คุนหมิง, 20 ก.พ. (ซินหัว) -- ซุนเสี่ยวกั่ว นักโทษผู้อื้อฉาวจากกรณีก่ออาชญากรรมต่อเนื่องในจีน ถูกประหารชีวิตแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลประชาชนสูงสุดอนุมัติโทษประหารชีวิตซุนเสี่ยวกั่ว โดยศาลประชาชนระดับกลางนครคุนหมิงระบุว่าได้ทำการประหารชีวิตภายหลังขั้นตอนการพบญาติ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2019 ศาลประชาชนชั้นสูงมณฑลอวิ๋นหนาน ตัดสินโทษประหารชีวิตซุนเสี่ยวกั่ว กรณีก่ออาชญากรรมต่อเนื่อง พร้อมเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองและสั่งยึดทรัพย์ทั้งหมด หลังเสร็จสิ้นการรื้อฟื้นคดีของเขา อันประกอบด้วยฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเรา หยามหมิ่นสตรีโดยใช้กำลัง ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา และก่อความไม่สงบ ซึ่งซุนก่อขึ้นเมื่อปี 1997
คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2019 ยืนโทษประหารชีวิตเช่นเดียวกับที่เคยตัดสินโทษในการดำเนินคดีครั้งที่ 1 เมื่อปี 1998 ในอาชญากรรมเดียวกัน
ทั้งนี้ ศาลฯ ระบุว่าเมื่อปี 1997 ซุนก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 14 ปี และต่อมาในปีเดียวกัน เขาและบรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดได้ใช้กำลังประทุษร้ายและดูหมิ่นเด็กหญิงอายุ 17 ปี 2 คน ในที่ประชุมชน
จากอาชญากรรมดังกล่าว แม้ศาลจะตัดสินประหารชีวิตไปเมื่อปี 1998 แต่จากการรื้อคดีเมื่อปี 2007 ศาลจึงตัดสินให้เหลือเพียงโทษจำคุก 20 ปี ทั้งยังมีการลดโทษตามขั้นตอน จนเหลือเพียง 12 ปี 5 เดือน จนทำให้เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อปี 2010
ต่อมาในเดือนกรกฎาคมปี 2019 ศาลมีมติตัดสินว่าคำพิพากษาจากการรื้อคดีเมื่อปี 2007 นั้นผิดพลาด เนื่องจากซุนได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ตุลาการ และจะต้องมีการพิจารณาคดีใหม่
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในปี 2019 ศาลพิจารณาคดีอีกคดีหนึ่งของซุนแยกต่างหากจากคดีปี 1998 โดยเป็นคดีก่ออาชญากรรมหลายอย่าง อาทิ จัดตั้งและเป็นผู้นำองค์การลักษณะคล้ายมาเฟียระหว่างปี 2013-2018 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ซุนพ้นโทษออกมาแล้ว โดยศาลตัดสินให้ซุนต้องโทษจำคุก 25 ปี
การกระทำอันเป็นมาเฟียดังกล่าวมีทั้งการเปิดบ่อนพนัน ก่อความปั่นป่วนวุ่นวาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา ซ่องสุมกันก่อเหตุปะทะ ขัดขวางพยานมิให้แสดงหลักฐาน ทั้งยังติดสินบนพยาน และก่อเหตุอันมิชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ
ศาลฯ ระบุว่าเนื่องจากคำพิพากษาก่อนหน้าได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยโทษประหารชีวิตตามคำพิพากษาดังกล่าวจะบังคับใช้รวมกับโทษจำคุก 25 ปี ตามคำพิพากษาที่ตัดสินเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. จึงทำให้ซุนต้องโทษประหารชีวิต ถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง และจะต้องถูกยึดทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด
“ข้อเท็จจริงด้านอาชญากรรมและการทุจริตทางตุลาการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง ซึ่งท้าทายต่อขีดจำกัดของข้อกฎหมายอย่างร้ายแรง” ศาลฯ ระบุในถ้อยแถลง
ศาลฯ ระบุเพิ่มเติมว่าการสอบสวนคดีของซุนและการเปิดโปง “ร่มคุ้มกัน” ที่คอยปกปิดการกระทำผิดของเขา แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญขององค์กรตุลาการในการเผชิญปัญหา ความกล้าในการแก้ไขข้อผิดพลาด และการธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม