รูปนี้ไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์! วิวเมืองเชียงใหม่จากดอยสุเทพ ทั่วทั้งเมืองปกคลุมด้วยฝุ่นพิษ ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ทำสถิติติดอันดับที่ 1 ค่ามลพิษทางอากาศของโลก ในเว็บ iqair.com
.
วันที่ 3 มี.ค. 66 เชียงใหม่และภาคเหนือยังคงเจอกับวิกฤติมลพิษทางอากาศจากฝุ่นควันไฟป่า และการเผาส่งผลให้ค่าฝุ่นพิษ PM2.5 พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ถือว่าเป็นช่วงที่วิกฤติหนักของภาคเหนือ แถมยังมีมวลอากาศเย็นกดทับทำให้หมอกควันสะสมตัวหนาแน่นขึ้นอีก
.
โดยเช้านี้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษเมื่อเลา 9.00 น. พบว่า 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าสู่วิกฤติคุณภาพอากาศทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 206 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 200 AQI ที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 225 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 127 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 237 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด ซึ่งเป็นอำเภอตอนล่างเช้านี้สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 267 AQI
.
ขณะที่ เว็บไซต์ iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก จัดอันดับให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีมลพิษอากาศสูงสุดอยู่ในอันดับที่ 1-3 ตามคุณภาพอากาศแบรายชั่วโมง โดยพบว่าเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(2 มี.ค.) เชียงใหม่ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ของโลกเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงที่สุด และเช้านี้เมื่อเวลา 9.00 น. คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอันดับที่ 3 ของโลกต่อเนื่อง ค่า PM2.5 วัดได้ 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 198 US AQI ส่วนอันดับ 1 ของโลกเช้านี้ เป็นของเมืองธากา ประเทศบังคลาเทศ เนื่อง ค่า PM2.5 วัดได้ 170.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 221 US AQI
.
ขณะเดียวกันเช้านี้ทีมข่าวขึ้นไปสำรวจสภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่ จากจุดชมวิวของดอยสุเทพ ซึ่งปกติจะเป็นจุดที่สามารถชมวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้อย่างสวยงาม และหากสภาพอากาศดีสดใสจะสามารถมองเห็นไปไกลได้หลายอำเภอที่อยู่ถัดออกไป แต่วันนี้พบว่าตัวเมืองเชียงใหม่จมอยู่ใต้หมอกควันสีขาวโพลน จนแทบจะไม่สามารถมองไปเห็นตึกรามบ้านช่อง สบานบินเชียงใหม่ แม่น้ำปิง ที่อยู่ด้านล่างแม้แต่จุดที่เป็นเขตเมืองเก่ารอบคูเมืองก็มองเห็นได้เพียงเลือนลาง จากหมอกควันที่ปกคลุมหนาแน่น
.
อีกทั้งตอนนี้เชียงใหม่ยังมีอากาศที่หนาวเย็น จากมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่เสริมเข้ามาต่อเนื่อง สภาพอากาศเย็นเป็นอุปสรรคสำคัญที่กดทับสภาพหมอกควันให้สะสมตัวในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอ่งกระทะจนไม่สามารถยกตัวลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ ตอนนี้ชาวเชียงใหม่เองต้องรอฝนฟ้าที่จะมาช่วยชะล้างหมอกควันลงมาจากอากาศ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววเพราะยังไม่มีปัจจับทางสภาพอากาศที่จะส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ประชาชนในพื้นที่เองต้องเฝ้าระวังตนเอง และครอบครัว หลีกเลี่ยงการออกมาอยู่นอกอาคารเป็นเวลานาน ต้องหาหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้มาสวมใส่ ส่วนผู้ที่ต้องอยู่ในอาคารเองต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฝอกอากาศกันตลอดทั้งวันทั้งคืนในระยะนี้