ช่วงสุดท้ายของปีแบบนี้ เป็นช่วงเวลาที่หลายคนถือโอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียเลย แต่จริง ๆ แล้วจะตอนไหน เวลาไหน คุณก็ตั้งเป้าเปลี่ยนตัวเองได้ อะไรที่ดีก็ทำต่อไป อะไรเลวร้ายก็ใช้เป็นบทเรียน แล้วมาต้อนรับปีใหม่พร้อมวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองที่จะทำให้คุณเป็นคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมกันดีกว่า ด้วย 6 สเต็ปต่อไปนี้ รับรองได้รีเฟรชตัวเองแบบคูล ๆ แน่นอน
1. ถ้ายังไม่มีเป้าหมาย ก็เริ่มมีซะ
ไม่น่าเชื่อว่าหลายคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ตื่นนอน เดินทาง ทำงาน กินข้าว ทำงาน กลับบ้าน นอน ชีวิตวนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่แค่นี้ และเพราะวัน ๆ ทำอยู่แค่นี้ก็เลยเบื่อ เซ็ง ไร้จุดหมาย และไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อไป ซึ่งถ้าอยากเปลี่ยนตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือหาเป้าหมายซะ อยากมีอะไร อยากเป็นอะไร อยากได้อะไร ต้องตอบตัวเองให้ได้
นอกจากตั้งเป้าแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องควบคู่กันไปด้วยก็คือการกำหนดเวลา เป้าหมายจะไม่สำคัญเลยถ้าเวลาไม่ชัดเจน เช่น อยากมีรถสักคัน ก็ต้องตั้งเป้าให้ชัดเจนว่าปีหน้าจะเก็บเงินให้ได้ก่อน และออกรถในปีต่อไป แบบนี้ถึงจะเรียกเป้าหมาย ไม่ใช่เป้าลอย ๆ ว่าจะมีรถ แต่ไม่เคยมีกำหนดเวลาเลยว่าจะออกรถตอนไหน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เป้าหมายจะเป็นจริง
2. แค่มีปณิธานที่แน่วแน่ ก็ชนะแล้ว
คนเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เลยถ้าขาดแรงจูงใจ เปลี่ยนเพื่ออะไร เปลี่ยนเพื่อใคร คุณต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ “ฉันจะเปลี่ยนเพื่อตัวเอง เพื่ออนาคตข้างหน้า” เพราะถ้าคำตอบไม่ชัด จุดหมายก็คลาดเคลื่อน ทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ยากขึ้นอีก ลองสังเกตดี ๆ คนที่ประสบความสำเร็จเค้าก็มีปณิธานที่แน่วแน่ด้วยกันทั้งนั้น
3. อนาคต ต้องดีกว่าเดิม
คนเราจะก้าวไปข้างหน้าได้ ต้องอย่าไปกังวลกับอดีตมากเกินไป อะไรที่ผ่านไปแล้วแม้จะกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เอามาเป็นบทเรียนในอนาคตได้ อย่าปล่อยให้อดีตแค่ผ่านไป เพราะการเรียนรู้จากอดีตของตัวเอง เจ็บช้ำน้อยที่สุดแต่ก็มีประโยชน์กับคุณในอนาคตมากที่สุดเช่นกัน
ลองลิสต์เรื่องราวในอดีตหรือความผิดพลาดที่ผ่านมา แล้วเอามานั่งดู นั่งคุยกับตัวเองว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ผ่านมาแก้ไขอย่างไร เรื่องราวเหล่านั้นสอนอะไรบ้าง การทำแบบนี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญ วิธีนี้เป็นเหมือนการทบทวนตัวเองอย่างหนึ่ง ทำให้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง ได้วิเคราะห์ตัวเองว่าสิ่งที่ผ่านมานั้น คุณทำดีที่สุดเพื่อให้ผ่านมันมาได้ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าไหม ลองคิดและตริตรองอดีตที่ผ่านมา แล้วอนาคตก็จะดีกว่าเดิมไปเอง
4. ค่อยเป็นค่อยไป
พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างต้องมีปัญหาอุปสรรคให้ต้องก้าวผ่านด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้จะเตรียมตัววางแผนมาดียังไง ปัญหาก็อาจรออยู่ข้างหน้าได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยแล้ว ยิ่งต้องเตรียมใจเอาไว้ให้มาก ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งรัดตัวเองมาก แต่ก็ไม่ใช่เลื่อนลอยจนชิลล์เกินไป ไม่มีใครตั้งเป้าแล้วทำสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน ใคร ๆ ก็ต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งนั้น
5. หลีกเลี่ยงต้นเหตุ
อย่างที่รู้กันว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างมีอุปสรรคทั้งนั้น แต่คุณเลือกที่จะหลีกเลี่ยงมันได้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เช่น ถ้าตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะไม่ไปทำงานสายเลยสักวัน สิ่งที่ต้องทำก็คือหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้คุณไปทำงานไม่ทันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนอนดึก ตื่นสาย ดูซีรีส์ติดพัน หรืออะไรก็ตามให้กำจัดออกให้เกลี้ยง ซึ่งถ้าทำได้ โอกาสที่เป้าหมายจะสำเร็จก็ยิ่งมีมากขึ้น
6. ไม่ลงมือทำ ทุกอย่างก็จบ
แผนมีแล้ว เป้าหมายมีแล้ว แรงจูงใจก็มีแล้ว แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ลงมือทำ ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ถ้ามัวแต่คิดว่าอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากเริ่มต้นใหม่ อยากมีนั่น อยากเป็นนี่ แต่ไม่เคยลงมือทำเลย ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางที่ดีคิดแล้วต้องทำ อยากทำอะไรทำเลย อยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนแบบไหน ขยันขึ้น มั่นใจขึ้น ก็ลงมือทำเลย
ความเห็น 10
คิดว่าทุกอย่างจะดีได้มันก็ย่อมที่จะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะของทางเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยหลักสำคัญด้วยเหมือนกัน.
31 ธ.ค. 2562 เวลา 02.59 น.
step ที่ 1 คือ คิดบวก ก็จะทำให้เรามีพฤติกรรมไปในทางบวก มากยิ่งขึ้น
step ที่ 2 สำหรับเราคือ ทำดีกับคนรอบข้างให้มากขึ้น จิตใจจะผ่องใส ไปด้วยความปลื้ม ปิติ
30 ธ.ค. 2562 เวลา 22.51 น.
อิสระ ธนะบรรณ์
ครับต้อนรับปีใหม่มี่เข้ามารับสิ่งที่ดีๆเข้ามาและส่งท้ายปีเก่า... สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งหมดก็ละทิ้งไปนะครับ
31 ธ.ค. 2562 เวลา 03.28 น.
.~★☆ PikaPiPi ☆★~.
• สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๒ •
มาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าปีเก่ากัน 😊
31 ธ.ค. 2562 เวลา 14.45 น.
Pol Thunya
เป็นเช่นนี้ทุกปีที่จะสิ้นปีข้ามไปปีใหม่...
31 ธ.ค. 2562 เวลา 08.39 น.
ดูทั้งหมด