โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน

ไทยโพสต์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท

5 ธ.ค. 2568 - ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า ตำรวจ สภ.บางพลี เร่งติดตามช่วยเหลือชายหนุ่ม วัย 20 ปี นักศึกษาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จนหลงเชื่อทิ้งจดหมายลาแม่เพื่อเดินทางไปมอบตัว ก่อนถูกดูดเงินไปเกือบสองแสนบาท เคราะห์ดีที่ตำรวจตามตัวเจอและพาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างปลอดภัย

เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา เมื่อนางสมศรี มารดาวัย 45 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.บางพลี ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังกลับจากเลิกงานมาถึงห้องพักในหมู่บ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

สิ่งที่ทำให้เธอตกใจคือ นายเอก (นามสมมุติ) ลูกชาย วัย 20 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ได้หายออกจากห้องไปตั้งแต่ช่วงเย็น และที่สำคัญคือ มี "เอกสารโน้ต" ทิ้งไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ระบุข้อความสั้น ๆ ว่า "โดนคดีฟอกเงิน ต้องเดินทางไปให้การที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ ปปง. ภายในวันที่ 3 ธ.ค. 68" นอกจากนี้ยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เลย ทำให้มารดาเกรงว่าจะได้รับอันตรายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน

หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี ได้เร่งดำเนินการทันที โดยได้ข้อมูลจากมารดาถึงตำแหน่งโทรศัพท์มือถือล่าสุดของนายเอก ซึ่งพบว่าอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยเปรมฤทัย 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี เมื่อเดินทางไปถึงและสอบถามเจ้าของอพาร์ตเมนต์ทราบว่า นายเอกอยู่ที่นี่จริง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบและพบตัวนักศึกษาหนุ่มอยู่ภายในห้อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมอยู่นาน จนทำให้นายเอกคลายความกังวล และได้ประสานให้มารดาได้พบกับลูกชายในที่สุด ก่อนจะนำตัวกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบถาม นายเอก เล่าว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเช้า (ประมาณ 09.42 น.) ได้มีเบอร์โทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามา อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ ปปง. กล่าวหาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงและฟอกเงินจากบัญชีธนาคารออมสินของตนเอง ซึ่งไปพัวพันกับคดีของ "นายเอ็ม เอกชาติ" ในคดีฟอกเงินเว็บพนัน ด้วยความตกใจและหลงเชื่อ นายเอกจึงปฏิบัติตามคำสั่งของมิจฉาชีพ โดยมีการแอดไลน์ชื่อ “กรมสอบสวนพิเศษ” ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “พี่ภู” มิจฉาชีพได้ออกคำสั่งให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ ถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลา 12.03 น. ถึง 16.09 น. ของวันเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียหายรวมทั้งสิ้น 181,204.72 บาท ก่อนที่จะตัดสินใจทิ้งจดหมายลาและทำตามคำสั่งมิจฉาชีพไปจนกระทั่งถูกตำรวจตามตัวเจอ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้นำตัวนายเอกและนางสมศรี เข้าพบพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.มานิตย์ เข็มหนู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เคสแบบนี้เรียกว่าจับตัวเองเป็นตัวประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ระบาดอยู่พักหนึ่ง แต่ตอนนี้คนร้ายได้กลับมาใช้วิธีนี้อีก อยากฝากเตือนผู้ปกครอง ในกรณีที่เด็กได้ใช้โซเชียล และมีโทรศัพท์ของคนร้ายโทรเข้ามา ให้แจ้งเตือนกับเด็กว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้น และถ้ามีแบบนี้ให้บอกผู้ปกครองทันที ซึ่งเคสแบบนี้ คนร้ายจะปลอมหนังสือของหน่วยงานต่างๆเพื่อมาหลอก และถ้าไม่ปฏิบัติตามจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม เพราะส่วนใหญ่คนร้ายจะออนไลน์กับเด็กตลอด และคอยขู่เด็ก ตอนเด็กไม่กล้าบอกใคร

"เคสนี้ได้รับแจ้งประมาณ เวลา 16.45 น. และสามารถไปช่วยได้เวลา 4 ทุ่ม ซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งในกรณีแบบนี้ทางคนร้ายจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขู่เด็ก ทำให้เด็กกลัวการที่เห็นตำรวจเข้าไปจึงไม่คิดว่าตำรวจจะเข้าไปช่วย จึงทำให้เด็กกลัว และไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หลังจากนั้นเด็กจึงมั่นใจว่าผู้ปกครองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ เข้ามาช่วย" ผกก.สภ.บางพลี ระบุ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...