จากกรณีพบศพ นางสาวกลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ หรือ ต่อ อายุ 36 ปี เซลล์สาวขายปุ๋ย ถูกฆ่าหมกคารถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน พัลซ่าร์ ทะเบียน 4กฐ-6348 กทม. ก่อนอำพรางศพทิ้งในคลองน้ำชัยนาท-ป่าสัก หมู่ 1 ต.บ้านโป่ง อ.หนองโดน จ.สระบุรี เป็นเวลานาน 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ตำรวจเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากศพมีผ้าปูที่นอนมัดศพ ส่วนมือฆ่าญาติสงสัยว่า เป็นชายสูงอายุที่มาติดพันผู้ตาย ล่าสุดกู้ภัยลงน้ำดำค้นหลักฐานเพิ่มเติม เจอกระดูกปริศนาอีก จึงคาดว่าอาจมีมากกว่า 1 ศพ
ล่าสุด วันที่ 15 ธ.ค.62 ตำรวจ สภ.หนองโดน ได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่พบโครงกระดูก และนางลั่นทม วงษ์สิงห์ แม่ของนางสาวกลิ่นเกสร ผู้ตาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยนางลั่นทม เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลในเรื่องของคดีความแต่อย่างใด มั่นใจว่าโครงกระดูกที่พบเป็นของลูกสาวตนจริง ตอนนี้ไม่อยากพูดหรือสงสัยใครอีก เพราะกลัวว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีคนแปลกหน้าขับรถเก๋งมาวนเวียนหน้าบ้านบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามอยากให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
ด้าน น.ส.สุกัญญา จ้อยชู อายุ 33 ปี น้องสาวของน.ส.กลิ่นเกสร เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องของโครงกระดูกที่พบเพิ่มนั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็น เพราะอยากให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งทางครอบครัวเองก็ยังคงรอผลการตรวจอยู่ ส่วนเรื่องที่มีข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าก่อนที่พี่สาวจะหายไป 1 สัปดาห์ ทางเสี่ยได้พาลูกน้องนับ 10 คน เข้าไปพังร้านสเต็กนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการพังร้าน เป็นการขนของออกจากร้านเท่านั้น ซึ่งในระหว่างขนของ ก็มีโต๊ะและเก้าอี้ล่วงหล่น เเตกหัก ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ว่าเป็นการวิวาท หรือถล่มร้าน
หลังเจอโครงกระดูก เสี่ยได้โทรมาหาทางครอบครัวจริง และสอบถามถึงเรื่องเจอรถและโครงกระดูกเท่านั้น โดยหลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยหรือติดต่ออะไรกันอีกเลย ส่วนตัวไม่รู้สาเหตุและปัญหาของพี่สาวกับเสี่ย เพราะปกติจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน
นอกจากนี้ ตำรวจยังลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยนำตลับเมตรวัดความยาวจากถนนไปยังริมตลิ่งที่พบรถเก๋ง พบว่ามีความยาวประมาณ 24 เมตร ส่วนริมตลิ่งไปยังจุดที่พบรถมีความยาวประมาณ 4 เมตร
ขณะที่ นางอุทัย โปเเก้ว ป้าของ น.ส.กลิ่นเกสร เปิดเผยว่า ตั้งเเต่หลานสาวหายตัวไป ตนเองเเละญาติพี่น้องก็เกิดความเครียด เนื่องจากไปเเจ้งความกับตำรวจท้องที่ เเละไปร้องกองปราบ เเต่ก็ยังหาตัวไม่พบ ตนเองจึงหาที่พึ่งทางจิตใจ โดยการไปหาหมอดูหลายคน เเต่ก็ไม่ได้สบายใจขึ้น เพราะหมอดูเเต่ละคนพูดไม่ตรงกัน บางคนก็บอกว่าเสียชีวิตเเล้ว เเต่หมอดูบางคนก็บอกว่ายังมีชีวิตอยู่เพียงเเต่หนีไปเท่านั้น
