4 องค์กรผนึกกำลัง จี้รัฐ–เอกชนยุติ “ฟ้องปิดปาก” ยกคดีไบโอไทย–พิรงรอง–สฤณี เร่งดันกฎหมายต้าน SLAPP
วันนี้(7 ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ, สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.), สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส) และคณะกรรมการรณรงค์ เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐบาลหยุดขบวนการการฟ้องปิดปาก (SLAPP) เพื่อปกป้อง
ผลประโยชน์ชาติและประชาชน
ในแถลงการณ์ ระบุว่า “การฟ้องปิดปาก” หรือ SLAPP (ย่อมาจาก Strategic Lawsuit Against Public Participation แปลว่า การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของสาธารณะ) ไม่เกี่ยวอะไรกับ “ข้อเท็จจริง” แต่หมายถึง คดีความที่มีเป้าหมายเพื่อข่มขู่กดดันให้คนที่ใช้สิทธิเสรีภาพการแสดงออก ตัดสินใจเลิกแสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อผู้ฟ้องคดี การฟ้องปิดปากกำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ทางสังคม ที่กำลังคุกคามผู้ที่ทำหน้าที่ส่งเสียงเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะในหลายเหตุการณ์จากกลุ่มทุนและกลุ่มผลประโยชน์ เช่น กรณีของ มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) และวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ที่ถูกบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหาร ฟ้องร้องจากการเผยแพร่ข้อมูลการระบาดของปลาหมอคางดำ
การฟ้องร้อง ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ในการทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค โดย บริษัท ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงโทษจำคุกสองปี แม้คดีกำลังดำเนินการในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่คำตัดสินดังกล่าวก่อให้เกิดการใช้เกียร์ว่างต่อการปกป้องผลประโยชน์สาธารณะของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และกรรมการในองค์กรอิสระ เมื่อมีการพิจารณากรณีที่มีผลประโยชน์เอกชนเกี่ยวข้อง หรือแม้กระทั่ง กรณี สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ผู้เขียนบทความและแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นเศรษฐกิจ สังคม และธรรมาภิบาล ถูก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและอาญาเรียกค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงาน และคดีตัวอย่างอีกหลายกรณี
นอกจากนี้ ยังมีคดีฟ้องปิดปาก (SLAPP) โดยบริษัทเอกชน ตั้งแต่นายทุนผูกขาด บริษัทเอกชน กลุ่ม ทุนธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ฟ้องต่อการทำหน้าที่ของนักวิชาการ และชาวบ้าน เพียงเพราะพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์ บริษัทหรือลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิชุมชนในพื้นที่โครงการ ลามไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนไม่น้อยที่ฟ้อง ผู้บริโภค และยังลามไปถึงผู้มีอำนาจ รัฐมนตรี นักการเมือง ยังฟ้องปิดปากประชาชน สื่อมวลชน กระทั่ง นักการเมืองฝ่ายค้าน ที่ลุกขึ้นมาตรวจสอบในรัฐสภา เพื่อเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ตรวจสอบ รวมถึงองค์กร หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ในการใช้อำนาจบริหารเพื่อกลั่นแกล้งเพื่อนำไปสู่การลงโทษทางวินัยเป้าหมาย เพื่อต้องการปิดปากและขัดขวางการทำงานของสหภาพแรงงานซึ่งเป็นองค์กรของลูกจ้าง เช่น กรณีการใช้ อำนาจบริหารกลั่นแกล้งโยกย้ายและตรวจสอบวินัย นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ สัมพันธ์ (สรส.) เป็นต้น
เครือข่ายประชาธิปไตยและองค์กรภาคประชาชน จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่ การจัดปัญหานี้ร่วมกัน ดังนี้ คือ
1. รัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ของรัฐในการปกป้องสิทธิมนุษยชน จากการบิดเบือนระบบกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ในการข่มขู่และปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ และ การปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน (human rights defenders) รวมทั้งหน้าที่ในการกำกับดูแลการใช้วิธีนี้ ของบริษัทเอกชนเพื่อคุกคามประชาชนที่ทำหน้าที่บนผลประโยชน์สาธารณะ ปัจจุบันมีเพียงสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีบทบาทหลักในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ ถูกฟ้องคดี SLAPP โดยเป็นการคุ้มครองบุคคลที่เปิดเผยข้อมูลการทุจริตและถูกฟ้องกลับ ให้ถือเป็นผู้แจ้ง เบาะแสหรือผู้ร้องเรียน ที่จะได้รับความครอง ทั้งทางแพ่ง อาญา วินัย และปกครอง แต่ ป.ป.ช. จะดำเนินการ เฉพาะในคดีทุจริต โดยไม่ได้รวมถึงกรณีผู้บริโภคถูกฟ้องปิดปาก ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมีนโยบายและการปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้เครื่องมือฟ้องคดีปิดปากประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมถึงผู้บริหารในรัฐวิสาหกิจ ยุติการใช้อำนาจโดยมิชอบและฟ้องร้องในคดีปิดปากประชาชน ต่อสื่อมวลชนและประชาชนผู้ลุกขึ้นมาตั้ง คำถามและตรวจสอบเพื่อผลประโยชน์สาธารณะ ซึ่งถือเป็นการกลั่นแกล้งคุกคามประชาชนโดยตรง และทำให้ รัฐขาดธรรมาภิบาล กลายเป็นรัฐที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยผู้มีอำนาจเสียเอง
2.บริษัทเอกชนจะต้องเคารพสิทธิมนุษยชนและยกเลิกการฟ้องปิดปากประชาชนโดยทันที UNGPS กำหนดให้บริษัทต้องแสดงความรับผิดชอบว่าเคารพสิทธิมนุษยชน ไม่ว่ากฎหมายในประเทศนั้น ๆ จะกำหนดไว้อย่างไรบ้าง การฟ้องคดี SLAPP เป็นการละเมิดความรับผิดชอบข้อ 85 นี้อย่างตรงไปตรงมา บริษัทต้องดำเนินกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (HRDD) เพื่อระบุ ป้องกัน และ บรรเทาความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน การฟ้องคดี SLAPP สะท้อนว่าบริษัทล้มเหลวในหน้าที่นี้ อย่างสิ้นเชิง การฟ้องคดี SLAPP เป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างเลือกปฏิบัติเพื่อกลั่น แกล้ง (judicial harassment) ขัดต่อละเมิดหลักการพื้นฐานที่ว่ากระบวนการยุติธรรมควรเป็นกลไกกลางที่ เป็นธรรมและเข้าถึงได้ เพื่อแสวงหาการเยียวยาที่มีประสิทธิผลจากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน
ขอให้รัฐบาลผลักดันร่างพระราชบัญญัติป้องกันการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมี ส่วนร่วมของสาธารณชน พ.ศ….. (ร่างกฎหมายป้องกันฟ้องปิดปากฯ) เพื่อปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defender) และป้องกันปัญหาการดำเนินคดีจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเสรีภาพใน การแสดงออก ต่อเรื่องที่เป็นประโยชน์สาธารณะ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญทางกระบวนการ ประชาธิปไตย โดยมีการดำเนินคดีจำนวนมากที่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพที่ได้รับรองในรัฐธรรมนูญ ทั้งเสรีภาพ ในการแสดงออก เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และสิทธิที่จะเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อรัฐ เป็นการคุกคามประชาชน สร้างความกลัวและบั่นทอนแรงจูงใจที่จะรักษาสิทธิ์เพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะ
3.หากสิ่งที่พูดหรือเผยแพร่ยังไม่เป็นความจริงแต่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ รัฐจะต้องมีนโยบาย ไม่ให้ผู้ถูกฟ้องปิดปากต้องจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย หลักการที่เป็นอยู่เดิมในการพิจารณาคดีแพ่งในข้อหา หมิ่นประมาท แตกต่างกับการพิจารณาคดีอาญาตรงที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นเป็น ความจริง หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงแล้วจะไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิดเลย ซึ่งหากเป็นคดีอาญาแม้จะเป็น ความจริงก็ยังอาจเป็นความผิดได้อยู่ สำหรับคดีแพ่งหากมีการเผยแพร่ข้อมูลออกไปในเรื่องที่ยังไม่เป็นความ จริง แต่เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับสาธารณะ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รู้ว่าไม่เป็นความจริง ก็ไม่ควรต้องจ่าย ค่าชดเชยความเสียหายใดๆ หากศาลพิจารณาเห็นว่าเป็นคดีที่เข้าข่ายการฟ้องปิดปากประชาชน ศาลควรมี อำนาจสั่งให้ยุติคดีได้ อีกทั้งยังอาจสั่งให้ฝั่งโจทก์จ่ายค่าเสียหายแก่จำเลยเชิงลงโทษได้ ศาลเองต้องคำนึงว่าต้อง ทำให้โจทก์ไม่สามารถฟ้องร้องคดีใหม่ได้อีก หากในกรณีที่พิจารณาแล้วว่าไม่เข้าข่ายการฟ้องปิดปาก ศาลก็มี อำนาจให้คดีนั้นเดินหน้าต่อไปได้
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO