รายงานการติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 2 ก.ค.63 จากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยพบเพิ่ม 6 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้
ไม่พบจากภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 38
ผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบระหว่างการกักตัว 4 รายแรก กลับจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นชายวัย 21,37,43และ62 ปี มาถึงไทย วันที่ 24 มิ.ย.63 ตรวจพบเชื้อวันที่ 29 มิ.ย.63 ไม่มีอาการ
กลับจากประเทศแอฟริกา 1 ราย เพศชายอายุ 20 ปี ถึงไทยวันที่ 28 มิ.ย.63 มีอาการไอ ระหว่างคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจพบเชื้อ วันที่ 30 มิ.ย.63 และอีก 1 ราย จากซูดาน เพศชาย อายุ 21 ปี ถึงไทย วันที่ 24 มิ.ย.63 ตรวจพบวันที่ 29 มิ.ย. 63 ไม่มีอาการ
รายงานแจ้งว่า ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม จำนวนที่รักษาหายสะสม 3,059 ราย หรือ93.23 %ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังอยู่ในโรงพยาบาล 62 ราย หรือ1.95% ของผู้ป่วยฯ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,179 ราย
ด้านสถานการณ์โลก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันเดียวกันถึง 200,145 ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับแต่เกิดการระบาด ยอดสะสมถึง 10,803,599 โดยสหรัฐอเมริกา คงอันดับหนึ่ง การติดเชื้อใหม่เพิ่มถึง 52,100 ราย ยอดสะสม2,779,953 และบราซิล อันดับสอง การติดเชื้อใหม่ใกล้เคียงกัน 44,884 จำนวนสะสม1,453,369
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รายงานว่า ประเทศเม็กซิโก ก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น จนขยับขึ้นมาเป็นลำดับที่ 10 ของโลก จำนวนสะสม 231,770 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตก็แซงหน้าสเปนเป็นลำดับที่ 6 จำนวน28,510 ราย
ทั้งนี้อัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก มีแต่จะสูงขึ้นโดยไม่มีทีท่าจะลดลง
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 กล่าวว่า นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน อายุระหว่าง 20-39 ปี ที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเมื่อป่วยมักไม่แสดงอาการ แต่ยังออกพบปะผู้คนจำนวนมาก ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 ให้ใช้ชีวิตเป็นปกติมากขึ้น จึงเป็นความเสี่ยง และมีโอกาสการติดเชื้อได้
พญ.พรรณประภา กล่าวว่าอีกว่า ข้อมูลของกรมควบคุมโรคระบุวา ช่วงอายุขนาดนี้ เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 50 ของทั้งหมด การที่ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ก็ยิ่งเป็นความเสี่ยงสำคัญ เพราะผู้ติดเชื้ออาจนำกลับไปติดคนในครอบครัวและผู้ใกล้ชิดได้ จึงแนะนำว่าอย่าประมาท ให้ระมัดระวัง ป้องกันตัวเองทุกครั้งที่ออกไปเรียน ทำงานหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ต้องสวมหน้ากกอนามัย หน้ากากผ้าทุกครั้ง งดการใช้มือสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก พกเจลแอลกอฮอล์และล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการเข้าอยู่ในสถานที่แออัด มีคนรวมกันจำนวนมาก รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนส่วนตัว รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนใกล้ชิด
การเปิดเทอม พร้อมกับเปิดกิจการกิจกรรม ระยะที่5 ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงสุด จึงเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายหวั่นเกรงจะเกิดการระบาดซ้ำ คำเตือน คำแนะนำไปยังกลุ่มต่างๆ จึงมีขึ้นทุกวัน
ไปนั่งสังสรรค์ ก็เตือนให้ระวังไม่ให้คนอื่นเติมน้ำแข็ง
แต่กับกลุ่มนักเรียน กลุ่มคนวัยทำงาน ยิ่งต้องเฝ้าระวังสูงสุด เพราะนอกจากความเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ต้องใช้ชีวิตนอกบ้านสัมพันธ์กับคนอื่นจำนวนมาก วันละหลายชั่วโมง ทั้งยังไม่แสดงอาการ
ปัญหาจะเกิดเมื่อกลับไปบ้าน สัมผัสกับผู้สูงอายุ ที่หากรับเชื้อ อาการจะรุนแรง เสี่ยงไม่ใช่เล่น
ความเห็น 0