ชายวัย 27 ช็อก ป่วยเป็นโรคหายาก คล้ายไข้หวัดใหญ่ทุกครั้ง หลังหลั่งอสุจิ-มีเซ็กซ์ แพทย์เผยมีรายงานผู้ป่วยน้อยกว่า 60 คน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ รายงานในวารสารทางการแพทย์ Urology Case ได้ออกมารายงานถึงกรณีชายนิรนามคนหนึ่งเกิดอาการประหลาดจนได้รับขนานนามว่าเป็น “ชายที่โชคร้ายที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่” เหตุชายผู้นี้ป่วยด้วยโรคที่หายากซึ่งทำให้เขามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทุกครั้งที่ถึงจุดสุดยอด
กลุ่มอาการเจ็บป่วยหลังถึงจุดสุดยอด (Post orgasmic illness syndrome : POIS) เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย ซึ่งเป็นภาวะหายากที่ได้รับการอธิบายครั้งแรกภายใน 20 ปีที่ผ่านมาและมีรายงานน้อยกว่า 60 กรณีในวารสารทางการแพทย์
โดยมีอาการทั่วไป ได้แก่ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่, อาการแพ้, เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียอย่างรุนแรง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, มีไข้หรือเหงื่อออก, อารมณ์แปรปรวนและ/หรือหงุดหงิด, ความจำถดถอย, มีปัญหาเรื่องสมาธิ, พูดไม่ต่อเนื่อง, คัดจมูก หรือน้ำมูกคันตา .
อาการทั้งหมดเกิดขึ้นทันที เช่น ไม่กี่วินาที ในอีกไม่กี่นาที หรือภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการหลั่งอสุจิออกมาที่เริ่มต้นจากการมีเพศสัมพันธ์ การช่วยตัวเอง หรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ระหว่างการนอนหลับ ซึ่งอาการสามารถคงอยู่นานถึง 2 - 7 วันก่อนการหายเองโดยธรรมชาติ ทำให้บางครั้งอาจวินิจฉัยผิดพลาดส่งผลให้มีการทดสอบและการรักษาที่ไม่จำเป็นจำนวนมาก อีกทั้งในปัจจุบัน ยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพียงวิธีเดียว
ผลลัพธ์ของทีมแพทย์ที่ประสบความสำเร็จในการรักษาสภาพด้วยยาแก้แพ้หลายชนิด รวมถึงยาต้านฮีสตามีน (antihistamine) แพทย์บรรยายความเจ็บป่วยที่หายากของชายวัย 27 ปีผู้นี้ว่า มีอาการแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง
ซึ่งตอบสนองเมื่อเขาหลั่งอสุจิ ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล จาม และมีลมพิษ-ผื่นคล้ายรังผึ้งที่ปลายแขน ซึ่งเมื่อได้รับยาอาการของเขาบรรเทาลงประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการรักษาโรคที่ซับซ้อนด้วยยาแก้แพ้ที่หาซื้อง่ายและหวังว่าจะสามารถใช้การรักษาซ้ำได้ในผู้ป่วยในอนาคต
เขาเชื่อว่าอาการของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่ออายุประมาณ 18 ปี หลังจากแพทย์สงสัยว่าเป็นโรคท่อน้ำอสุจิอักเสบเฉียบพลัน เขาได้พบแพทย์ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ พร้อมได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ อัลตราซาวด์ถุงอัณฑะ วิเคราะห์น้ำอสุจิ และระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน แต่ไม่มีใครอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและอาการเหล่านี้ยังไม่หายไปเมื่อถึงจุดสุดยอด ตลอด 9 ปีต่อมาเป็นเหตุให้ชายคนดังกล่าวพยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศ
นพ. แอนดริว ชานโฮลท์เซอร์จาก Oakland University William Beaumont School of Medicine ผู้ร่วมเขียนรายงานกรณีศึกษา กล่าวว่า "ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจำนวนมากไม่ทราบเรื่องนี้ นับประสาประชาชน" “มีโอกาสมากกว่าที่จะวินิจฉัยได้ เพราะมีผู้ป่วยจำนวนมากอยู่ที่นั่น”
พร้อมอธิบายว่าถึงแม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรค POIS แต่เชื่อกันว่าเริ่มหลังจากการติดเชื้อหรือการบาดเจ็บที่ลูกอัณฑะ นำไปสู่ปริมาณอสุจิเล็กน้อยที่รั่วไหลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
"มีเซลล์พิเศษที่เรียกว่าเซลล์ Sertoli ที่หล่อเลี้ยงและล้อมรอบตัวอสุจิและแยกออกจากเซลล์ภูมิคุ้มกัน เมื่อเซลล์ Sertoli เสียหาย อสุจิจะสัมผัสกับระบบภูมิคุ้มกันเป็นครั้งแรก และระบบภูมิคุ้มกันโจมตีตัวอสุจิเหมือนกับว่าเป็นไวรัสหรือแบคทีเรียจากต่างประเทศ”
ขอบคุณที่มาจาก Sciencedirect