อีกมุมที่หลายคนไม่รู้ สุกัญญา มิเกล เผยคำพูดสุดท้ายตัดขาดลูกสาว นาทีเผชิญหน้าแทบร้องไห้
จากกรณีนักร้องรุ่นใหญ่ ยุค 90 สุกัญญา มิเกล หรือ สุกัญญา เขียนเอี่ยม ที่ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นฟ้องตัดสิทธิปกครองร่วมพ่อของลูก พร้อมขอร้องศาลตัดสิทธิความเป็นแม่ลูกกับลูกสาว จนสร้างความตกใจให้กับแฟน ๆ ไม่น้อย ล่าสุด (14 ส.ค.) เจ้าตัวได้ได้แชร์โพสต์คนใกล้ชิดเปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนอาจไม่รู้ และยังเข้าใจอะไรผิด ๆ โดยระบุว่า
- ส่อง IG ปราง ติดแฮชแท็กคลุมเครือ #สุดท้ายแล้วจริงๆ หลัง โต้ง ทูพี โพสต์ถึงกลางดึก
- อดีตบอยแบนด์ดัง โดนเกรียนด่า ตอแหX ทั้งแม่ทั้งลูก ขอตอบกลับนิ่ม ๆ แต่อ่านแล้วจุกมาก!
- อักษรย่อหลุด! เพจดังทิ้งบอมบ์ คู่ของสาวชิค ๆ ส่อแววเป็นดาราเลิกเงียบอีกคู่?
“ด้านที่พวกคุณคุณไม่เคยเห็น.. แม่คนนึงที่รักลูกสุดดวงใจ.. แม่ผู้เสียสละที่คอยหาเลี้ยงทุกคนในครอบครัว.. แม่ที่อุ้มท้องแก่จวนคลอดแต่ยังต้องไปทำงานร้องเพลงหาเงินเข้าบ้านทุกวัน.. แทนที่จะได้พักผ่อนกลับมาแล้วยังต้องคอยทำความสะอาดบ้านให้เพียบพร้อมเพื่อให้ไม่มีเชื้อโรคมากล้ำกลายเด็กน้อย..
แม่ที่ได้แต่มองลูกในออ้มกอดของคนใจร้ายคนหนึ่งที่บอกว่าคุณอย่าอุ้มเลยคุณดูแลเด็กไม่เป็นหรอก.. และเมื่อวันคืนผ่าน คน ๆๆ นั้นก็คอยกล่อมเกลาเด็กน้อยว่าเขาคือฮีโร่ตัวจริงของเด็กน้อยคือผู้ให้ทุกสิ่งอย่าง..
จนถึงวันแยกจาก… แม่ผู้ได้หนูน้อยเด็กชายแยกออกมาดูแลตามกฎหมายทุก ๆ ครั้งทุก ๆ เดือนแม่จะต้องขับรถพาลูกชายไปพบลูกสาวเพื่อให้เด็กน้อยมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและยังคงจดจำไว้เสมอในความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขรวมถึงความคิดถึงอันท่วมท้นที่ตนไม่ได้อยู่กับลูกสาว…
ร้อยพันครั้งฝ่ายแม่จะต้องเป็นผู้ดิ้นรนคอยติดตามเพื่อนำพาลูกไปพบกันแต่แล้วฝ่ายคนนั้นก็มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้เด็กทั้งสองไม่ต้องพบกัน..ไม่มีแม้นการโทรติดตามถามข่าวคราวเด็กชาย…
วันปีผ่านไป..ใครจะรู้คนเป็นแม่..นอนร้องไห้คิดถึงลูกสาวทุกวัน…คิดถึงแชทที่สาวน้อยส่งข้อความมาหาบอกว่าหนูอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้เมื่อแม่หาไปให้..เด็กน้อยก็เงียบหายไป..แม้นไม่มีเงินผู้เป็นแม่ก็ขอเอากำลังตนเองร้องเพลงแลกมาโดยไม่คิดค่าตัวเพื่อให้ได้ของขวัญชิ้นนั้นเพื่อลูก..
