นิวจิ๋ว กับการโดนตราหน้าว่า “ขุ่นแม่”
ถ้าพูดถึงชื่อศิลปินดูโอ้ขึ้นมาสักคู่หนึ่ง “นิว-จิ๋ว” จะต้องอยู่ในลิสต์ที่หลายๆ คนเอ่ยขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน ด้วยความที่เคมีทั้งคู่เข้ากันอย่างน่าประหลาดราวกับเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ติดตามบทสัมภาษณ์ระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งด้านการงานและฐานะความเป็น “แม่” ของลูกสาวอีกหลายๆ คนในประเทศไปพร้อมๆกัน
ทั้งสองคนทำงานด้วยกันมาก็นาน เพราะฉะนั้นอะไรคือสิ่งสำคัญในฐานะนักร้องดูโอ้ที่เรามีให้แก่กัน
นิว : ถ้าพูดถึงการทำงาน อย่างแรกคือคุณภาพของเสียง คือเราจะพังคนเดียวก็พังได้ แต่อันนี้เราเป็นนักร้องดูโอ้ เราต้องดูแลตัวเราเองให้ดีให้สามารถรับงานได้ สามารถร้องเพลงยากๆ ได้ ยังสามารถเปลี่ยนความเป็นนิวจิ๋วแบบเดิมๆ ไปอีกหลากหลายรูปแบบได้ อีกอย่างคือความยังมีใจที่ยังอยากไปทำงาน อยากเจอเพื่อน ความเป็นทีมเวิร์ค นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นนักร้องและการเป็นดูโอ้ค่ะ
จิ๋ว : จิ๋วว่ามันคือสิ่งที่เราแคร์ในอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่แคร์นะ ต้องแชร์ด้วย ทุกอย่างมันต้องไปในมุมที่มันราบรื่นที่สุด ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ถ้าเราเอาแต่ตัวเองเป็นหลักจะทำงานยาก แล้วเราก็จะมองไม่เห็นกันและกันสักที เพราะเราจะรู้สึกว่าทำไมไม่ฟังเรา หรือว่าทำไมคิดแบบนี้ แต่พอเราแคร์มันก็จะง่ายในการคุย แต่เราจะไม่ให้เกรงใจกันนะ ไม่งั้นเราก็จะไม่ได้งานสักที
การเป็นนักร้องดูโอ้กันมาตลอด มันทำให้เรามีสายสัมพันธ์บางอย่างที่เชื่อมถึงกันไหม เหมือนพี่สาวกับน้องสาวฝาแฝด
นิว : ในส่วนตัวทางจิ๋วนี่ไม่ค่อย เพราะเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง แต่ว่าจริงๆ เราห่วงนะ คือ เขาเป็นคนเก่ง ถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนคือเป็นพวกผู้บังคับบัญชา ไว้คอยเคาะคอยตัดสินใจไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เรื่องใดๆ ก็จะผ่านจิ๋ว “จิ๋วว่าไง” จริงๆ เขาเป็นคนประมาณนี้ แต่! ถ้าเป็นเรื่องของเขาเองเขาจะมีเซฟโซนจะไม่ตัดสินใจฉับพลัน จะคอยดูแลเพื่อนก่อน ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ นิวอยากให้จิ๋วเด็ดขาดกับตัวเอง อยากให้ลุยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
