FootNote:เหล่าฉลาม กระสา "กลิ่นเลือด" กรณี ร้อนรุ่ม ปริญญ์ พานิชภักดิ์
พลันที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ออกมาเน้นย้ำในเรื่องขั้นตอนการเป็นรองหัวหน้าพรรคของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ และตามมาโดยบทบาทของ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์
บรรดา "คอการเมือง" ระดับลึกสุดติ่งภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็อ่าน "จังหวะก้าว" ในการเคลื่อนไหวออก
เพราะสายสัมพันธ์หนึ่งของ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ เป็นสายสัมพันธ์อันแนบแน่น อยู่กับกลุ่มอำนาจที่เคยครองตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน
คงจำกันได้ว่าเมื่อ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ เดินทางไปสำรวจแนวหลักชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมกับขบวนของ นายวีระ สมความคิด นั้นเขาต่อสายโทรศัพท์ไปถึงใคร
ขณะเดียวกันภาพของ นายเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งจำหลักอย่างหนักแน่นอยู่กับรายการประเภททอล์คโชว์ ผ่านช่องบลูสกายในยุคหนึ่งก็ล้วนแต่แวดล้อมอยู่กับเพื่อนเก่าของหัวหน้าพรรคคนหนึ่ง
บทบาทของ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ บทบาทของ นายเทพไท เสนพงศ์ จึงเด่นชัดว่าดำเนินสงคราม "ตัวแทน" ให้ใคร
ต้องยอมรับว่าไม่ว่าปมที่ทั้ง นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ และ นายเทพไท เสนพงศ์ ต้องการคลี่คลายให้เป็นที่กระจ่างก็คือ การเข้ามาเป็นรอง หัวหน้าพรรคของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผ่านเส้นสายใด
แน่นอน เป้าหมายของการเปิดโปกลางบ่อนครั้งนี้ย่อมพุ่งไปยัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อย่างเป็นด้านหลัก
ไม่เพียงแต่เน้นให้เห็นว่าได้รับการคัดค้านอย่างหนักแน่นและจริงจังจากทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายกรณ์ จาติกวณิช ซึ่งเป็นนักเรียนอังกฤษ
หากแต่การเข้ามาของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ในสถานะรองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ยังเป็นผลสะเทือนให้ นายกรณ์ จาติกวณิช ตัดสินใจเปิดหมวกอำลาจากพรรคประชาธิปัตย์
การเคลื่อนไหวไม่ว่าจะของ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ไม่ว่าจะของ นายเทพไท เสนพงศ์ จึงเท่ากับเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน อันสะท้อนปมแห่งความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์
ยืนยันว่า "พยัคฆ์ร้าย" เริ่มกระสากลิ่นแห่ง "เลือด" อย่างเร่งเร้า
เชื่อได้เลยว่า ไม่ว่าคดีอันเกี่ยวกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ จะลงเอยอย่างไร ภายในพรรคประชาธิปัตย์ต้องเกิด "มรสุม" แน่
เป็นมรสุมอันมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นเป้าหมายใหญ่
ความเห็น 0