เมื่อได้ของขวัญชิ้นสำคัญที่สาวน้อยต้องการก็ได้นำไปให้สาวน้อยดีใจมีความสุขแต่เพียงไม่นานเด็กสาวก็ได้นำของขวัญชิ้นนั้นไปเขียนชื่อชายคนที่ตนคิดเสมอว่าเขาคือฮีโร่ของตนไว้บนของขวัญชิ้นโปรด และลบแชททั้งหมดที่เคยมาคุยมาออดอ้อนพูดจาหวานหูขอในสิ่งตนอยากได้จากแม่ของตน…
รวมถึงการให้ถ้อยคำในศาลว่า.. แม่ตนไม่เคยดูแลและไม่เคยให้อะไรกับตนเลยสักครั้ง.
…ตัดภาพมาเมื่อปลายปี 64 เมื่อได้ติดตามถามไถ่จนทราบว่าชายคนนั้นได้นำพาเด็กสาวไปพักอีกที่โดยที่ตนมิได้อยู่ดูแลแต่ฝากเด็กสาวเอาไว้กับบ้านฝั่งตรงกันข้ามกับอาพารต์เม้นต์ที่เคยเช่าอยู่..(แล้วมาบอกว่าเป็นญาติเพื่อมิให้มีความผิดในฐานที่ละทิ้งเด็กสาวไว้โดยตนมิได้อยู่ดูแล)เมื่อมารดาไปตามจนพบจึงได้ขอเข้าไปคุยกับเด็กสาวด้วยความรักความรัก ความคิดถึง..
สายตาที่ลูกสาวมองแม่มีความหวาดระแวง แฝงความไม่พอใจ.. แม่ถามอะไรไปก็ตอบด้วยเสียงที่รำคาญ หนูเป็นนางสาวแล้วนะแม่.. นั่นคือสิ่งหนึ่งที่.. แม่คนนี้ยินดีให้อิสระในการตัดสินเลือกที่จากนี้ต่อไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกสาว..ของแม่อีกแต่ก่อนจาก
เมื่อแม่ขอกอดลูกสาว.. เรามองเห็นสายตาของแม่.. มันมีความโหยหาอาวรณ์เปี่ยมรักใจจะขาดด้วยความคิดถึง.. แต่เมื่อถอยก้าวมามองอีกฝั่งสายตาของเขาอึดอัดไม่ได้ยกมือกอดตอบแต่ยกมือแปะป่ายบนอากาศประหนึ่งว่าเมื่อไหร่การถูกกอดนี่จะยุติเสียที..ฝ่ายน้องชายได้ยืนมองดูพฤติกรรมของพี่สาว.. แม้นเด็ก 12 ขวบยังสามารถบอกได้ว่าพี่สาวของตนรู้สึกเช่นไร.. เขาบอกว่า.. เขาไม่เห็นพี่สาวคนเดิมของเขาอีกเลย..
เมื่อแม่เอ่ยถามลูกสาวว่า.. ลูกจะเดินทางไปกับแม่เพื่อไปเรียนที่ตปท. พร้อมกับน้องชายไหม.. ภาพเด็กสาวยิ้มแสยะปากแววตาขำพร้อมกับตอบมารดาปนขำว่า.. มีเงินเยอะมากมายขนาดนั้นเหรอ.. แล้วตอบว่าไม่ไป.. ฝ่ายแม่ผู้ตั้งคำถามก็คงจะคาดเดาคำตอบประโยคหลังได้..แต่สายตาและคำพูดประโยคแรกสุดทำเอามารดาก้มหน้าสูดลมหายใจยาว ๆ แล้วพูดกับลูกสาวด้วยเสียงเครือแต่ชัดเจนว่า แม่เคารพในการตัดสินใจของหนูและจะขอถอดถอนความเป็นแม่ออกเพื่อไม่ให้ลูกต้องรู้สึกอึดอัดใจอีกแต่เรายังคงเป็นเพื่อนกันเสมอ
หากหนูมีอะไรที่จะให้เพื่อนคนนี้ช่วยก็ให้บอกมาได้ตลอดยินดีรับฟังทุกเรื่องราว และอีกหลายอย่างที่เราจำได้ไม่หมด..หูมันอื้อใจมันชาตั้งแต่ได้เห็นพฤติกรรมของสาวน้อย..เราได้แต่ยืนจับมือและโอบกอดน้องชายของเขาไว้ตลอดเวลาเพราะแววตาของเขาที่มองเห็นภาพของแม่สายตาของแม่.. มันทำให้ใบหน้าของเด็กน้อยที่ได้ยิ้มแย้มอย่างดีใจเมื่อแว้บแรกที่พบหน้าพี่สาวของตน ถึงกลับกับสลดลงไปหลังจากที่ได้เห็นได้ฟังบทสนาจากทั้งผู้เป็นแม่.. ผู้ขึ้นชื่อว่าคลานออกมาดูโลกก่อน
หลังจากขับรถกลับเราหวังเพียงว่า..เขาจะเข้มแข็งและหยุดร้องไห้ได้เสียที..และเมื่อมีสัมภาษณ์หรือการลงโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้..เขาจะต้องรู้สึกขนาดไหนกับคอมเมนต์มากมายที่มาให้มาคอมเมนต์ด่าแรง ๆ มาให้แง่คิดคติเตือนใจกับเขาโดยที่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวจริง ๆๆ ที่มันไม่ได้มีแค่ที่เขียนเอาไว้ให้ตรงนี้..