จิ๋ว : คือเราจะเป็นประเภทไม่ต้องห่วง จิ๋วลุยได้หมด ไม่ว่าวันยากๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ไม่ต้องกังวลเลย ฉันสามารถ แต่ความรู้สึกที่เรามีกับนิวคือเราจะพร้อมซัพพอร์ทมากกว่า คือแค่มองตาก็รู้ใจ เห็นก็รู้ละว่ารู้สึกอะไรอยู่ บางทีแค่ยกหูโทรมาเราก็รู้เลยว่าอยากปลดปล่อยความรู้สึกแน่ๆ มันก็จะมีเรื่องพวกนี้ทั้งด้านการทำงาน เรื่องชีวิตประจำวัน บางทีไม่ต้องอธิบายอะไร แค่มองก็รับรู้ได้
“นิว-จิ๋ว” เป็นไอดอลอะไรให้กันและกันบ้าง
นิว : นิวเห็นจิ๋วเป็นไอดอลเรื่องเสียงร้องค่ะ เพราะเขาเป็นคนของเยอะมาก เขาฝึกเยอะ ฟังเยอะ พอคนเราไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือการเรียน ถ้าเราฝึกฝนเราก็จะเก่งเอง อย่างจิ๋วเขาฟังเยอะ เราก็เคยสัมภาษณ์เขานะว่า “คุณจิ๋วคะ คุณมาอยู่จุดนี้ได้ยังไง” จิ๋วก็ตอบว่า “อ๋อ เพราะพี่สาวเปิดเพลงให้ฟัง สมัยก่อนเปิด วิทนีย์ ฮูสตัน” แล้วเราฟังอะไร “จรัญ มโนเพชร” ลูกทุ่งอ่ะ ฟังอยู่บ้าน ตั้งแต่เด็กที่เจอกันตอนประกวดก็เห็นแล้วว่าเขาร้องเก่ง ก็เลยอยากเป็นเพื่อน อยากรู้จัก ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ (หัวเราะ) สรุปคือเห็นเขาเป็นตัวอย่างในการร้องเพลงแหละ อันดับหนึ่งอยู่ละเรื่องนี้ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ส่วนตัวก็คิดว่าถ้าเราฝึกเยอะๆ เราก็เก่งไปตามเขาได้
จิ๋ว : หูย…เกินไป
นิว : บางทีเขาก็จะแบบ “โน้ตนี้เพี้ยนนะ” เนี่ย มีแบบนี้จะดี เพราะถ้าเขาไม่ได้สนใจเราเขาคงปล่อยผ่านไปแล้ว
จิ๋ว : นิวเขาเป็นไอดอลในด้านการตั้งใจทำอะไรสักอย่าง เพราะว่าจิ๋วเห็นตั้งแต่เรายังไม่ได้ทำอะไรกันจริงจัง จนมาตอนนี้เราได้เห็นหลายๆ อย่างในชีวิตนิวที่มันยากเพราะต้องใช้ความตั้งใจที่จะทำมากถ้าเป็นเรา เราคงไม่ทำแล้ว แต่กลับกันเขาจะลุย จะสนุกกับการทำอะไรใหม่ๆ ถ้าคนอื่นมองเข้ามาจะเห็นว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจในการทำอะไรอยู่เสมอ โลกนิวคือสิ่งสวยงามเวลาได้ทำอะไรใหม่ๆพอได้ทำจริงเขาก็ได้อะไรจากสิ่งที่เขาทำกลับมา แล้วเราก็เห็นถึงความตั้งใจของเขามาตลอด
ถึงวันนี้รู้สึกยังไงบ้างกับการที่เราได้เป็นขวัญใจเพศที่สามไปแล้ว
นิว : รู้สึกดีมากเลย รู้สึกมาตั้งแต่ตอนออกอัลบั้มแรกที่ตอนนั้นแฟนคลับยังไม่ค่อยมี ตอนนั้นคือมีปาล์มมี่ มีมาช่า เราไม่ได้สวย สูง ดูอินเตอร์แบบนั้นไง ในยุคนั้นก็จะมีคนที่เป็นแฟนคลับตามไปดูศิลปินต่างๆ ทุกงานก็จะเป็นผู้หญิง แต่ของเราก็จะเริ่มมีผู้ชายมาตาม เราก็ เอ๊ะ…ผู้ชายฟังเพลงเราด้วย พออยู่ไปนานๆ ก็ อ๋อ…ลูกสาว
จิ๋ว : มาเจอกันจริงๆ น่าจะเป็นอัลบั้ม “Next Step” นะ ที่เริ่มเห็นว่ามีแฟนเพลงกลุ่มนี้ จริงๆ รู้สึกดีนะคะ มันเหมือนกับว่าเขาก็ชัดเจนในสไตล์ที่เขาชอบ แล้วเรามีจริตจะก้าน ใช้ภาษาที่ถูกจริตถูกรสนิยมเขา เรารู้สึกดีนะ คนรอบข้างจิ๋วก็จะเป็นอารมณ์นี้ มันเลยไม่ยากที่เราจะไปด้วยกันเพราะเราคุ้นเคย ทุกวันนี้คนก็ดูสนุกที่ได้เห็น นิวจิ๋วเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ เขาอินกับเรา เราก็รู้สึกว่าเรามีพลังงานเต็มร้อยแฟนคลับกลุ่มนี้ก็จะคอยซัพพอร์ทเสมอ ลุยเลยค่ะ เดี๋ยวก็อปปี้คุณแม่ค่ะ
นิว : คนที่ปั้นเราแต่ละงานก็เป็นแนวนี้หมด เรียกได้ว่าเราประสบความสำเร็จก็ด้วยพี่ๆ สไตล์นี้ทุกคนเลย
อยากฝากอะไรให้กับพวกเขาบ้าง รวมถึงลูกสาวที่ตามเราอยู่
นิว : เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ก็มีคนที่ทั้งกล้าแสดงออกและไม่กล้า ถ้ากล้าในเรื่องที่ดีเราก็ยินดีด้วย แล้วก็อยากจะให้ทุกคนก้าวออกมา ไม่ต้องอายว่าเราเป็นอะไร อยากให้ลองถามตัวเองแล้วค้นหาในสิ่งที่ตัวเองโดดเด่นที่สุด แล้วทำมันเพราะมันอาจจะออกมาดีมากเลยด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เราก็เห็นหลายคนในแนวนี้แล้ว เก่งมากๆ
จิ๋ว : บ่มเพาะตัวเองให้เรามีสกิลที่ดีที่เด่น เพราะเราเห็นแต่ละคนและเชื่อว่าทุกคนมีความคมคายในการใช้ชีวิตอยู่แล้ว เราไม่ห่วง เราพร้อมเอ็นจอยและแตะมือกับทุกคนเวลาที่เขาเจอคาแรคเตอร์ตัวเองเป็นสิ่งที่ตัวเองเป็น ขอให้คุณเริ่ด เพอร์เฟ็กต์และสง่างามในการใช้ชีวิตค่ะ
พูดถึงฐานะการเป็นตัวแม่ของชาว LGBT แล้ว ก็อย่าลืมติดตาม MV ใหม่ล่าสุดของ “นิว-จิ๋ว” ในเพลง “Tonight” เพลงที่จะปลุกตัวตนข้างในของเราให้ส่องประกายเฉิดฉายออกมาข้างนอก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองและมีความสุขไปกับมัน เชิญชมได้ที่ https://youtu.be/RfVPMChp8GE
ความเห็น 45
รถติดจัง
18 พ.ค. 2561 เวลา 10.18 น.
กลัวจะไม่มีใครเข้ามาอ่านรึไง พาดหัวข่าวซะเว่อ
18 พ.ค. 2561 เวลา 05.28 น.
Piak....
ใช้คำให้ถูกกับเนื้อหาจะดีกว่านี้ครับ เห็นหลายครั้งมากกับข่าวในไลน์ การใช้คำที่ถูกต้อง ก็ทำให้ข่าวน่าสนใจได้เช่นกัน
18 พ.ค. 2561 เวลา 04.41 น.
Punnee kaha 59
นิว จิ๋ว เยี่ยมมากค่ะ
18 พ.ค. 2561 เวลา 04.35 น.
MY WAY
แต่งตัวผมเหมึอนตัวอะไร ร้องเพลงก็จีบปากจีบคอ
ใครเรียกสรรพนาม กาก แก่แล้วยิ่งแต่งตัวเหมีอนบ้า
18 พ.ค. 2561 เวลา 04.21 น.
ดูทั้งหมด