้สันนิษฐาน สาเหตุที่ เต้ย Mystyle ได้จบชีวิตตัวเองลง มาจากเครียดเรื่องติดหนี้ จนไม่มีเงินจ่ายหนี้คืนเจ้าหนี้
โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ออกมาพูดว่าหาเงินได้เยอะก็จริง แต่ก็ใช้ไปเยอะ จนทำให้เงินขาดจึงต้องหยิบยืมมา สุดท้ายก็ถูกทวงถาม จนต้องหันหน้าไปกู้หนี้นอกระบบ
หลังจากเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ก็ได้มีผู้ใช้งานTiktok รายหนึ่งได้ออกมาชี้แจงถึงความเข้าใจผิด ซึ่งเน็ตบางรายได้ตั้งคำถามว่า ได้ทำการทวงเงิน ข่มขู่ จนทำให้เต้ยเกิดความเครียด และคิดสั้น หรือเปล่า โดยเจ้าของคลิปได้อธิบายว่า
ดราม่าสนั่น คำถามมิสแกรนด์ภูเก็ต 2023 พาดพิงเวทีคู่แข่ง แถมคนมงตอบแซะแรง
สาวปลื้มผู้ใหญ่ใจดีเห็นแวว อยากจ้างงานพิธีกร ก่อนรู้สาเหตุทำขำไม่หยุด
ส่องคอมเมนต์ หมู พิมพ์ผกา ถึง สาวพิ้งกี้ หลังโพสต์ภาพตัวเองในลุคผมสั้น
ตนเป็นคนหนึ่งที่ได้ปล่อยกู้ให้เต้ย เป็นเงินจำนวนหลักหมื่นบาท ดอกเบี้ย 10% คืนเงินใน 15 วัน เต้ยเริ่มกู้วันที่ 10 มกราคม และครบกำหนดในวันที่ 25 มกราคม และคืนเงินต้นพร้อมดอกในวันที่ 26 มกราคม ซึ่งจำนวนดอกเบี้ยนี้ ทางเต้ยเป็นคนกำหนดมาให้เจ้าหนี้เอง ด้วยความที่โปรไฟล์เต้ยน่าสนใจ เต้ยเป็นคนดัง และมีหน้าร้านขายของ ตนจึงตัดสินใจให้กู้
ในการทำสัญญากู้ เต้ย ได้ส่งบัตรประชาชนมาให้ตน พร้อมกับระบุว่า จะรับผิดชอบเองทั้งหมดเกี่ยวกับเงินจำนวนนี้ถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้น โดยระยะเวลาที่กู้นั้น ก็ไม่มีการทักอะไรไปรุนแรง มีแค่คุยกันปกติ จนใกล้วันที่ 26 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่ เต้ย ต้องจ่ายเงิน ตนจึงทักไปเพื่อถามว่าครบกับหนดที่จะได้รับเงินในวันไหน เพื่อเป็นการเตือนความจำเต้ยอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ ซึ่งทางเต้ยได้ตอบกลับว่าเป็นวันที่ 26 ม.ค. ทำให้เจ้าหนี้ไว้วางใจ
ต่อมา วันที่ 26 ม.ค. ตนจึงทักไปถามเรื่องของเงินปันผล โดยไม่มีการพิมพ์คำหยาบคายหรือบีบบังคับ อีกทั้งทางด้านของเต้ยยังได้ตอบกลับมาว่า เดี๋ยวจะทำการเคลียร์เงินดังกล่าวให้ แต่หลังจากนั้นก็ทางด้านของเต้น เริ่มตอบช้าขึ้น จนไม่อ่านและไม่ตอบ ตนจึงได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่ามีใครมาเจอเหมือนกันไหม และพบว่ามีคนโดนเหมือนกันเยอะมาก จนกระทั่งมารู้ว่าเต้ย Mystyle ได้จบชีวิตของตัวเองลงในเวลาต่อมา
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews
ความเห็น 0