กระทั่งเจ้าหน้าที่พบโครงกระดูก ที่คาดว่าจะเป็นของหลานสาวที่หายตัวไป ทำให้เครียดหนักขึ้นไปอีก เกรงว่าจะจับคนร้ายไม่ได้ จึงตัดสินใจไปหาหมอดูอีกครั้ง โดยหมอดูบอกว่าท้ายที่สุด ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ ทำให้สบายใจขึ้นระดับหนึ่ง นอกจากนี้หมอดูยังบอกอีกว่า ตอนนี้คนร้ายกำลังเครียดอย่างมาก กระวนกระวายกลัวความผิด
ส่วน นายทอด วงษ์สิงห์ ตาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ครอบครัวยังเชื่อว่าเสี่ยเจ้าของโรงงานปุ๋ย คือผู้ต้องสงสัยที่อาจจะก่อเหตุมากที่สุด เพราะเสี่ยเคยหลุดปากบอกกับครอบครัว ด้วยคำพูดที่ตรงกับชาวบ้านบอก คือ“ถ้าเสี่ยฆ่าคนตายก็ไม่ติดคุก” ส่วนกรณีที่เสี่ยส่งลูกน้องมาพังร้านสเต็กของหลานสาวเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น เป็นเรื่องจริง และหลังจากที่หลานสาวหายตัวไป ตนเองยังได้ถามกับเสี่ย เกี่ยวกับประเด็นพังร้าน โดยเสี่ยตอบว่า “ผมยอมรับผิด ลูกน้องไปพังร้านจริง แต่ผมได้ซ่อมแซมและเปิดร้านให้ตามปกติแล้ว”
และก่อนหน้านี้ลูกน้องเสี่ย 2 คน มาที่บ้าน ลักษณะมาติดตามความเคลื่อนไหว ซึ่งตนยังไม่ได้ปริปากถาม แต่ลูกน้องเสี่ยเอ่ยปากออกมาเองว่า “ต่อตายแล้วแน่นอน ทำใจเถอะ” ซึ่งคำพูดที่หลุดปากมานั้น ทำให้เสี่ยเงียบหายไปและไม่ติดต่อกับครอบครัวอีกเลย
พี่สาวของเสี่ยโรงงานปุ๋ย ผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า ยืนยันว่า เรื่องที่น้องชาย ถูกกล่าวหาไม่ไช่เรื่องจริง กล้าเอาหัวเป็นประกัน แต่ถ้าหากตำรวจพิสูจน์แล้วว่าน้องชาย เกี่ยวข้องกับการตาย แสดงว่าเป็นการทำงานผิดพลาด
ทั้งนี้ตระกูลของตนเป็นตระกูลทำมาหากิน ไม่ใช่ตระกูลนักเลงหรือคนไม่ดี แต่การที่เจ้าตัวยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะกำลังติดตามข่าวและความคืบหน้าเรื่องนี้อยู่ก็เป็นก็เป็นได้ ส่วนเรื่องบุกพังร้านสเต็กของผู้ตายนั้น ไม่เป็นความจริง เชื่อว่าชาวบ้านจงใจใส่ความ
นอกจากนี้ น.ส.แวว (นามสมมติ) เพื่อนสาวคนสนิทของนายแจ็ค (นามสมมติ) คนขับรถของเสี่ยเจ้าของโรงปุ๋ย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายแจ็ค ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่รอกระบวนการพิสูจน์ทางกฎหมายก่อน หากมีความคืบหน้า เชื่อว่าเจ้าตัวจะออกมาชี้แจงภายหลัง
ส่วนกรณีที่ตำรวจคาดการณ์ว่าคนก่อเหตุมีอย่างน้อย 5-6 คน นั้น ยืนยันว่าหนึ่งในนั้นไม่มีนายแจ็ค แน่นอน เพราะนายแจ็ค เป็นคนขี้ขลาดตาขาว และไม่กล้าแม้แต่จะทำร้ายใคร เชื่อว่านายแจ็คไม่มีส่วนกับเรื่องนี้แน่นอน
https://youtu.be/IiIxdbVUh14
ความเห็น 17
Chanya 969
น้องสาวผู้ตายบอกไม่ได้มาพังร้าน ตอนยกเก้าอี้ก็มีตกหล่นขาเก้าอี้หักบ้าง นี่มึงเป็นเมียเสี่ยอีกคนรึไง
15 ธ.ค. 2562 เวลา 22.05 น.
จัมโบ้ A
อะไรก็ดีนะแต่ตอนไปหาหมอดูนี้ดิถ้าหมอมันเก่งจริงให้มันดูดิว่าเหตุการเกิดขึ้นอย่างไงถ้าดูไม่ได้เอาตีนยัดปากมัน
15 ธ.ค. 2562 เวลา 23.55 น.
กรรมใครทำใครก่อ..ย่อมได้รับผลเป็นสัจธรรมแน่นอนครับ
15 ธ.ค. 2562 เวลา 22.57 น.
Suttichon
ผู้ทีอิทธิพลมันเยอะคนตายก็ตายฟรีไป อำนาจเงินและความมีอำนาจมันเหนือกว่าสิ่งใด
15 ธ.ค. 2562 เวลา 22.51 น.
Bill สุรพล
ไอ้แก่ฮ้าย มันหนีไปนานแล้ว
มันไม่กล้ามาสู้หน้า
แปลว่า มันฆ่าผู้หญิงคนนี้ตายแน่นอน
ถ้ามันไม่ได้ฆ่า มันต้องเถียง
และสู้คดี
15 ธ.ค. 2562 เวลา 23.45 น.
ดูทั้งหมด