โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจของประชาชน "ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย"

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 16 ต.ค. 2565 เวลา 00.46 น.

"นิด้าโพล" เปิดผลสำรวจของประชาชน ครอบครองยาบ้ากี่เม็ดหลักการ “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย”

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยึดหลัก “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของยาบ้าในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 48.63 ระบุว่า ยาบ้าหาซื้อได้ง่าย รองลงมา ร้อยละ 48.02 ระบุว่า กฎหมายยาเสพติดอ่อนแอเกินไป , ร้อยละ 47.86 ระบุว่า ยาบ้ามีราคาถูก

ร้อยละ 31.83 ระบุว่า มาตรการ การปราบปรามยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ , ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ผู้บังคับใช้กฎหมายหย่อนยานในการดำเนินการ , ร้อยละ 26.56 ระบุว่า สภาพทางสังคมทำให้คนเสพยาเพิ่มขึ้น , ร้อยละ 26.49 ระบุว่า นโยบายของรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ , ร้อยละ 25.42 ระบุว่า มาตรการการป้องกันยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ , ร้อยละ 21.30 ระบุว่า ผู้เสพไม่มีจิตสำนึกเอง และร้อยละ 20.31 ระบุว่า สภาพทางเศรษฐกิจทำให้คนเสพยาเพิ่มขึ้น

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยึดหลัก “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.15 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ ควรมีบทลงโทษเพื่อป้องกันผู้เสพหน้าใหม่ ผู้เสพอาจกลายเป็นผู้ขายเนื่องจากไม่เกรงกลัวบทลงโทษตามกฎหมาย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ผู้เสพไม่มีความตั้งใจที่จะเข้ารับการบำบัดตั้งแต่ต้นอาจกลับมาติดยาเสพติดซ้ำ

รองลงมา ร้อยละ 20.31 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะ ผู้เสพอาจเป็นผู้หลงผิดจึงควรได้รับการบำบัดรักษา เป็นการให้โอกาสในการปรับตัวกลับเข้าสู่สังคม และผู้เสพที่เป็นเยาวชนมีจำนวนมากควรใช้วิธีการบำบัดแทนการจำคุก

ร้อยละ 15.57 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ ผู้เสพที่ต้องการเลิกยาเสพติดสามารถเข้าสู่กระบวนการบำบัดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ขณะที่บางส่วนระบุว่า การบำบัดเป็นการช่วยแก้ปัญหานักโทษล้นคุก

ร้อยละ 13.89 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ ผู้เสพควรได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย หากไม่มีบทลงโทษอาจทำให้มีผู้เสพเพิ่มมากขึ้น และควรแก้ไขปัญหา ที่ต้นเหตุ การนำผู้เสพมาบำบัดอาจไม่ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดในสังคม และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อปริมาณการครอบครองยาบ้าเพื่อเสพที่จะเข้ากับหลักการ “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” พบว่า

ร้อยละ 34.96 ระบุว่า ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย/ไม่ค่อยเห็นด้วยกับหลักการ “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย”

ร้อยละ 30.76 ระบุว่า ไม่เกิน 1 เม็ด

ร้อยละ 16.11 ระบุว่า ประมาณ 2-3 เม็ด

ร้อยละ 7.33 ระบุว่า ประมาณ 4-6 เม็ด

ร้อยละ 3.59 ระบุว่า ประมาณ 10-12 เม็ด

ร้อยละ 2.75 ระบุว่า ประมาณ 7-9 เม็ด และไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ร้อยละ 1.75 ระบุว่า ประมาณ 13-15 เม็ด

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการรู้จักคนเสพหรือเคยเสพยาเสพติด พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 56.11 ระบุว่า ไม่รู้จัก ขณะที่ ร้อยละ 43.89 ระบุว่า รู้จัก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น