โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“เอกนิติ” ดัน TISA-เว้นภาษีปันผลเข้า ครม. อังคารนี้ จัดหนักลดหย่อนสูงสุด 8 แสนบาท

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ธ.ค.68) กระทรวงการคลัง จะมีการนำเสนอมาตรการส่งเสริมการออมของประเทศในระยะยาว (ภายใต้นโยบาย Quick Big Win เสา ที่ 5) เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เพื่อให้พิจารณาเห็นชอบ ก่อนที่จะมีการนำเสนอต่อคณะ รัฐมนตรี(ครม.) เพื่อเห็นชอบอีกครั้งในวันอังคารที่ (9 ธ.ค.68) เพื่อพิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมการออมในระยะยาวดังกล่าว จะมีการแบ่งออกเป็น 3 มาตรการย่อย โดยหนึ่งในนั้นเป็นมาตรการลดหย่อนทางภาษี เป็นการส่งเสริมการออมเงินระยะยาวและกระตุ้นตลาดหุ้นไทย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ,กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่ง ยืน(TESG)และกองทุนเพื่อการออมระยะยาว(SSF) สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อยภาษีได้ไม่เกินปีละ 800,000 บาท

ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข คือ เปิดบัญชีเพื่อการลงทุน (Thailand Individual Savings Account) หรือ TISA กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.)หรือธนาคารพาณิชย์ 1 บัญชี โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นกู้ และหน่วยลงทุนของกองทุนรวม โดยจะมีการกำหนดสัดส่วนที่อนุญาตให้ลงทุนในกองทุนสินทรัพย์ต่างประเทศในภายหลัง

โดยผู้ที่มีรายได้ไม่เกินปีละ 1.5 ล้านบาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 1.3 เท่า ของค่าใช้จ่ายจากการซื้อหน่วยลงทุน แต่หักได้ไม่เกินปีละ 800,000 บาท ส่วนผู้มีรายได้เกินปีละ 1.5 ล้านบาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 0.7 เท่า ของค่าใช้จ่ายจากการซื้อหน่วยลงทุน แต่หักได้ไม่เกินปีละ 800,000 บาท กรณีมีการจ่ายเงินปันผลหรือจ่ายดอกเบี้ย วงเงิน 200,000 บาทแรก จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%
ทั้งนี้จะต้องถือครองหน่วยลงทุนจนกว่าจะครบอายุ 55 ปี(บริบูรณ์)ถึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ แต่หากอา ยุเกิน 55 ปี จะต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี ถึงจะขายคืนได้ ยกเว้นกรณีผู้ถือหน่วยลงทุนเจ็บป่วย หรือ ประสบภัยพิบัติต่างๆอาทิ กรณีน้ำท่วมฯลฯ สามารถขายได้ไม่เกิน 25% ของพอร์ตลงทุน หรือสามารถนำหน่วยลงทุนมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารพาณิชย์ได้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.69 เป็นต้นไป

“วันนี้เราให้คนลงทุนเองได้ และขยายลดหย่อนไปถึง 8 แสนบาท โดยไม่ต้องมาต่ออายุ ให้ลงทุนถึงอายุ 55 ปีเลย ส่วนใครอายุมากกว่านั้นก็กำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 5 ปี ใครมีรายได้น้อยหน่อยก็ลดได้ 1.3 เท่า ลงทุนแสนหนึ่งได้ลดแสนสาม ส่วนใครมีเงิน 1.5 ล้านก็ลดได้ 0.7 เท่า ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนเข้ามาลงทุนมากขึ้น”แหล่งข่าวกล่าว

พร้อมกันนี้มีการเพิ่มสิทธิ ESG โดยการปรับเพิ่มอัตราหักลดหย่อนภาษีเป็น 1.2 เท่า สำหรับผู้ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ Thai ESG Fund (TESG)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...