โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เอะอะสาดโคลน! เมื่อไหร่การเมืองไทยจะเลิกติดหล่ม แล้วมาสู้ด้วยนโยบายซักที?!

Another View

เผยแพร่ 20 ก.พ. 2562 เวลา 05.00 น.

เอะอะสาดโคลน! เมื่อไหร่การเมืองไทยจะเลิกติดหล่มแล้วมาสู้ด้วยนโยบายซักที?!

ใกล้เข้าสู่สมรภูมิการเลือกตั้งเข้าไปทุกที ในตอนนี้แทบทุกพรรคล้วนเข้าสู่ช่วงของการหาเสียงกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นวิธีปกติอย่างการปิดป้ายหาเสียงตามท้องถนน ออกรายการดีเบทตามโทรทัศน์ และอีกหนึ่งสมรภูมิที่ลุกเป็นไฟ ที่การเลือกตั้งครั้งไหน ๆ ก็ไม่เคยดุเดือดเท่านี้

นั่นคือสมรภูมิบน ‘โลกออนไลน์’

ในโลกที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการดำรงชีวิตที่แทบทุกคนล้วนมีอีกตัวตนหนึ่งอยู่บนนั้น การหาเสียงและเข้าถึงชาวเน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจเปลี่ยนคะแนนเสียงให้มาเป็นของพรรคตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยการลงโฆษณา สร้างเทรนด์ เกาะกระแส หรือแม้แต่การ‘สาดโคลน’ กันผ่านสเตตัสความเห็นทั้งหลายแหล่

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในตอนนี้ คือความพยายามในการสกัดดาวรุ่งที่กำลังมาในโลกออนไลน์ ซึ่งหนีไม่พ้น พรรคสีส้มที่ได้กระแสแรงจากแฮชแท็ก #ฟ้ารักพ่อ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และถือเป็นกระแสที่ภาษาทางการตลาดเรียกกันว่า ‘Organic’ หรือเกิดขึ้นเองจากกลุ่มชาวเน็ตที่ปั่นแฮชแท็ก สร้างบทสนทนาต่อกัน โดยที่ตัวพรรคไม่ต้องอาศัยการจุดไฟหรือจ่ายเงินใด ๆ แค่ ‘เล่น’ ไปตามกระแสเหมือนช่วยเติมเชื้อไฟ ก็ทำให้ชื่อของพรรคเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ชาวเน็ตแล้ว

และเมื่อมีดาวรุ่ง ก็ย่อมมีกระบวนการ ‘สกัดดาวรุ่ง’ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อันที่จริงการสกัดดาวรุ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร หากเรามองว่าการเลือกตั้งก็เป็นเหมือนเกมการตลาดที่ต้องแข่งขันกันขายของ ให้ชื่อแบรนด์ของตัวเองไปอยู่ในใจลูกค้า (ซึ่งเป็นประชาชนอย่างเรา ๆ) ให้ได้มากที่สุด แต่การสกัดดาวรุ่งก็มีหลากหลายวิธีที่เล่นกันอย่างแฟร์ ๆ ตามกติกา นั่นคือการสกัดด้วย ‘นโยบาย’

น่าเสียดายที่ในตลาดการแข่งขันทางการเมืองของไทย เรากลับเห็นการสกัดดาวรุ่งด้วยการ ‘สาดโคลน’ โจมตีตัวบุคคลกันไม่เว้นแต่ละวัน ซ้ำร้ายกว่านั้น บางพรรคยังสาดกระทบมาถึงประชาชนที่ไม่ได้เลือกตัวเองอีกต่างหาก (อย่างเช่น พรรคพลังประชารัฐที่ทำป้ายเขียนว่า ‘ฟ้าจะรักใครไม่ว่า แต่อย่าลืมรักประเทศไทย’ - ที่ดูจะสื่อถึงคนที่ชอบพรรคสีส้ม และแอบแขวะว่าถ้าเลือกก็เท่ากับไม่รักประเทศ)

แม้วันนี้การสาดโคลน โจมตีตัวบุคคลจะยังเห็นได้ชัดกับหลายพรรคที่นำเอาข้อมูลเก่า ตัดต่อคำเพื่อมาโจมตีหัวหน้าพรรคฝั่งที่กำลังมาแรง แต่ก็ยังไม่สายที่พรรคเหล่านี้จะหันมาโจมตีอีกฝ่ายที่นโยบายแทน ว่าสิ่งที่พรรคหนึ่งกำลังนำเสนอ มีช่องโหว่อะไร ทำได้จริงหรือไม่ และพรรคของตัวเองมีดีกว่าอย่างไรในเชิงนโยบาย การโจมตีกันแบบนี้ น่าจะเป็นผลดีกับประชาชนมากกว่า (และสนุกกับพวกเราผู้มีสิทธิ์เลือกด้วย)

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ นอกจากการสาดโคลนกันของพรรคต่อพรรค ก็คือการสาดโคลนจากประชาชนต่อพรรคที่ตัวเองไม่ชื่นชอบ

