โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

'กมธ.สวล.' จ่อสืบผลกระทบปลาหมอคางดำ เอาผิด จนท.ละเว้นม.157

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ที่รัฐสภา ในการประชุมของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ซึ่งมีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว. เป็นประธานกมธ. ได้พิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ โดยเชิญผู้แทนจากอธิบดีกรมประมง และตัวแทนเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ 19 จังหวัดเข้าร่วมชี้แจงให้ข้อมูล

โดย น.ส.ทิวารัตน์ เถลิงเกียรติลีลา ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านการประมงน้ำจืด ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพบการระบาดของปลาหมอคางดำใน 18 จังหวัด โดยมี ปริมาณความชุกชุมมากสุด เฉลี่ย 34 ตัวต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร ตามขอบเขตแนวกันชนขอพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.จันทบุรี-ตราดและ จ.สงขลา-ปัตตานี โดยเมื่อเดือนต.ค. 2568 พบมีการแพร่กระจายของปลาหมอคางนำในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตราด อ.สทิงพระ และ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเกิดจากคลื่นลมบริเวณชายฝั่งที่มีกำลังแรงพัดพาปลาหมอคางดำเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว

น.ส.ทิวารัตน์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ 2 ก.พ. ถึง 25 พ.ย. 2568 กรมประมง ได้ร่วมกับ ภาครัฐและเอกชนกำจัดปลาหมอคางดำ รวมทั้งสิ้น 7.4ล้านกิโลกรัม โดยจัดโครงการรับซื้อปลาหมอคางดำนำไปผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง รวมทั้งสิ้น 1.1ล้านกิโลกรัม นอกจากนี้ยังประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนนำส่งปลาหมอคางดำไปผลิตปลาป่นโดยเอกชนรับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาท รวม ทั้งสิ้น 1.4 แสนกิโลกรัม

ด้านนายปัญญา โตกทอง ตัวแทนเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยการรับซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาท อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปทำปลาป่น ปลาร้าและปุ๋ย อีกทั้งจะต้องเร่งกำจัดปลาคางดำอย่างจริงจัง เป็นระบบไม่ใช่จับไปปล่อยไป เพราะปัจจุบันพบว่ายิ่งแก้ปัญหายิ่งมีแต่ปัญหา ตนมองว่าหากทำอย่างจริงจังเช่น ใส่งบประมาณลงมาเหมือนกับที่รัฐให้งบกำจัดผักตบชวา กว่าพันล้านบาท แต่ปลาหมอคางดำใช้งบกำจัดไม่กี่ร้อยล้านบาท นอกจากนี้เกษตรกรยังจะได้รับประโยชน์ จากการที่รัฐรับซื้อซึ่งจะดีกว่านำงบไปลงคลองกำจัดปลาหมอคางดำครั้งละ 2 - 3 หมื่นบาท แต่ได้ปลาไม่กี่กิโลกรัม

นายปัญญา กล่าวต่อว่านอกจากนั้นแล้วต้องเอาผิดกับผู้นำเข้าและอนุญาตให้นำเข้าปลาหมอคางดำ จึงอยากให้ทางคณะกรรมการผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง เพื่อไม่ให้ผู้นำเข้า และนายทุนคนอื่นๆลอยตัว

ด้านนายชีวะภาพ กล่าวว่า กมธ.ไม่มีหน้าที่ฟ้องร้องใคร แต่ยืนยันว่าไม่ได้สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่สนใจว่าใหญ่เบอร์ไหน แต่ต้องมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน โดยกมธ.จะเชิญนักวิชาการ และ ผู้เชี่ยว ชาญด้านสิ่งแวดล้อม จากสถานบันการศึกษาต่างๆ มาร่วมสำรวจ วิจัย ผลกระทบว่ามีความเสียหายมากน้อยขนาดไหน เพื่อให้เป็นเครื่องมือฟ้องร้องและต่อสู้คดีในชั้นศาล ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม

"กรณีนี้อาจจะเป็นตัวเปิดเกมนำไปสู่การดำเนินคดี 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่เกือบ 10 กว่าปีก่อน ส่วนการกำจัดปลาหมอคางดำ โดยการช็อตด้วยไฟฟ้าก็จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ แต่ต้องศึกษาผลกระทบทั้งในแง่กฎหมายและสิ่งแวดล้อมอย่างถี่ถ้วน" นายชีวะภาพ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...