โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สลด ‘นาวิกโยธิน’ เตาอั้งโล่รมควันสิ้นใจคารถ เมียเผยเครียดปัญหาหนี้สินเล่นพนัน

เดลินิวส์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
พันจ่าเอกทหารเรือ นาวิกโยธิน ตั้งเตาอั้งโล่รมควันตัวเองสิ้นใจคารถ เมียเผยชนวนเครียดหนี้สินจากการเล่นพนัน ซ้ำก่อนหน้ามีปัญหาทะเลาะกัน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 68 ร.ต.ท.ณวธร ภูวเศรษฐาวร รองสว.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ได้รับการประสานจากหญิงสาว อายุ 30 ปี ว่า พบร่างสามีเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ บริเวณลานจอดรถ หลังพระอนุสาวรีย์ ร.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ รถกระบะ 4 ประตู รุ่นโตโยต้า วีโก้ สีเทาดำ ทะเบียนหมวดเพชรบุรี จอดอยู่ในสภาพดับเครื่อง ล็อกประตูรถทั้ง 4 บาน ที่บริเวณเบาะนั่งคนขับพบร่างชายหนุ่ม อายุ 37 ปี เป็นทหารยศพันจ่าเอก สังกัด กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เสียชีวิตในชุดกีฬาประจำหน่วย สภาพนั่งหลังพิงเบาะแหงนคออ้าปาก ในมือขวาถือไฟแช็ก และที่บริเวณพื้นหลังเบาะฝั่งข้างคนขับ พบเตาอั้งโล่เผาถ่าน ซึ่งไฟมอดหมดแล้ว คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน

สอบถาม ภรรยาผู้ตาย เผยว่า สามี มีปัญหาเรื่องการเงิน การเป็นหนี้สิน และชนวนเหตุของการฆ่าตัวตายครั้งนี้ น่าจะมาจากการเป็นหนี้ เนื่องจากผู้ตายติดเล่นการพนัน ล่าสุด ได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน ตั้งแต่วันพุธที่ 3 ธ.ค. 68 โดยสามีได้ขับรถออกจากบ้านไป แต่ก็ได้เปิดจีพีเอสตรวจเช็กพิกัด พบว่า สามีมาจอดรถอยู่ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ กระทั่ง วันที่ 4 ธ.ค. สัญญาณจีพีเอสได้หายไป ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. แต่ไม่ได้ออกตามหา เนื่องจากทะเลาะกัน และตนทํางานอยู่ที่แหลมฉบัง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีนัดกันว่าจะไปวิ่ง แต่สามีก็ไม่มาตามนัด ประกอบกับที่บ้านก็ปิดประตูล็อก จึงได้ตามมาดูพิกัดจีพีเอสสุดท้าย ก็พบว่า สามีได้รมควันเสียชีวิตแล้ว ตามที่เคยพูดไว้ก่อนหน้าจะฆ่าตัวตาย

ด้าน ร.ต.ท.ณวธ ได้ถ่ายรูปทําบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ทําการสะเดากลอนประตู เปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทําการหาหลักฐาน และชันสูตรพลิกศพ ซึ่งก็ยังไม่สามารถทราบสาเหตุที่แน่ชัด จึงได้นําศพส่งชันสูตรยัง โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...