‘ไอติม’ จวกงบปี 69 รัฐบาลจัดสรรงบฯ ไม่รอบคอบ เตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
The Bangkok Insight
อัพเดต 13 ส.ค. เวลา 06.58 น. • เผยแพร่ 13 ส.ค. เวลา 06.57 น. • The Bangkok Insight"ไอติม" จวกงบปี 69 รัฐบาลจัดสรรงบฯ ไม่รอบคอบ "จวกระบบราชการ "3 ซ้ำซ้อน" เตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจไม่เพียงพอ
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระ 2 - 3 ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ เป็นวันแรก
โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.ฯ สงวนความเห็น อภิปรายในมาตรา 4 งบฯ ภาพรวม ว่า ตนเข้าใจดีว่ารัฐบาลเริ่มจัดสรรงบประมาณปี 69 ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดวิกฤตภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ แต่ที่ไม่สามารถเข้าใจได้
คือการที่ กมธ.ฯ มีเสียงข้างมากจากรัฐบาลได้ทำน้อยเกินไป ในการจัดลำดับความสำคัญงบประมาณปี 69 เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจที่จะตามมาจากทั้งข้อตกลงกับสหรัฐฯ และจากระเบียบโลกที่มีความไม่แน่นอน แล้วจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อปากท้องของประชาชนในทุกภาคส่วน หากเทียบเมื่อ 5 ปีที่แล้ว กมธ.ฯ ในปี 64 ได้มีการจัดงบใหม่ไปประมาณ 3.1 หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อเตรียมต่อกรกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโควิด แต่ในปี 69 กมธ.ฯ มีการจัดงบใหม่เพียง 8 พันกว่าล้านบาท เพื่อต่อกรกับวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากกรณีภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ซึ่งสิ่งที่ประเทศเราขาดมากที่สุดคือประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณอย่างตรงจุดและคุ้มค่า ไม่ว่าจะเปิดไปในงบของกระทรวงไหนก็สามารถพบบางส่วนที่ปรับลดได้เพื่อไปโยกแก้ปัญหาให้กับประชาชน
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องความซ้ำซ้อนในการจัดทำงบประมาณ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ 1.แยกกันทำ หมายถึงความซ้ำซ้อนในระดับโครงการคือการที่มีโครงการที่อาจจะเป็นประโยชน์และคาบเกี่ยวกับภารกิจของหลายหน่วยงาน แต่หน่วยงานต่างเลือกที่จะต่างคนต่างทำมากกว่าการร่วมกันทำ 2.แย่งกันทำ หรือความซ้ำซ้อนในระดับของภารกิจ คือการที่หลายหน่วยงานอาจจะมีการขีดเส้นและจัดวางภารกิจที่แตกต่างกัน ไม่ซ้ำซ้อนกันอย่างชัดเจนแต่ในทางปฏิบัติเราเห็นว่ามีหลายหน่วยงานขยายภารกิจของตัวเองที่เสี่ยงจะไปซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่น และ 3.ย้ายออกไปทำ หรือความซ้ำซ้อนในระดับหน่วยงาน คือการที่มีหลายหน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นมาด้วยภารกิจที่เสี่ยงจะซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า การพิจารณาควบรวมหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งต้องศึกษากันอย่างละเอียดรอบคอบ เข้าใจว่าการควบรวมหน่วยงานแล้ว ไม่ได้หมายความว่า จำนวนงานและจำนวนคนจะลดลงเสมอไป แต่ตนเชื่อว่าหากเรามีการศึกษาและพิจารณาควบรวมหน่วยงานที่มีภารกิจที่เสี่ยงจะซ้ำซ้อนกันอย่างจริงจัง จะทำให้โครงการและกิจกรรมของรัฐนั้นมีความสะเปะสะปะน้อยลง และก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรมากขึ้น เราจะทำให้หน่วยงานของรัฐผลิตแผนขึ้นหิ้งน้อยลง และทำงานในทิศทางเดียวกันมากขึ้น
"หากเราไม่เริ่มต้นมาปรับปรุงเรื่องการจัดทำงบประมาณโดยการลดความซับซ้อนที่แทรกอยู่ในทุกระดับของระบบราชการ ประเทศเราเสี่ยงจะไม่เหลืองบประมาณเพียงพอในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชน และเสี่ยงจะไม่มีความคล่องตัวมากพอในการรับมือกับวิกฤตและปัญหาใหม่ที่ถาถมเข้ามา" นายพริษฐ์ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'ไอติม' ขอบคุณ 'ภูมิใจไทย' ฝ่ายค้านน้องใหม่ เสนอซักฟอก
- นัดล่ม ‘พิเชษฐ์’ ยกเลิกเดินทัวร์สภาฯ กับ ‘ไอติม’ ยินดีให้ตรวจสอบ
- ไอติม-พริษฐ์ โต้เดือดประธานสภาฯ ลั่นไม่จำเป็นต้องนำชื่อ 'ทักษิณ' ออกจากศึกซักฟอก
ติดตามเราได้ที่