คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ ประเสริฐ จารึก
สถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทย ยังพุ่งทะยานต่อเนื่องเป็นรายวัน จากการ “ระบาดระลอก 3” ที่เป็นการระบาดซ้อนระบาด
จากการ “ระบาดระลอกใหม่” เริ่มต้นเมื่อเดือนธันวาคม 2563 นำมาสู่การระบาด “ระลอกเดือนเมษายน” ซึ่งมาจากสถานบันเทิง “คลัสเตอร์ทองหล่อ” เป็นต้นตอของการแพร่เชื้อในครั้งนี้
โดยเชื้อที่พบแพทย์ระบุชัดเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่สามารถกระจายได้เร็วและรุนแรง เลยทำให้การติดเชื้อระบาดไปทั่วประเทศครบ 77 จังหวัด ในเวลาอันรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันของเดือนเมษายน ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดยาว ที่มีคนเดินทางออกต่างจังหวัดจำนวนมาก ส่งผลให้ในแต่ละวันแต่ละจังหวัดพบผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งยอดผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต
เฉพาะระลอก“เมษายน” ผ่านมากว่า 20 วัน มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมกว่า 20,000 ราย หากรวมกับ “ระบาดระลอกใหม่” นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 มีผู้ป่วยยืนยันสะสมปาไปกว่าครึ่งแสนราย เพราะตอนนี้ติดโควิดทุกคลัสเตอร์ ทุกอาชีพ และเริ่มใกล้ตัวเราเข้ามาทุกขณะ
ปัจจุบันแม้อิทธิฤทธิ์ “คลัสเตอร์ทองหล่อ” จะเริ่มแผ่ว แต่ยังคงมีคำถามคาใจถึงต้นตอของเชื้อโควิดที่แพทย์ออกมาระบุว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษ และเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในประเทศกัมพูชาก่อน 6 สัปดาห์
ก่อนจะตรวจพบในประเทศไทยที่สถานบันเทิงทองหล่อนั้น เข้ามาได้อย่างไร ช่องทางไหน และใครเป็นผู้นำเชื้อเข้ามา จนทำให้เดือดร้อนกันไปทั้งประเทศ
ไม่ใช่เฉพาะแขก “ซูเปอร์ วี.ไอ.พี.” ที่เข้าออก 2 เลานจ์ “คริสตัลคลับ และเอเมอรัลด์ผับ” จนติดโควิดกันไปหลายราย ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจในพื้นที่
ขณะที่การเอาผิดสองผับดัง ยังเป็นประเด็นที่สังคมเฝ้าติดตาม ซึ่งรัฐบาลก็ต้องสาวให้ถึงต้นตอ อย่าหลับตาข้างหนึ่ง ลืมตาข้างหนึ่ง เป็นมวยล้มต้มคนดู หรือซื้อเวลาปล่อยให้เรื่องเงียบหายเข้าไปในกลีบเมฆ เหมือนอดีตที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด “กองบัญชาการตำรวจนครบาล” ออกหมายเรียกผู้บริหารทั้งสองร้านมาให้ปากคำ วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 นี้ ในข้อหา ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
สำหรับ “คริสตัลคลับ และเอเมอรัลด์ผับ” ได้รับอนุญาตจาก กทม.ให้เปิดบริการร้านอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ไป ๆ มา ๆ เป็นคลับหรูได้อย่างไง ตรงนี้ตำรวจหรือ กทม.ก็ต้องชี้แจงแถลงไขให้สังคมได้กระจ่าง
จาก“คลัสเตอร์ทองหล่อ” เกิดปรากฏการณ์หนึ่งที่ไม่รู้ว่า เป็นความตั้งใจหรือต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนเร็วทุกวัน
นั่นคือ ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดของ กทม.ที่เปลี่ยนการเปิดเผยไทม์ไลน์ใหม่ จากเดิมระบุเป็นรายบุคคล เพศ อายุ อาชีพ และการไปในสถานที่ต่าง ๆ ล่าสุดเปิดเผยเฉพาะไทม์ไลน์ที่เป็นสถานที่เสี่ยงเท่านั้น
จากการสอบถามไปยังผู้บริหาร กทม.ระบุว่า โควิดรอบนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มีงานในมือเยอะเพราะต้องสอบสวนโรคเชิงรุกในแต่ละพื้นที่
สำหรับไทม์ไลน์โควิดที่เปิดเผยจะแสดง 2 อย่าง คือ สถานที่ที่ไปและพฤติกรรมของผู้ติดเชื้อ ตอนนี้เชื้อติดเร็วและรุนแรง มีทุกคลัสเตอร์ มีทุกอาชีพ คนทำงานมีจำกัด และงานเยอะมาก
จึงปรับการนำเสนอเท่าที่จำเป็น เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และคิดว่าเป็นสิ่งที่คนอยากจะรู้ เพื่อจะได้ระมัดระวังตัวเอง ซึ่งก็คือสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ
ทั้งหมดเป็นคำอธิบายจาก “กทม.” ถึงสาเหตุไทม์ไลน์ที่เปลี่ยนไปเกิดจากกำลังคนไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เป็นเพราะสอบสวนโรคแล้วไปเจอคนใหญ่คนโตที่ติดโควิด เลยทำให้ไทม์ไลน์เป็นรายบุคคลหายไปอย่างที่หลายคนตั้งข้อสงสัย
แต่ความลับไม่มีในโลก เพียงแต่จะถูกเปิดเผยออกมาช้าหรือเร็ว แค่นันเอง
ความเห็น 55
ลำพรวน
จริงๆน่าจะลงเหมือนเดิมจะได้รู้เราเข้าไปไกล้ชิดคนติดไหมเวลาไหน เพราะมันติดง่ายเราไม่รู้ถ้ามีลงเรารู้จะได้ แต่ละวันมารอดูทามไลน์ลายยาวมันดูไม่ไกล้ตัวกลายเป็นเหมือนไม่มีความสำคัญ ถ้าบอกบุคลากรน้อยก็น่าจะรับคนเพิ่ม หรือหาอาสามัครคิดว่าคนพร้อมช่วยร่วมแรงรวมใจกันเยอะนะ ยามวิกฤษคนไทยช่วยเหลือกันเสมอ
01 พ.ค. 2564 เวลา 04.10 น.
Saring
ถ้าอย่างนี้ไม่ควรจับประชาชนที่ทำผิด เพราะที่มาของโควิดมาจากทองหล่อ
01 พ.ค. 2564 เวลา 04.03 น.
ผู้นำล้มเหลว ไม่สามารถตอบ ไห้ตรงกับความจริง คนใหญ่โตแต่ใจปลาซิว คำว่าขอโทษไม่เกิด เพราะหน้าบาง ตอนที่ ติดโควิด เวรกรรมทื่มีคนแบบนี้ในรัฐบาล
01 พ.ค. 2564 เวลา 04.00 น.
ผมอยากรู้ใครเจ้าของผับสองแห่งนี้ครับ..
01 พ.ค. 2564 เวลา 03.57 น.
ong.apiwat
มีคนตายจากคลัสเตอร์ทองหล่อมากมายแต่ตำรวจเพิ่งจะสอบปากคำผู้บริหาร ที่กัมพูชาศาลเขาไล่นายตำรวจออกจากราชการฐานจัดงาน้ลี้ยงในช่วงนี้แต่ที่ไทยทำอะไรพวกนรกนี้ไม่ได้เลยทั้งที่สุโขทัยด้วย
01 พ.ค. 2564 เวลา 03.55 น.
ดูทั้งหมด