พรุ่งนี้ ( 8 ธ.ค.) กรมกรมสวัสดิการฯ ยื่นมือเป็นคนกลาง แก้ปัญหาข้อพิพาทสหภาพฯ-ไดกิ้น
วันนี้( 7 ธ.ค.2568) นายพงศ์เทพ เพชรโสม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.2568) กรมฯจะเข้าไปเป็นคนกลางในการเจรจไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ระหว่างสหภาพแรงงาน กับ บริษัทไดกิ้นซึ่งเป็นการเจรจาครั้งที่ 12 หลังจากเจรจาไม่สำเร็จมาแล้ว 11ครั้ง จนเกิดเหตุการณ์ปิดงานงดจ้างเกิดขึ้น ทั้งนี้ตัวเลขของพนักงานที่ถูกปิดงานงดจ้าง มีประมาณ 1,700 กว่าคน แต่ย้ำว่า ยังไม่ใช่การเลิกจ้าง และถือเป็นสิทธิที่นายจ้างสามารถทำได้ ตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นสิทธิของทั้งฝั่งนายจ้าง และฝั่งลูกจ้าง โดยฝั่งนายจ้างจะเรียกว่า การปิดงาน ส่วนฝั่งลูกจ้าง จะเรียกว่า การนัดหยุดงาน
ระหว่างนี้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งที่ผ่านมาพูดคุยมาแล้ว 11 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งเจ้าหน้าที่ประนอมข้อพิพาทแรงงานเข้าไปเป็นคนกลางในการพูดคุย ไกล่เกลี่ยแล้ว 3 ครั้ง
ส่วนประเด็นที่ยังไม่คืบหน้าคือเรื่องการแจกทอง นั้น นายพงศ์เทพ ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องราคาทอง เพราะขณะที่ทำสัญญา ราคาทองยังไม่ผันผวนเท่าปัจจุบัน ซึ่งปีที่แล้วทางบริษัทจ่ายเงินค่าทองประมาณ 100 ล้านบาท และปีนี้คาดว่า น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนประเด็นเรื่องไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสัญญาได้นายพงศ์เทพ อธิบายว่า ตัวสัญญาดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ซึ่งตามกฎหมายสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดได้ แต่จะเป็นการตกลงกันระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง
วันพรุ่งนี้ ( 8 ธ.ค.) ซึ่งจะมีการพูดคุยระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง อีกครั้ง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะพยายามหาข้อยุติให้เร็วที่สุด ส่วนจะต้องใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการสั่งให้เปิดการจ้างงานหรือไม่ ต้องดูตามเงื่อนไขของกฎหมาย
สำหรับนโยบายการจ่ายโบนัส แจกทองตอบแทนพนักงาน นอกจากบริษัท ไดกิ้นแล้ว ยังมีบริษัทอื่นๆ นำมาเป็นแรงจูงใจการทำงานของแรงงานเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและพลังงาน โดยตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลประกอบการของแต่ละบริษัทและข้อตกลงร่วมกับสหภาพแรงงาน เช่น พนักงานของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โพสต์ข้อความขอบคุณบริษัท ที่แจกทอง ตามอายุงาน/ 15 ปีขึ้นไป ได้ทองคำ 2 บาท /10 ปี ได้ทองคำ 1 บาท/ ทำงาน 5 ปี ได้ทองคำ 2 สลึง นอกจากทองคำ โรงงานแห่งนี้ สหภาพแรงงานยังเป็นตัวกลาง เจรจาให้บริษัทจ่ายโบนัสให้พนักงาน 7 เดือน บวกเงินพิเศษ 27,000 บาท
นางศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต ยอมรับว่า ในพื้นที่รังสิตมีหลายบริษัทพยายามยกเลิก แต่อยู่ระหว่างเจรจา จึงกังวลว่า กรณีของบริษัทไดกิ้น อาจกลายเป็นแรงกระเพื่อมให้โรงงานอื่นทำตาม สวัสดิการให้ทองตามอายุงาน เป็นแนวปฏิบัติมานานในหลายอุตสาหกรรม แต่ไม่ใช่ว่า แรงงานจะได้ทุกคน เพราะบางส่วนลาออกจากปัญหาสุขภาพไปก่อน สวัสดิการให้ทอง เดิมเป็นข้อตกลงสภาพการจ้างงาน เมื่อมีสหภาพแรงงาน นายจ้างไม่สามารถยกเลิกสวัสดิการที่เคยให้ได้ หากต้องการเปลี่ยนแปลงต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจาตามกฎหมาย
ด้านเดวิด เวลช์ ผู้อำนวยการประจำสำนักงานประเทศไทยของโซลิดาริตี้ เซ็นเตอร์ องค์กรส่งเสริมสิทธิแรงงานสากล ระบุว่า การจูงใจแรงงานด้วยเงิน หรือทองคำ คือ เบี้ยขยัน ไม่ใช่รางวัล ที่นายจ้าง เลือกให้หรือไม่ให้ก็ได้ เพราะกลยุทธ์นี้ จูงใจให้แรงงานทุ่มเททำงาน เพราะค่าจ้างปกติไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ ซึ่งเมื่อแรงงานทำตามเงื่อนไขได้ครบตามที่ตกลง จึงควรเรียกร้องได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างอังกฤษ แคนาดา อเมริกา เมื่อเกิดข้อพิพาทระหว่างแรงงาน เสียงของสังคมจะยืนอยู่ข้างแรงงาน จึงแปลกใจที่ประเทศไทย มีกระแสต่อต้านสหภาพแรงงานเกิดขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การ "ปิดงาน" เคยเกิดขึ้นแล้ว จากกรณีการพิพาทระหว่าง บริษัทผลิตเครื่องปรับอากาศรายใหญ่ กับสหภาพแรงงาน เมื่อปลายปี 2560 มีการปิดงานสมาชิกสหภาพกว่า 1,800 คน งดจ่ายค่าจ้าง และสวัสดิการทั้งหมด หลังปิดงาน การเจรจาไม่เป็นผล บริษัทต้องเรียกคนงานกลับเข้าทำงาน
แต่จากข้อมูลของสหพันธ์แรงงานสากล พบว่า บริษัทใช้กลวิธีทยอยเรียกคน อ้างว่า เพื่อปรับสภาพความพร้อม เช่น เรียกสัมภาษณ์เป็นรายบุคคลต่อมามีการทยอยเลิกจ้างคนงานที่เป็นกรรมการสหภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเจรจาต่อรอง ท้ายที่สุดทำให้สหภาพแรงงานล่มสลายไป กลายเป็นบทเรียนของการปกป้องสิทธิแรงงานไทย
อ่านข่าว:
"ปิดงานงดจ้าง" คืออะไร เมื่อ "ไดกิ้น" ใช้เป็นวิธีการตอบโต้สหภาพฯ
สว.ค้าน "ไดกิ้น" ใช้มาตรการ "ปิดงานงดจ้าง" ชี้ "สหภาพแรงงาน" เป็นหลักสากล
"ไดกิ้น" จ.ชลบุรี แจ้ง "ปิดงานงดจ้าง" หลังไม่สามารถตกลงกันได้ กรณี พนง.เรียกร้องเงินโบนัสเพิ่ม