โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

การลงทุนของจีนหนุนเป้าหมาย ‘ไทย’ เป็นศูนย์กลางส่งออกระดับโลก

Xinhua

อัพเดต 11 ส.ค. เวลา 23.58 น. • เผยแพร่ 11 ส.ค. เวลา 16.58 น. • XinhuaThai

× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป

กรุงเทพฯ, 11 ส.ค. (ซินหัว) — จุฬา สุขมานพ เลขาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย กล่าวว่าการลงทุนของจีนกำลังช่วยขับเคลื่อนโครงการมูลค่าสูงต่างๆ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูง และส่งเสริมความพยายามของไทยในการเป็นศูนย์กลางการส่งออกแห่งสำคัญของโลก

กลุ่มบริษัทจีนในฐานะนักลงทุนต่างชาติที่สำคัญได้นำเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น และแปลกใหม่มาสู่ไทย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ โดยการเกิดขึ้นของ “เทคโนโลยีขั้นสูงของจีนที่ผลิตในไทย” ได้เสริมสร้างเป้าหมายของไทยในการเป็นประตูส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงสู่ตลาดโลก

แนวโน้มนี้ปรากฏชัดเจนที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ซึ่งบรรดาแบรนด์จีนชั้นนำอย่างบีวายดี (BYD) ฉางอัน (Changan) จีเอซี ไอออน (GAC Aion) เกรตวอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) และเอ็มจี (MG) ได้จัดตั้งโรงงานผลิตในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อตอบสนองทั้งตลาดไทยและตลาดส่งออก

การลงทุนของจีนยังพัฒนาห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดและโครงสร้างพื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ครอบคลุมแบตเตอรี่ สถานีชาร์จไฟ การกักเก็บพลังงาน จนถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติการลงทุนของ 21 โครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 3.86 แสนคันต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวม 1.37 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่าการผลิตยานยนต์ไฟฟ้านั่งส่วนบุคคลแบบใช้แบตเตอรี่ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปี 2025 อยู่ที่ 23,798 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 380 เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็นร้อยละ 3.28 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในไทย

ไทยตั้งเป้าหมายผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดต่อปีภายในปี 2030 เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่วิธีการเดินทางอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จุฬากล่าวว่านอกจากภาคยานยนต์ กลุ่มนักลงทุนจีนยังสนใจภาคเทคโนโลยีดิจิทัลและเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG) ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตที่ยั่งยืนและหมุนเวียนได้ โดยไทยตั้งเป้าหมายเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับจีนและเป็นพื้นที่นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน พร้อมต่อยอด 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และความเชื่อมโยงอันแนบแน่นระหว่างประชาชน

เป้าหมายของไทยครอบคลุมการขยายความร่วมมือด้านการขนส่งอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งรถบัส รถบรรทุก และรถไฟที่ล้วนใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อการพัฒนา “ท่าเรือสีเขียว” ที่ดำเนินงานด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และคาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดจากจีนจำนวนมาก

จุฬาหวังว่าไทยจะกลายเป็นพื้นที่ที่สามารถแปรเปลี่ยน “เทคโนโลยีจากการวิจัย” สู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์สำหรับตลาดโลก โดยมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามูลค่ามหาศาลของจีนเป็นตัวช่วยสำคัญ

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้หญิงเดินชมรถยนต์ของบีวายดี รุ่นซีล 5 ที่ผลิตในจังหวัดระยอง วันที่ 7 ก.ค. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : พนักงานทำงานที่โรงงานยานยนต์ไฟฟ้าของจีเอซี ไอออน ผู้ผลิตรถยนต์ของจีน ในจังหวัดระยอง วันที่ 17 ก.ค. 2024)
(แฟ้มภาพซินหัว : พนักงานทำงานที่โรงงานผลิตของเกรตวอลล์ มอเตอร์ ที่จังหวัดระยอง วันที่ 12 ม.ค. 2024)
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...