โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ด้วยจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกสร้าง “อันดับแรก” เขียนบทใหม่ในอนาคตของความสัมพันธ์จีน-ไทย

The Better

อัพเดต 09 พ.ย. เวลา 04.32 น. • เผยแพร่ 09 พ.ย. เวลา 04.30 น. • THE BETTER
บทความโดย จาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

ในการทูตระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนและไทยยังคงสดใสอยู่เสมอ จีนและไทยได้สร้าง "อันดับแรก" มากมาย ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพอันพิเศษที่ว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" อย่างชัดเจนและแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ของทั้งสองประเทศในการทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาร่วมกัน นำมาซึ่งประโยชน์อันล้ำค่าประชาชนของทั้งสองประเทศ และเป็นแบบอย่างอันโดดเด่นของความร่วมมือระดับภูมิภาค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี กำลังจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ การทบทวนเส้นทางอันรุ่งโรจน์แห่งความสัมพันธ์ไทย–จีนซึ่งกล้าสร้างสรรค์ “อันดับแรก” ย่อมจะเป็นพลังสำคัญในการกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศมุ่งมั่นส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป

1. ชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ กำหนดหมุดหมายใหม่สำหรับความร่วมมือ
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับจีน และเป็นประเทศแรกที่พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม การตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่มองไปข้างหน้าในการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมนี้ได้ยกระดับความสัมพันธ์จีน-ไทยขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นการวางรากฐานทางการเมืองที่แข็งแกร่งสำหรับความร่วมมือเชิงปฏิบัติในหลากหลายมิติ ภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ การเยือนระดับสูงระหว่างจีนและไทยมีขึ้นบ่อยครั้ง การสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์เป็นไปอย่างราบรื่น และความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางการเมืองได้รับการเสริมสร้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสร้างแรงผลักดันที่แข็งแกร่งให้กับสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2565 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ และเยือนไทยครั้งประวัติศาสตร์ ได้บรรลุฉันทามติที่สำคัญกับฝ่ายไทยในการสร้างประชาคมจีน-ไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้นและผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ยุคใหม่

2. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบวิน-วิน สร้างเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการพัฒนาใหม่
ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ในกลุ่มอาเซียนที่ดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรีกับจีน ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 ภายใต้กรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมระหว่างจีนและอาเซียน จีนและไทยได้ดำเนินการตามข้อตกลงปลอดภาษีศุลกากรสำหรับผักและผลไม้ 188 ชนิดก่อนกำหนด ซึ่งส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตรอย่างมาก ประเทศไทยมีผลไม้สดที่ได้รับการอนุมัติให้ส่งออกไปยังจีนมากที่สุด โดยมีผลไม้สด 23 ชนิดที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก การนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยของจีนมีมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีมูลค่าสูงถึง 11.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศไทยได้จัดตั้งบริษัททุนต่างชาติแห่งแรกในจีน ในปีพ.ศ. 2522 เครือเจริญโภคภัณฑ์ของประเทศไทยได้ก่อตั้งบริษัททุนต่างชาติแห่งรแกในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น โดยถือเอกสารอนุมัติ "ใบรับรองการลงทุนจากต่างประเทศเซินเจิ้น เลขที่ (1981) 0001"

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนในต่างประเทศสูงสุด ผู้ผลิตรถยนต์จีน 8 ราย รวมถึง SAIC และ BYD ได้ลงทุนและจัดตั้งโรงงานในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่เกือบ 600,000 คันต่อปี และเงินลงทุนรวมมากกว่า 20,000 ล้านหยวน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกในอาเซียนที่นำเทคโนโลยี 5G ของจีนมาใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2563 ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของไทยได้เปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 5G แก่สาธารณชน โดยมี Huawei, ZTE และบริษัทจีนอื่นๆ เป็นพันธมิตรหลัก จีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ (Meetings, Incentives, Conference and Exhibitions) รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทย 250,000 คน คิดเป็น 34% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ และอยู่ในอันดับที่หนึ่ง

3. การรักษาความมั่นคงและธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ไทยเป็นประเทศแรกที่ดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศของจีน ทั้งสองฝ่ายได้จัดการฝึกซ้อมร่วมกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศเป็นประจำ โดยการฝึกซ้อมร่วมของกองทัพบกในชื่อ “ Strike” การฝึกซ้อมร่วมของกองทัพเรือในชื่อ “Blue Strike” และการฝึกซ้อมร่วมของกองทัพอากาศในชื่อ “Falcon Strike” นับตั้งแต่การฝึกซ้อมร่วมของกองทัพบกจีนและไทยในชื่อ “Strike” ในปี พ.ศ. 2550 มีการฝึกซ้อมดังกล่าวแล้ว 7 ครั้ง นอกจากนี้ ไทยยังเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานป้องปราบยาเสพติดจากจีนประจำการอยู่ ยังเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้ลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีนอีกด้วย

4. นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีนำเทรนด์การพัฒนาใหม่
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่ร่วมมือกับจีนในการสร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุ VGOS ในปี พ.ศ. 2568 กล้องโทรทรรศน์วิทยุ (VGOS) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร ซึ่งจีนและไทยร่วมกันพัฒนาเข้าประจำการที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้รับอุปกรณ์ทดลองนิวเคลียร์ฟิวชัน (โทคาแมก) ของจีน ในปี พ.ศ. 2560 สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้บริจาคอุปกรณ์โทคาแมกให้กับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแห่งแรกในอาเซียน ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่จัดแสดงตัวอย่างจากดวงจันทร์ในต่างประเทศ และในปี พ.ศ. 2567 ตัวอย่างอันล้ำค่าที่ยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ-5 ของจีนนำกลับมาจากดวงจันทร์ได้นำมาจัดแสดงในประเทศไทย จีนจะเป็นประเทศแรกที่ส่งอุปกรณ์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ของไทยขึ้นสู่อวกาศลึก และฉางเอ๋อ-7 ได้รับเลือกให้ติดตั้งอุปกรณ์ "Global Space Weather Monitoring" ที่พัฒนาโดยประเทศไทย ไทยยังเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมมือกับจีนในการวิจัยขั้วโลก และจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมที่สถานีวิจัยแอนตาร์กติกของจีน นอกจากนี้ยังเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เรือตัดน้ำแข็งวิจัยขั้วโลกของจีน เรือเสว่หลง 2 มาเยือน

5. สังคม วัฒนธรรมใกล้ชิดกันและการสร้างเสริมรากฐานใหม่แห่งมิตรภาพ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่จัดงานเฉลิมฉลอง “สุขสันต์ตรุษจีน” มานานที่สุด มีขนาดที่ใหญ่ที่สุด ในระดับสูงสุด และมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางทั่วโลก “สุขสันต์ตรุษจีน” ซึ่งเป็นโครงการด้านวัฒนธรรมจีน-ไทย ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในประเทศไทยมาหลายปีแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเยือนเยาวราชเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับประชาชนอย่างต่อเนื่องหลายปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ เป็นศูนย์วัฒนธรรมจีนแห่งแรกที่ก่อตั้งโดยรัฐบาลจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก จีนเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุด โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากกว่า 10 ล้านคนในปี พ.ศ. 2561 และ พ.ศ. 2562 ประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกประเทศจีนที่อนุญาตให้มีการแพทย์แผนจีนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

6. หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการศึกษา สืบสานคบเพลิงแห่งการบ่มเพาะบุคลากร
ประเทศไทยได้ก่อตั้งห้องเรียนขงจื่อแห่งแรกของโลก และจัดตั้งพันธมิตรพัฒนาสถาบันขงจื่อแห่งแรก ในปี พ.ศ. 2549 โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยได้ก่อตั้งห้องเรียนขงจื่อขึ้นในประเทศไทย ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถาบันขงจื่อ 17 แห่ง และห้องเรียนขงจื่อ 11 แห่ง ร่วมกันก่อตั้งพันธมิตรพัฒนาสถาบันขงจื่อ (ห้องเรียน) แห่งประเทศไทย จีนและประเทศไทยได้ร่วมกันสร้างห้องปฏิบัติหลู่ปันแห่งแรกของโลก ซึ่งเป็นการบุกเบิกรูปแบบการบูรณาการการศึกษาแบบ "ภาษาจีน + ทักษะวิชาชีพ" ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้ฝึกอบรมนักเรียนไทยไปแล้ว 1,804 คน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่นำภาษาจีนเข้าสู่ระบบการศึกษาแห่งชาติ และมีนักเรียนที่สอบภาษาจีนมากที่สุดในโลก นับตั้งแต่นำภาษาจีนเข้ามาในหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศในปี พ.ศ. 2535 ปัจจุบันมีโรงเรียนมากกว่า 3,000 แห่งในประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาจีน การแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างจีนและไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของอาเซียน โดยมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนมากกว่า 30,000 คนในแต่ละปี ประเทศไทยมีอาสาสมัครครูสอนภาษาจีนนานาชาติมากที่สุดในโลก โดยมีครูอาสาสมัครภาษาจีน 23 รุ่น กว่า 20,000 คนเคยสอนภาษาจีนในประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจำนวนผู้รับทุนการศึกษาภาษาจีนนานาชาติมากที่สุดในโลกอีกด้วย

สิ่งที่ผ่านมาเป็นเพียงบทนำ ทุกๆ“อันดับแรก”หรือ “ครั้งแรก”ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงเส้นทางอันน่าชื่นชมของความสัมพันธ์จีน-ไทย จากความก้าวหน้าอย่างมั่นคงสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดด สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำทั้งสองประเทศและมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างประชาชน ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่ร่วมมือกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความสำเร็จในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีแห่งประเทศไทย จะทำให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยเปี่ยมไปด้วยพลังและจะเป็นการสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...