ตำรวจคุมตัวแก้ว น.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ หนึ่งในห้าผู้ต้องหาแก๊งค์ค้ายาเสพติดบ้านโคกเมาที่ราดนำมันจุดไฟเผาป้ามาลัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังถูกจับกุมได้เป็นคนที่สองเมื่อวานนี้ และขอตำรวจไปพยแฟนหนุ่มที่ป่วยเป็นโปลีโอร่ำให้ทั้งสองคนอย่างน่าสงสาร
ความคืบหน้าคดีแกงค์ค้ายาเสพติดบ้านโคกเมา ในต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา รุมซ้อมและจุดไฟเผา นางมาลัย ชุมประมาณ อายุ48ปีหรือป้ามาลัย หรือจอยซึ่งเป็นชื่อเช่นอย่างโหดเหี้ยมเพราะไม่พอใจที่แอบนำยาไอซ์300กรัมไปละลายน้ำทิ้ง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่1 ธันวาคมที่ผ่านมาเหตุในขนำที่พักของป้ามาลัย
ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 5 คน จับกุมได้แล้ว2 คนคือ นายแบงค์ เยาวชนอายุ17ปีซึ่งจับได้เป็นคนแรกและน.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ อายุ 29 ปี หรือแก้ว ซึ่งถูกจับได้เป็นคนที่สองเมื่อวานนี้หลังจากที่แอบกลับมาซ่อนตัวที่บ้านซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับขนำเกิดเหตุและยอมรับสารภาพว่าเป็นคนซื้อน้ำมันเบนซิล
ส่วนอีก3คนยังหลบหนีประกอบด้วย นายส่อแหล๊ะ จิสวัสดิ์ หรือแหละ อายุ41 หรือแหล๊ะ นาง จันทิรา บินเสหาะ อายุ36ปีหรือแอดซึ่งเป็นผัวเมียกันและเป็นเจ้าของยาไอซ์ และนายยงยุทธ ชุมประมาณ อายุ26ปี หรือเป้ ซึ่งเป็นคนราดน้ำมันและจุดไฟเผา
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้(13ธ.ค.62) ตำรวจสภ.บางกล่ำ นำโดย พ.ต.ท.สนิท สุดทองคง รองผู้กำกับการสอบสวนสภ.บางกล่ำ และร.ต.อ.สมชาย แซ่จิ๋ว รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีนี้ ได้ควบคุมตัว น.ส.ภัทราพร หรือแก้ว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม4 จุด
จุดแรกเป็นบ้านลูกสาวของป้ามาลัยในพื้นที่บ้านเสือผ่าน หมู่15 ต.ท่าช้าง ซึ่งแก้วและแบงค์ไปรับตัวมาลัยออกมา จุดที่สองบนสะพานข้ามคลองรอหนึ่ง หมู่13 ต.ท่าช้าง ซึ่งนำป้ามาลัยมาสอบถามเรื่องยาไอซ์ จุดที่สามภายในขนำเกิดเหตุที่จุดน้ำมันราดไฟเผาป้ามาลัย และจุดที่สี่เป็นจุดที่แก้วไปซื้อน้ำมันเบนซิลใส่ขวดมาให้
โดยระหว่างที่ทำแผนแก้วได้ขออนุญาตตำรวจมาพบกับสามีซึ่งป่วยเป็นโปลีโอแขนขาลีบมาแต่กำเนิดซึ่งอยู่ที่บ้านใกล้กับขนำเกิดเหตุและทั้งสองคนโผเข้ากอดกันและร่ำให้อย่างน่าสงสารเพราะทั้งคู่รักกันมากและสาเหตุที่แก้วต้องกลับมาที่บ้านจนถูกจับก็เพราะเป็นห่วงสามีที่ไม่มีใครดูแล
บังอะ สามีของแก้วบอกว่าตอนเกิดเรื่องแก้วก็ทุบตีป้ามาลัยบ้างแต่ตอนหลังช่วยห้ามและยังเป็นคนเอาน้ำไม่ดับไฟที่ป้ามาลัย อยากให้สังคมเข้าใจว่าใครเป็นคนทำและใครผิดใครถูก เพราะปรกติแก้วเป็นคนดีมากอยู่กินและดูแลตนที่ป่วยเป็นโปลิโอมา3ปี และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ดีกับตนหลังจากนี้ไม่มีแก้วตนก็ลำบากแน่
ด้าน นางฟาตีมะ ซึ่งเป็นญาติของกลุ่มผู้ต้องหารวมถึงป้ามาลัยซึ่งรู้จักกันดีบอกว่าผู้ต้องหาทั้ง5 คนปกติก็เป็นคนดีช่วยเหลือญาติพี่น้องและไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น และอยากให้ที่เหลือเข้ามอบตัว
คดีนี้จากคำให้การของแก้วระบุว่าคนที่ราดน้ำมันและจุดไฟเผาป้ามาลัยคือ นายยงยุทธ หรือเป้เพียงคนเดียวส่วนคนอื่นต่างตกใจและช่วยกันดับไป
ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก3คนขณะนี้ตำรวจยังคงกดดันไล่ล่าผู้เชื่อว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่และน่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆนี้เพราะมีรายงานว่าเริ่มอยู่ยากและอยู่กันอย่างลำบากเนื่องจากไม่มีเงินและถูกกดดันจากตำรวจและสังคมอย่างหนัก
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
ความเห็น 11
Be Nice(คนดี)
มึง ก็โหดเกิน
เผาคนทั้งเป็น
ทำได้ไง
13 ธ.ค. 2562 เวลา 12.25 น.
milin456
ตอนทำนะไม่คิด พอตำตรวจจับได้ทำมาร้องห่มร้องไห้ ไม่มีใครสงสารคะ
13 ธ.ค. 2562 เวลา 12.24 น.
Chay
พิมพ์ผิดเยอะมาก อ่านแล้วสะดุดตลอด
น่าจะตรวจสอบดีๆก่อนลงนะ ระดับนี้แล้ว
13 ธ.ค. 2562 เวลา 12.54 น.
mitr
มีแต่คนดี เฮ้อ คนดีทีใหนวะเผาคนทั้งเป็น
13 ธ.ค. 2562 เวลา 13.28 น.
Kai-Patra
แถวนั้นน่ะมันดงอิสลาม..ไม่แน่จริงอย่าเข้าไป
13 ธ.ค. 2562 เวลา 13.21 น.
ดูทั้งหมด