ในกระแสของโลกออนไลน์ที่กำลังมาแรง ที่ฐานที่มั่นของกระแสอยู่ในแพลตฟอร์ม ‘ทวิตเตอร์’ ที่เต็มไปด้วยกลุ่มเด็กวัยรุ่นตั้งแต่มัธยม จนถึงกลุ่มคนวัยทำงานที่จบจากมหาวิทยาลัยมาไม่นาน ดูเหมือนว่าการหาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของพรรคที่ชอบ และพรรคที่ไม่ชอบ จะเป็นปัจจัยหลักในการเลือกตัดสินใจ มากกว่าที่กลุ่มผู้ใหญ่บนแพลตฟอร์มอย่างเฟซบุ๊กมองว่า เด็ก ๆ พวกนี้ชื่นชอบพรรคสีส้มกันแค่เพียง ‘หน้าตา’

จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะมีสิทธิ์เลือกตั้ง รวมถึงเด็ก ๆ ที่ไม่เคยได้เลือกตั้งมาก่อนในช่วงรัฐบาลทหาร จะมีจำนวนมากถึง 5.6 ล้านเสียงหรือคิดเป็นที่นั่งในสภาถึง 71 ที่นั่งนั่นหมายถึงเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดในสภา และน่าจะมีผลกับการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ไม่น้อย

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการต่อสู้ระหว่างคนสองยุค สองอุดมการณ์ ที่ฝั่งหนึ่งเต็มไปด้วยศักยภาพในการหาข้อมูล เชื่อในนโยบาย รวมถึงไฟในตัวเองที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงกับประเทศที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ไปอีกหลายปี

กับอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นหน้าใหม่ในโลกออนไลน์ มีสถิติการส่งต่อข้อมูลผิด ๆ ในโซเชียลมีเดียที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด และพร้อมส่งต่อข้อมูลการสาดโคลนที่ทำขึ้นมาเพื่อสกัดดาวรุ่ง โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูลเสียก่อน

อาจจะถึงเวลาแล้วที่การเมืองไทยจะต้องต่อสู้กันด้วยความยั่งยืนบนการถกเถียงเชิงนโยบาย มากกว่าจะโจมตีที่ตัวบุคคล เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการเมืองที่ไม่เล่นกันด้วยความสกปรก ที่อาจนำมาซึ่งการวนลูปปัญหาแบบเก่า ๆ จากความกลัวในตัวบุคคลที่สร้างขึ้นมาจากอารมณ์ โดยไม่ตัดสินจากข้อเท็จจริง 

การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะทำให้เราได้รู้กันว่าพลังจากฝ่ายไหนที่จะเป็นฝ่ายชนะ และทิศทางของประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า จะเป็นเหมือนล้อสะอาดใสที่พร้อมทะยานไปในอนาคต 

หรือจะยังติดหล่มโคลนอย่างที่เคยเป็นมา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 91

  • เมฆ.เมฆา..ราชอินทร์
    เพราะนักการเมืองไทยมีแต่คนสกปรกและโสโครกทำตัวชั่วๆเลวแล้วก็อ้างประชาธิปไตยเลือกเขามา
    20 ก.พ. 2562 เวลา 03.43 น.
  • €¥£
    แล้วบทความนี้สาดโคลนใครล่ะ กะอีแค่แฮชแทค 2000 กว่า และเป็นการรีทวิตต์ (กดส่งต่อ หรือแชร์ในรูปแบบหนึ่ง) สื่อก็ประโคมว่าติดเทรนด์ ทั้งที่มันแค่ 2k ติดเทรนด์แท้ต้อง 40-50 k ขึ้นไป อวยตัวเอง ก็คือการสาดโคลนแบบนึงนะ คือสาดสีสวยๆ กลบของสกปรกหลอกคน ว่ามันดี
    20 ก.พ. 2562 เวลา 04.02 น.
  • uncle.ke
    เลือกใครก็ได้ที่เป็นคนดี ทำเพื่อบ้านเมือง อย่าเลือกเพราะเงิน หรือตามคนอื่น เลือกด้วยสติปัญญาของตัวเอง เท่านี้ประเทศก็เจริญแล้วครับ
    20 ก.พ. 2562 เวลา 04.17 น.
  • นักการเมืองพวกนี้ความคิดความอ่านมันไม่มีหรอก​ เก่งแต่สร้างความแตกแยก​ ไร้เนื้อหา​ แทนที่จะเสนอนโยบายว่าจะนำพาประเทศชาติ​ไปอย่างไรให้เจริญ​เทียบเคียง​ประเทศ​อื่นได้​ วันๆมีแต่ตักโคลนใส่กัน​ไร้สาระ​ เลือกไปก็เปล่าประโยชน์
    20 ก.พ. 2562 เวลา 04.01 น.
  • ปู่ตาเรือง
    ก็มีแต่นักการเมืองเทียมๆ เห็นพรรคอื่นทำดีทำถูกทำนองคลองธรรมก็อิจฉาตาร้อน เช่นพรรคเพื่อต่างๆอิจฉาแรงมากทั้งหญิงทั้งชาย พูดจาส่อเสียด เติมไฟใส่ร้าย ใส่วาทะเห่าหอน นี่หรือผู้เจริญผู้มีความรู้
    20 ก.พ. 2562 เวลา 03.45 น.
ดูทั้งหมด