ถ้าหัวใจของแม่คนนี้ที่ต้องคอยวิ่งกระเซ้อะกระเซิงตามหาลูกแล้วต้องถูกปฎิเสธอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ๆๆๆๆ …หัวใจดวงนี้จะพรุนไปแล้วกี่แผล…คงเป็นเหมือนรอยเข็มที่จิ้มจนไม่ทีว่าง..เลิกเอาสุภาษิตแง่ ๆ คิดต่าง ๆ มาบอกมาบอกสอนเขาโดยที่ตัวคุณไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงอะไร..และยังไม่เข้าใจความคิดที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนนี้จริง ๆ …มันทำให้คิดถึง..
เรื่อง ๆ นึงที่มีคนสองคนแย่งเด็กคนหนึ่งและต่างคนต่างบอกว่าฉันคือคนที่รักเธอที่สุดและเธอคือลูกของฉัน..คนทั้งสองต่างออกแรงดึงเด็กเพื่อให้เด็กมาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง…แต่..คนที่เป็นแม่และรักลูกที่สุดกลัวว่าลูกตนจะเจ็บปวดจึงต้องยอมปล่อยมือให้ลูกไปอยู่ในแรงกระชากของมือคู่นั้น..แม้นจะต้องเจ็บปวดจากการต้องสูญเสียลูกไป…ให้ความรักแม้นไม่ครอบครอง…วันเวลามันจะผ่านไป..เชื่อว่าแม่คนนี้ก็คงจะไม่คาดหวังอะไร
ที่มาเฟซบุ๊ก สุกัญญา มิเกล Migael
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ความเห็น 10
ขงจ๋า วาซาบิ
สงสาร และเข้าใจ ทั้งทางแม่และเด็กน้อย ตอนนี้คงบอกอะไรไม่ได้จนเมื่อน้องโตขึ้น เห็นและเข้าใจโลกมากขึ้น น้องน่าจะเข้าใจว่ารักที่แม่มอบให้มันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาน่าจะได้รับข่าวสารผิดๆมาตลอด เด็กก็เหมือนต้นไม้ที่คนเลี้ยงจะดัดไปทางใหนก็ได้ วันหนึ่งต้นไม้เติบใหญ่ด้วยตัวเองก็จะเข้าใจได้ ว่ารากนี่แหละที่ทำให้ตนเติบใหญ่แข็งแรงมาจนทุกวันนี้#ความสุขไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวนะลูก
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.51 น.
บี ยินดีที่ไม่รู้จัก
อยากเป็นกำลังใจให้แม่คนนั้นมากค่ะ
16 ส.ค. 2565 เวลา 05.15 น.
Wee
เมื่อไรที่เป็นแม่... ก็จะรู้ซึ้งถึงความรักของแม่
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.29 น.
Lee
ขอส่งความเห็นใจ เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ คุณทําดีที่สุดแล้ว ขอให้ปล่อยวางให้ได้ และมีความสุขอยู่กับปัจจุบันค่ะ
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.12 น.
Nutcha🥰🥰🥰
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.41 น.
ดูทั้งหมด