ใกล้จะหมดปี พ.ศ. ๒๕๖๑ เต็มทีแล้ว ช่วงเวลาแบบนี้หลายคนถือโอกาสนี้เป็นฤกษ์ดีที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วจะตอนไหน เวลาไหน คุณก็ตั้งเป้าเปลี่ยนตัวเองได้ อะไรที่ดีก็ทำต่อไป อะไรเลวร้ายก็ใช้เป็นบทเรียน แล้วมาต้อนรับปีใหม่พร้อมวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองที่จะทำให้คุณเป็นคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมกันดีกว่า
ถ้ายังไม่มีเป้าหมาย ก็เริ่มมีซะ
ไม่น่าเชื่อว่าหลายคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ตื่นนอน เดินทาง ทำงาน กินข้าว ทำงาน กลับบ้าน นอน ชีวิตวนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่แค่นี้ และเพราะวัน ๆ ทำอยู่แค่นี้ก็เลยเบื่อ เซ็ง ไร้จุดหมาย และไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อไป ซึ่งถ้าอยากเปลี่ยนตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือหาเป้าหมายซะ อยากมีอะไร อยากเป็นอะไร อยากได้อะไร ต้องตอบตัวเองให้ได้
นอกจากตั้งเป้าแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องควบคู่กันไปด้วยก็คือการกำหนดเวลา เป้าหมายจะไม่สำคัญเลยถ้าเวลาไม่ชัดเจน เช่น อยากมีรถสักคัน ก็ต้องตั้งเป้าให้ชัดเจนว่าปีหน้าจะเก็บเงินให้ได้ก่อน และออกรถในปีต่อไป แบบนี้ถึงจะเรียกเป้าหมาย ไม่ใช่เป้าลอย ๆ ว่าจะมีรถ แต่ไม่เคยมีกำหนดเวลาเลยว่าจะออกรถตอนไหน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เป้าหมายจะเป็นจริง
แค่มีปณิธานที่แน่วแน่ ก็ชนะแล้ว
คนเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เลยถ้าขาดแรงจูงใจ เปลี่ยนเพื่ออะไร เปลี่ยนเพื่อใคร คุณต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ “ฉันจะเปลี่ยนเพื่อตัวเอง เพื่ออนาคตข้างหน้า” เพราะถ้าคำตอบไม่ชัด จุดหมายก็คลาดเคลื่อน ทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ยากขึ้นอีก ลองสังเกตดี ๆ คนที่ประสบความสำเร็จเค้าก็มีปณิธานที่แน่วแน่ด้วยกันทั้งนั้น
อนาคต ต้องดีกว่าเดิม
คนเราจะก้าวไปข้างหน้าได้ ต้องอย่าไปกังวลกับอดีตมากเกินไป อะไรที่ผ่านไปแล้วแม้จะกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เอามาเป็นบทเรียนในอนาคตได้ อย่าปล่อยให้อดีตแค่ผ่านไป เพราะการเรียนรู้จากอดีตของตัวเอง เจ็บช้ำน้อยที่สุดแต่ก็มีประโยชน์กับคุณในอนาคตมากที่สุดเช่นกัน
ลองลิสต์เรื่องราวในอดีตหรือความผิดพลาดที่ผ่านมา แล้วเอามานั่งดู นั่งคุยกับตัวเองว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ผ่านมาแก้ไขอย่างไร เรื่องราวเหล่านั้นสอนอะไรบ้าง การทำแบบนี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญ วิธีนี้เป็นเหมือนการทบทวนตัวเองอย่างหนึ่ง ทำให้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง ได้วิเคราะห์ตัวเองว่าสิ่งที่ผ่านมานั้น คุณทำดีที่สุดเพื่อให้ผ่านมันมาได้ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าไหม ลองคิดและตริตรองอดีตที่ผ่านมา แล้วอนาคตก็จะดีกว่าเดิมไปเอง
ค่อยเป็นค่อยไป
พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างต้องมีปัญหาอุปสรรคให้ต้องก้าวผ่านด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้จะเตรียมตัววางแผนมาดียังไง ปัญหาก็อาจรออยู่ข้างหน้าได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยแล้ว ยิ่งต้องเตรียมใจเอาไว้ให้มาก ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งรัดตัวเองมาก แต่ก็ไม่ใช่เลื่อนลอยจนชิลล์เกินไป ไม่มีใครตั้งเป้าแล้วทำสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน ใคร ๆ ก็ต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งนั้น
หลีกเลี่ยงต้นเหตุ
อย่างที่รู้กันว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างมีอุปสรรคทั้งนั้น แต่คุณเลือกที่จะหลีกเลี่ยงมันได้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เช่น ถ้าตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะไม่ไปทำงานสายเลยสักวัน สิ่งที่ต้องทำก็คือหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้คุณไปทำงานไม่ทันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนอนดึก ตื่นสาย ดูซีรีส์ติดพัน หรืออะไรก็ตามให้กำจัดออกให้เกลี้ยง ซึ่งถ้าทำได้ โอกาสที่เป้าหมายจะสำเร็จก็ยิ่งมีมากขึ้น
ไม่ลงมือทำ ทุกอย่างก็จบ
แผนมีแล้ว เป้าหมายมีแล้ว แรงจูงใจก็มีแล้ว แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ลงมือทำ ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ถ้ามัวแต่คิดว่าอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากเริ่มต้นใหม่ อยากมีนั่น อยากเป็นนี่ แต่ไม่เคยลงมือทำเลย ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางที่ดีคิดแล้วต้องทำ อยากทำอะไรทำเลย อยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนแบบไหน ขยันขึ้น มั่นใจขึ้น ก็ลงมือทำเลย
ความเห็น 17
Y0S
เวลาพูดง่ายครับ แต่ตอนลงมือทำสิยากมากเพราะต้องเจอกับอุปสักหลายอย่าง
15 ธ.ค. 2560 เวลา 15.50 น.
sittichai สุวรรณฤทธิ
ก็รักคนไทยหมดทุกคนนั่นแระ
15 ธ.ค. 2560 เวลา 12.44 น.
Shin da Nai
ตัวเราไป แต่รอบข้างไม่ไปทุกอย่างก็จบ.......
15 ธ.ค. 2560 เวลา 23.30 น.
หลีกเลี่ยงต้นเหตุหรอ เป็นไปไม่ได้ ก็ไอ้ here นี่มันหน้าด้านหน้าทนว่ะ
15 ธ.ค. 2560 เวลา 22.20 น.
k.odd
จะเปลี่ยนไงดีละ..ก็สิ่งแวดล้อมมันเดิมๆๆ
15 ธ.ค. 2560 เวลา 12.57 น.
ดูทั้งหมด