"ธรรมนัส" จุดเปราะบาง "แดง-ส้ม" เสียงแตกยื่นซักฟอก "หนู" ชิงยุบสภา หนีถูกด่าฟรี ฉากทัศน์ ก่อนเลือกตั้ง
รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะนี้ถูกมองว่ากำลังอยู่ในสภาพโซซัดโซเซ เสถียรภาพและความเชื่อมั่นติดลบ ประชาชนหมดศรัทธา
เหตุเพราะนายกฯ บริหารประเทศล้มเหลวทุกด้าน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ต่างประเทศ และสังคม ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนไปยังรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นจุดเปราะบางที่สุดของรัฐบาลนายอนุทิน
หลังถูกฝ่ายค้านพรรคประชาชนเปิดเกมรุกหนัก กดดันให้นายกฯ ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกจากตำแหน่ง เหตุเชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจสีเทา-ฟอกเงิน
แต่กลับไร้สัญญาณตอบรับจากนายอนุทิน จุดชนวนข้อกล่าวหาอุ้มเทา และอาจเป็นตัวเร่งให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปิดฉากรัฐบาลยุบสภาก่อน 4 เดือนหรือไม่อย่างไร
ล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.พรรคกล้าธรรม กับพวก รวม 69 รายการ มูลค่า 159 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินสด รถยนต์ ที่ดิน หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงเว็บไซต์พนันออนไลน์หลายแห่ง
ทั้งนี้ นายชนนพัฒฐ์สามารถยื่นหลักฐานแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ภายใน 30 วัน
อย่างไรก็ตาม การประกาศยึดทรัพย์นายชนนพัฒฐ์ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำจุดด่างพร้อยของนายอนุทิน เหตุมีนักการเมืองสีเทาแฝงตัวอยู่ในรัฐบาล
อีกทั้งสะท้อนภาพความล้มเหลวในการแก้ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์-พนันออนไลน์ นายกฯ พูดแล้วทำไม่ได้จริง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเสียหายขั้นรุนแรง
แม้ว่านายอนุทินยืนยันว่าจะยุบสภาภายใน 4 เดือน ตามข้อตกลง MOA ที่ทำไว้กับพรรคประชาชน
แต่หากดูจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านแล้ว หลายฝ่ายประเมินว่ารัฐบาลคงอยู่ไม่ถึง 4 เดือนแน่นอน
ดังนั้น ต้องจับตาเกมวัดใจฝ่ายค้าน “แดง-ส้ม” พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หรือว่านายอนุทินจะชิงจังหวะยุบสภาหนีการซักฟอกก่อนหรือไม่
“ผมรู้ตัวตลอดเวลาว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้น หากมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง รัฐบาลย่อมไม่มีทางที่จะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า”
“รัฐบาลก็ต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงกับพรรคประชาชน แต่ถ้าเป็นการยื่นญัตติเปิดอภิปราย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของประเทศร่วมกัน ผมพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ”
“ผมไม่เคยคิดที่จะจับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แต่เราจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญ ให้เสร็จเร็วที่สุด ตามกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้นจะยุบสภา” นายอนุทินกล่าว
และย้ำว่า พร้อมยุบสภาก่อนกำหนด เพราะไม่ยอมให้ใครมาด่ารัฐบาลฟรีๆ ยุบสภาก่อนแค่เดือนเดียว คงไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไร
ขณะที่ท่าทีของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทย-ประชาชน กลับเสียงแตกมองต่างมุม และเปิดศึกซัดกันเอง ขาดความชัดเจนในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอนุทิน
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นฝ่ายค้ำรัฐบาล หลังออกมาระบุว่า ยังไม่พบข้อมูลที่ร้ายแรงสุดสุดจริงๆ ที่จะเป็นเหตุให้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เราได้พยายามผลักดันในทุกวิถีทางด้วยกลไกที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าจะมีพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงร่วมกันเกิน 1 ใน 5 ของสมาชิกสภา ไปยื่นเราคงห้ามไม่ได้ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเหมือนกัน ก็คงต้องมาคุยกันว่าจะยื่นเมื่อไหร่
เมื่อถามว่าเรื่องทุนเทาที่มีการเปิดประเด็นออกมายังไม่ร้ายแรงอีกใช่หรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า ต้องรอรีแอ๊กชั่นว่ารัฐบาลจะมีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งเรายังให้เวลาว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป จะมีการปลดหรือเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันหรือไม่
ในส่วนอื่นๆ เราคิดว่าแอ๊กชั่นของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ก็เป็นไปตามแนวทางที่พรรคประชาชนได้นำเสนอต่อประชาชน
ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความตำหนิรองหัวหน้าพรรคประชาชน แนะฝ่ายค้านควรทำหน้าที่ดับไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ใช่รอให้ไฟลุกไหม้ทั้งบ้าน
