โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กัมพูชาเปิดฉากยิงทหารไทย ทัพภาค 2 ยันตอบโต้ตามหลักสากล เปิดไทม์ไลน์ถล่มช่วงเช้ามืดหลายพื้นที่

MATICHON ONLINE

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ด่วน.! กัมพูชา เปิดฉากยิงทหารไทยก่อน ถล่มหลายจุด — ทัพภาค 2 ยันตอบโต้ตามหลักสากล ปกป้องอธิปไตยไทย พร้อมเปิดไทม์ไลน์ทหารกัมพูชายิงไทยช่วงเช้ามืดหลาย พื้นที่เข้ามาฝั่งไทย

เมื่อเวลา 06.50 น. วันที่ 8 ธันวาคม แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เกิดเหตุ ทหารกัมพูชาใช้อาวุธยิงใส่กำลังพลไทยบริเวณห้วยตามาเลีย ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องยิงตอบโต้ตาม กฎการปะทะสากล โดยสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีการยิงโต้ตอบประปรายต่อเนื่อง กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการ ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ

นอกจากนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผย ไทม์ไลน์ลำดับเหตุการณ์การยิงจากฝั่งกัมพูชาในช่วงเช้ามืดหลายจุดตามแนวชายแดน ดังนี้

05.05 น. พื้นที่ ช่องอานม้า ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยาวยิงใส่กำลังฝ่ายไทยในเขตรับผิดชอบของ ตชด.793

05.11 น. พื้นที่ ช่องอานมาแดนไกล มีการยิงปืนเล็กยาวเพิ่มอีก 3 นัด

05.21 น. บริเวณ ฐานรากหญ้า เจ้าหน้าที่ตรวจพบโดรน 2 ลำบินมาจากฝั่งฐานแดนไกล

05.23 น. พื้นที่ ตลาดช่องอานม้า ทหารกัมพูชายิงปืนกล 1 ชุดใส่ฝ่ายไทย

05.24 น. ฐานปฏิบัติการเจนศึก ยิงตอบโต้ด้วยปืนกล 1 ชุด เพื่อป้องกันตัวตามหลักสากล

05.30 น. ฐานแดนไกลด้านตะวันออก ทหารกัมพูชายิงปืนกลใส่ฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง

05.36 น. ฝ่ายไทยยิงป้องกันตัวตอบโต้ แต่ไม่มีการยิงกลับจากฝั่งกัมพูชา

05.57 น. บริเวณ รากหญ้า ตรวจพบทหารกัมพูชาประมาณ 50 นาย เดินเท้าจากคาสิโนมุ่งหน้าเนิน 677

06.00 น. พื้นที่ ห้วยบอน ทหารกัมพูชายิงปืนเล็กยาวใส่ฝ่ายไทย 5 นัด

06.07 น. พื้นที่ ฐานต้นมะนาว และ ฐานห้วยบอน ทหารกัมพูชายิงปืน ค. อย่างละ 1 นัด รวม 2 นัด

06.11 น. มีกระสุน ค. ตกบริเวณบ่อดินหลังตลาดไทย 1 นัด

06.17 น. ฐานเจนศึก ยิงตอบโต้ด้วยปืน ค.60 ตามหลักสากล

06.23 น. มีกระสุน ค. ตกในพื้นที่มั่น 3 ฐานริมผา

ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ตามที่ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงใส่ฝ่ายไทย
เวลา 22.00 น. ในพื้นที่ช่องคะนา และช่องระยี ตรวจพบการเคลื่อนย้าย ถ. T – 55 ของฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
เวลา 23.00 น. ทหารกัมพูชามีการเตรียมความพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด จากกรณีปะทะที่พลาญหินแปดก้อน และยังเตรียมความพร้อมรบตลอดแนวชายแดน มีการสร้างที่กำบังเพิ่มเติม, เสริมความแข็งแรงที่มั่น, ค้นหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ, ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง, ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ รวมทั้งยังเฝ้าตรวจการปฏิบัติของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้รถถัง, Drone และการทำถนนบริเวณหน้าแนว
เวลา 00.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. RM – 70 ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
เวลา 01.00 น. ในพื้นที่ช่องจอม และช่องเสม็ด ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. BM.- 21 และ Type – 90 B ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
เวลา 03.25 น. ตรวจพบทหารกัมพูชาสั่งการให้กำหนดเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุน เล็งมาในพื้นที่ บ้านกะชายน้อย ตำบล ปราสาท อำเภอ บ้านด่าน ห่างจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ประมาณ 13 กม. และบ้านจรูกแขวะ ตำบล โคกยาง อำเภอปราสาท สุรินทร์ ห่างจากชายแดน 31 กม.
กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพิ่มระดับการเฝ้าระวัง และดำเนินการ ทุกมาตรการเพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง

กัมพูชา

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กัมพูชาเปิดฉากยิงทหารไทย ทัพภาค 2 ยันตอบโต้ตามหลักสากล เปิดไทม์ไลน์ถล่มช่วงเช้ามืดหลายพื้นที่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...