โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อย่าเพิ่งกลับบ้าน! "สมศักดิ์" เตือนหลังเจรจา 13 ข้อชายแดนส่อดีขึ้น แต่ยังเสี่ยง – แนะตรวจอาวุธตกค้างก่อนเข้า

The Better

อัพเดต 07 ส.ค. เวลา 10.18 น. • เผยแพร่ 07 ส.ค. เวลา 10.16 น. • THE BETTER
รมว.สธ.ลงพื้นที่สระแก้ว ตรวจบังเกอร์ เยี่ยมโรงพยาบาลชายแดนและศูนย์อพยพ เตือนประชาชนอย่ารีบอพยพกลับ แม้เจรจาระหว่างไทย-กัมพูชาจะเห็นพ้อง 13 ข้อ พร้อมยืนยันดูแลสุขภาพประชาชนเต็มที่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางพัชรี ศาลาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจังหวัดสระแก้ว จากกรณีสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อให้กำลังใจ และมอบความช่วยเหลือให้กับกลุ่มเปราะบาง

โดยนายสมศักดิ์ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาตรวจเยี่ยมพื้นที่จังหวัดสระแก้วในวันนี้ เพราะการเดินทางมาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปฏิบัติภารกิจราชการ แต่เป็นการมาด้วยความห่วงใย และกำลังใจอย่างเต็มเปี่ยมจากรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข โดยตนทราบดีว่า สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสุขภาพและความปลอดภัย โดยตนขอชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และทหาร ที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างเต็มที่

“การมาของผมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในพื้นที่ ตลอดจนศูนย์อพยพต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพี่น้องประชาชน จะได้รับการดูแลด้านสาธารณสุขอย่างดีที่สุดในทุกสถานการณ์ ผมขอให้ความมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุข พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทรัพยากร ทั้งบุคลากร เครื่องมือทางการแพทย์ และงบประมาณอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวสระแก้วมีความปลอดภัย และมีสุขภาพที่ดี ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เราจะสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ ที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างแน่นอน” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมบังเกอร์ภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าข้าม โดยจุดนี้ ห่างจากพื้นที่บริเวณชายแดนเพียง 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้ขอให้มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เพื่อรองรับการดูแลต่อผู้ป่วย และกลุ่มเปราะบาง

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ เดินทางต่อไปที่จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ เพื่อตรวจเยี่ยมและประเมินสถานการณ์ชายแดน โดยได้รับฟังบรรยายสรุปจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ววันนี้ ได้มาตรวจเยี่ยมผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะผู้ป่วยใน และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมาติดตามว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร โดยจากการรับฟัง พบว่า ศูนย์อพยพในจังหวัดสระแก้ว ไม่ค่อยมีผู้อพยพอยู่แล้ว และจากผลการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ยอมรับข้อตกลง 13 ข้อ ทำให้สิ่งที่ต้องดำเนินการจากนี้ คือ การอพยพคนกลับพื้นที่ในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ แต่สิ่งที่ควรทำก่อนกลับเข้าพื้นที่คือ สำรวจบ้าน ที่พักอาศัย ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น วัสดุที่อาจเป็นอาวุธ ซึ่งหากพบ ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ก็จะช่วยดูแลสุขภาพทั้งหมด ทั้ง ความเครียด สุขอนามัย การทำความสะอาด โดยจะช่วยดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ก็ขอให้ฟังข่าวสารจากหน่วยงานราชการก่อนเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ซึ่งขอให้รอฟังรักษาการนายกรัฐมนตรีก่อน โดยตนเข้าใจว่า คนคิดถึงบ้าน แต่วันนี้ ก็จะมืดแล้ว อาจเกิดความอันตราย จึงขอให้รอฟังสถานการณ์จากรัฐบาล อย่างเป็นทางการก่อน ส่วนปัญหาเรื่องกลิ่นจากร่างผู้เสียชีวิตบริเวณชายแดน ก็มีการตกลงแล้วว่า จะมีการร่วมบูรณาการกัน เพื่อทำให้อย่างสมเกียรติ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...