“เมื่อ ส.ส.พรรคประชาชนหลายท่าน ทั้งรังสิมันต์ โรม รักชนก ศรีนอก ได้ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาบางประเด็น พร้อมตั้งคำถามต่อรัฐมนตรีบางคนในเชิงสาธารณะ”
“เหตุใดจึงไม่ใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสภา ซึ่งเป็นช่องทางที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองและสามารถเปิดเผยข้อมูลหลักฐานได้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส และเป็นระบบมากกว่าการตั้งคำถามภายนอก”
“กรณีความกังวลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากพรรคประชาชนกังวลว่าการยื่นอภิปรายจะกระทบต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยพร้อมพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน เพราะจุดยืนของเราชัดเจนว่าการตรวจสอบรัฐบาลกับการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน”
“สิ่งสำคัญคือฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบโดยไม่ปล่อยให้ปัญหาบานปลาย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้หมายถึงการล้มรัฐบาลเสมอไป แต่คือการทำให้รัฐบาลต้องตอบคำถามต่อสาธารณะ และปรับปรุงการบริหารงานให้ดีขึ้น” รองเลขาฯ พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้านมุมมองของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ข่าวบ้าน การเมือง โดยประเมินท่าทีของพรรคฝ่ายค้านในการเปิดเกมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ผศ.ดร.ปริญญาวิเคราะห์ว่าหากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจริง นายกฯ จะชิงยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอกอย่างแน่นอน
“3 พรรคเอาคนละอย่างเลย แดงจะอภิปรายนายกฯ ส้มจะอภิปรายคุณธรรมนัส น้ำเงินจะขอให้อภิปรายแบบไม่ลงมติ ดังนั้น สรุปว่ามีอภิปรายแน่ แต่จะเป็นแบบไหน”
“ถ้าเพื่อไทยเปิดอภิปรายคุณอนุทิน คุณอนุทินจะอยู่หรือไป อยู่ที่พรรคส้มเลย ถ้าพรรคส้มงดออกเสียง คุณอนุทินก็รอด ถ้าพรรคส้มไม่ไว้วางใจด้วย คุณอนุทินก็จะหลุดเลย เพราะต้องการแค่ 247 เกินกึ่งหนึ่ง”
“ถามว่าพรรคส้มจะทำอย่างไร งดออกเสียงได้ไหม เพื่อรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาเข้าวาระ 2 จะได้ผ่าน จะได้เอาไปถามประชาชน แล้วมี ส.ส.ร.ทัน พรรคส้มก็จะกลายเป็นฝ่ายค้ำของแท้เลย ดังนั้น พรรคส้มก็ต้องไม่ไว้วางใจด้วยอยู่แล้ว”
“รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าถ้ามีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แล้วจะยุบสภาไม่ได้ เพราะเขาป้องกันการหนีการถูกตรวจสอบ แต่มีคนไปถามคุณวันนอร์ (วันมูหะมัดนอร์ มะทา) คุณวันนอร์ตอบว่ามันต้องบรรจุญัตติก่อน เพราะมันต้องตรวจสอบก่อนว่าเซ็นมาจริงไหม เป็น ส.ส.จริงหรือเปล่า ครบ 99 คนจริงหรือไม่”
“เป็นปัญหาการตีความว่ายื่นแล้วห้ามยุบสภาจะนับจุดไหน ผมเห็นว่าเมื่อตรวจสอบแล้วว่าชื่อเป็น ส.ส.ครบ 99 คน ณ วันนั้นจะยุบสภาไม่ได้ แต่ระหว่างการเช็กชื่อกันอยู่ คุณอนุทินจะรู้ไหม รู้สิ ดังนั้น ไม่มีทางแอบได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยยื่นเมื่อไหร่ ก็แปลว่าเขาต้องการให้ยุบสภา” อาจารย์ปริญญากล่าว
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.ปริญญามองว่าตอนนี้เป็นจังหวะที่เขาเรียกว่าหยั่งเชิงกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนเวลา ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะนายกฯ จะรู้ก่อนแน่ๆ และนายกฯ ก็ไม่ยอมที่จะถูกเชือดกลางสภา เพราะเสียงที่ช่วยให้รอดมันไม่มี
“ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยก็คงกังวลใจอยู่บ้าง ใครล่ะที่ทำให้ผู้รับเหมาทิ้งงาน ในเมื่อคุณอนุทินไม่มีทางเลือกอื่น พรรคแดงก็จะถูกกล่าวหาว่าทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ”
“ถ้าเป็นไปได้ พรรคเพื่อไทยเขาอยากให้แก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 เสร็จก่อนเปิดสภาวันที่ 12 ธันวาคม ถ้างั้นเพื่อไทยยื่นช้าหน่อยได้ไหม เพราะพรรคส้มเขาพร้อมจะลุยด้วย”
“แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนแผน ยื่นกลางเดือนธันวาคม ก็นับไป 60 วัน เลือกตั้งกลางกุมภาพันธ์ ถ้าคุณอนุทินอยู่จนถึงวันที่ 31 มกราคม ก็เลือกตั้ง 29 มีนาคม ดังนั้น การเลือกตั้งจะอยู่ในช่วง 6 สัปดาห์นี้” ผศ.ดร.ปริญญาประเมินฉากทัศน์ทางการเมือง
และมองโอกาสของฝ่ายค้านในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เร่งเกมปิดฉากรัฐบาลนายอนุทินยุบสภาก่อน 4 เดือนได้อย่างแหลมคม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ธรรมนัส” จุดเปราะบาง “แดง-ส้ม” เสียงแตกยื่นซักฟอก “หนู” ชิงยุบสภา หนีถูกด่าฟรี ฉากทัศน์ ก่อนเลือกตั้ง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th/weekly