โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปี 68 “การท่าเรือฯ” โกยกำไร 7,096 ล้าน “ท่าเรือระนอง” คึกคัก ตู้สินค้าเพิ่ม 95%

เดลินิวส์

อัพเดต 9 ธันวาคม 2568 เวลา 17.23 น. • เผยแพร่ 48 นาทีที่แล้ว • เดลินิวส์
การท่าเรือฯ โชว์ผลการดำเนินงานปี 68 โกยกำไร 7,096 ล้าน มีเรือเทียบท่า 5 แห่ง 1.5 หมื่นเที่ยว เพิ่ม 4.6% สินค้า126 ล้านตัน ตู้สินค้า 11.43 ล้าน ที.อี.ยู. “ท่าเรือแหลมฉบัง” พีคสุด ขณะที่ “ท่าเรือระนอง” คึกคัก ตู้สินค้าเพิ่ม 95% หนุนแลนด์บริดจ์ เดินหน้าเร่ง “แหลมฉบัง เฟส 3” แก้ปัญหารถติดท่าเรือ

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการให้บริการของ กทท. ในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567 – ก.ย. 2568) มีเรือเทียบท่ารวม 15,113 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.61% ปริมาณสินค้าผ่านท่ารวม 125.07 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.46% และปริมาณตู้สินค้าผ่านท่ารวม 11.43 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น6.44% จากปีก่อนหน้า สำหรับผลประกอบการท่าเรือหลักของ กทท. ได้แก่ ท่าเรือกรุงเทพ มีเรือเทียบท่า 4,460 เที่ยวเพิ่มขึ้น 7.37% สินค้าผ่านท่า 18.92 ล้านตัน ลดลง 0.49% และมีปริมาณตู้สินค้า 1.28 ล้านที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 0.18%

ท่าเรือแหลมฉบัง มีเรือเทียบท่า 10,653 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3.50% สินค้าผ่านท่า 106.15 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.60% และมีตู้สินค้าผ่านท่า 10.15 ล้านที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 7.28% ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างมั่นคงของท่าเรือหลักของประเทศแสดงถึงความพร้อมและประสิทธิภาพในการให้บริการของ กทท. ขณะที่ท่าเรือภูมิภาคของ กทท. มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน โดยท่าเรือระนอง มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่า 5,459 ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้นสูงถึง 95.24% และท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนมีสินค้าผ่านท่า 1.87 แสนตัน เพิ่มขึ้น 62.72% สอดคล้องกับการขยายตัวของการค้าชายแดน และเส้นทางโลจิสติกส์สู่ภูมิภาค BIMSTEC (บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และไทย)

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ภายใต้สภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องกทท. ยังคงสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคง โดยมีกำไรสุทธิ 7,096 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาศักยภาพการให้บริการท่าเรือไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการ เพื่อรองรับความต้องการของภาคธุรกิจโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการเติบโตของกิจกรรมขนส่งทางน้ำของประเทศในภาพรวม อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2569 (ต.ค.-ธ.ค.2568) กทท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ภายใต้การกำกับดูแลของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เพื่อวางรากฐานคมนาคม เพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งทางน้ำและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพ

โดยจะเร่งดำเนินการตามแผนสำคัญ ได้แก่ การติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย การแก้ไขปัญหาการจราจรโดยรอบพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ และแหลมฉบังให้มีความคล่องตัว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการพัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นท่าเรือสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ทั้งนี้ กทท. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนานทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยก้าวต่อไป กทท. ยังคงมุ่งดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมพลังอนาคตประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุล.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...