คณะกรรมการวัคซีนสหรัฐ ยกเลิกคำแนะนำฉีดวัคซีน “ไวรัสตับอักเสบบี” ให้ทารก
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวเพื่อยุติคำแนะนำที่มีมานานหลายสิบปี ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายวัคซีนครั้งล่าสุดของคณะกรรมการวัคซีนสหรัฐชุดนี้ นับตั้งแต่เคนเนดี ดำเนินการปฏิรูปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐ แนะนำให้ทารกทุกคน รวมถึงทารกที่เกิดจากมารดาที่เชื่อว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ควรได้รับวัคซีนเข็มแรกจากทั้งหมด 3 เข็ม หลังการคลอดทันที โดยมีจุดประสงค์ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากมารดา และกำจัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อคนหนุ่มสาวในประเทศ
ทว่าหลังจากเลื่อนการลงมติออกไป 1 วัน คณะกรรมการวัคซีนสหรัฐ ก็ผ่านคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับ “การตัดสินใจรายบุคคล” ในการปรึกษากับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ เมื่อทารกเกิดจากมารดาที่มีผลตรวจโรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นลบ โดยให้เหตุผลว่า การตัดสินใจฉีดวัคซีนให้ทารกแรกเกิด ควรพิจารณาถึงประโยชน์ของวัคซีน ความเสี่ยงของวัคซีน และความเสี่ยงของการติดเชื้อ
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังลงมติแนะนำให้ทารกที่ไม่ได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด รออย่างน้อย 2 เดือน เพื่อฉีดวัคซีนเข็มแรก และควรตรวจเลือดเพื่อวัดระดับแอนติบอดี ก่อนฉีดวัคซีนเข็มที่สอง
แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยกย่องความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็น “การตัดสินใจที่ดีมาก” แต่คำแนะนำใหม่ถูกประณามโดยกลุ่มการแพทย์หลายกลุ่มในทันที ซึ่งพวกเขาชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องอย่างกว้างขวาง ในการตรวจคัดกรองสุขภาพมารดาในสหรัฐ รวมถึงความเป็นไปได้ของการติดเชื้อจากผู้อื่น
“คำแนะนำที่ขาดความรับผิดชอบ และจงใจสร้างความเข้าใจผิดนี้ จะนำไปสู่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มทารกและเด็ก” นางซูซาน เจ. เครสส์ลี ประธานสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (เอเอพี) กล่าวในแถลงการณ์.
เครดิตภาพ : REUTERS