THAI พร้อมเทรด เงินสดในมือแน่น
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 01 ส.ค. เวลา 17.53 น. • เผยแพร่ 03 ส.ค. เวลา 12.00 น. • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - THAI โชว์ผลสำเร็จแผนฟื้นฟูกิจการ ลดหนี้กว่า 94,000 ล้านบาท ฐานะการเงินกลับมาแข็งแกร่ง กำไรสุทธิปี 2567 กว่า 41,500 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายฝูงบินจาก 78 ลำเป็น 150 ลำภายในปี 2576 จากไตรมาส 1/2568 ที่ 78 ลำ และดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 35% ภายในปี 2572 ด้านโบรกฯ มองหุ้นกลับมาเทรดวันแรกมีโอกาสพุ่ง เหมาะถือยาว
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึง การฟื้นฟูกิจการที่ผ่านมา จะมี 4 เรื่องที่ต้องดำเนินการ คือ 1)การจดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างทุน 2) การดำเนินการตามแผนฟื้นฟู โดยไม่เกิดเหตุผิดนัด 3) การมี EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินตามงบเฉพาะกิจการย้อนหลัง 12 เดือนประมาณ 40,308 ล้านบาท (เดือน เมษายน ปี 2567 ถึง มีนาคม ปี 2568) ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ และมีส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ เป็นบวกจากการปรับโครงสร้างทุน 4) ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568
ขณะที่ฐานการเงินของบริษัท รายได้ปี 2024 อยู่ที่ 183,112 ล้านบาท สูงกว่าปี 2019 1% มีรายได้ 181,000 ล้านบาท ดังนั้นรายได้ปีที่ผ่านมาสูงกว่าปีก่อนโควิดแล้ว แต่ในด้านกำลังการผลิตต่ำกว่าปี โควิดกว่า 28% ทำให้ความสามารถในการหารายได้ดีขึ้นมาก อีกทั้งในด้านความสามารถในการทำกำไร เมื่อสิ้นปีก่อนมีกำไรที่ 41,515 ล้านบาท หรือ 22.1% ซึ่งสูงกว่า ปี 2019 ที่ติดลบ 8,179 ล้านบาท หรือ 4.4%
นอกจากนี้ยังมีการแปลงหนี้เป็นทุน 53,453 ล้านบาท และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม พนักงาน นักลงทุนในวงจำกัด 22,987 ล้านบาท รวม 76,440 ล้านบาทส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวกที่ 55,439 ล้านบาท ณ ไตรมาส 1 ปี 2568 และในด้านการปรับโครงสร้างทุนส่งผลให้ IBD/E ลดลงเหลือ 2.2 เท่าในไตรมาส 1 ปี 2025 จาก IBD/E ที่ 12.5 เท่า ในปี 2562 ถือว่าลดลงเยอะมาก
ขณะที่ฐานะทางการเงินของการบินไทยค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ มีเงินสดกว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับ IBD กว่า 120,000 ล้านบาทในไตรมาส 1/2568 ซึ่งบริษัทที่เข้าแผนฟื้นฟูส่วนใหญ่จะมีการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้น หรือการการเคลียร์หนี้แบบ haircut แต่บริษัทไม่มีการ การเคลียร์หนี้แบบ haircut เงินต้น แต่แค่ยืดระยะเวลาออกไป ไม่มีการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิม นั่นคือความแตกต่าง กำไรของบริษัทก็มาจากการดำเนินธุรกิจจริงไม่ได้มาจากการขายทรัยพ์
สำหรับภาระหนี้สิน การบินไทยมีภาระหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้ ประมาณ 189,578 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ทยอยชำระหนี้จนถึงไตรมาส 1 ของปี 2568 บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 94,080 ล้านบาทมูลหนี้คงเหลือที่ยังต้องชำระจนถึงปี 2579 ประมาณ 95,498 ล้านบาท
หลังจากเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้ดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเครื่องบินซึ่งเป็นทรัพย์สินหลัก เครื่องบินที่ไม่มีประสิทธิภาพได้ยกเลิกสัญญาเช่าออก พร้อมทั้งเจรจาลดค่าเช่าเฉลี่ยลงกว่า 50% นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับโครงสร้างและขนาดองค์กรให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานต่อคนเพิ่มขึ้น 18% ขณะที่ค่าใช้จ่ายพนักงานลดลงจาก 23% เหลือไม่เกิน 13% ของรายได้
ในด้านกลยุทธ์การขาย THAI ได้ขยายเครือข่ายการบิน (Network) จากเดิมที่เน้นผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย เป็นการเพิ่มเส้นทางต่อเครื่องไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้จากผู้โดยสารหลากหลายกลุ่มมากขึ้น แทนการพึ่งพาเพียงรูปแบบ Point-to-Point
อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องที่ผลักดันการเติบโตหลังจากควบรวมกิจการกับ ไทยสมายล์แอร์เวย์ เสร็จสิ้นเรียบร้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเสริมความแข็งแกร่งองค์กรสิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทมีฝูงบินจำนวน 78 ลำ และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 150 ลำภายในปี 2576 พร้อมปรับลดแบบเครื่องบินจาก 8 แบบเหลือเพียง 4 แบบ เพื่อลดความซับซ้อนและต้นทุนการดำเนินงาน ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 26% ในปัจจุบันเป็น 35% ภายในปี 2572 โดยได้ดำเนินการสั่งซื้อเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ในระยะ 3–5 ปีข้างหน้า บริษัทเชื่อว่าฐานธุรกิจภายในมีความแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้ THAI เป็นสายการบินชั้นนำที่สามารถสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงหรือดีกว่าอุตสาหกรรม โดยใช้จุดแข็งของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาค
นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัท ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจการบินปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังผ่านวิกฤตโควิด-19 โดยผลประกอบการทั้งสายการบินในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยบวกหนุนให้อุตสาหกรรมการบินกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
ทั้งนี้ จีนมีแนวโน้มกลับมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการด้านภาษีชัดเจนขึ้น ส่วนการแข่งขันในอุตสาหกรรมถือว่าเป็นไปตามปกติ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามปริมาณซัพพลายเครื่องบิน เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาตั๋วเครื่องบิน สำหรับการบินไทย นายมงคลมองว่าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างมาก ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้น และมีแผนขยายฝูงบินต่อเนื่องจากความสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการ ทำให้แนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น
“โดยปกติหุ้นที่กลับมาเทรดวันแรกมักจะเห็นราคาปรับขึ้นแรง หากราคาเปิดเกิน 3–4 บาท มองว่าระดับนี้ยังถือว่าต่ำ และเหมาะสำหรับการถือระยะยาวมากกว่า” นายมงคลกล่าว
รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision