โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 168.61 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส

The Bangkok Insight

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight
‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 168.61 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (30 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" เพิ่มขึ้น 168.61 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน แต่ตลาดลดช่วงบวก หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" ยืนยันว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโกในวันเสาร์นี้ (1 ก.พ.)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,882.13 จุด เพิ่มขึ้น 168.61 จุด หรือ +0.38% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 6,071.17 จุด เพิ่มขึ้น 31.86 จุด หรือ +0.53% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 19,681.75 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.25%

ดาวโจนส์
ดาวโจนส์

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.87% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีเอสแอนด์พี 500 หลังจากอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลาให้คำมั่นว่าจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นราคาประหยัด ซึ่งเป็นรถที่ตลาดรอคอยมานาน ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจะเริ่มทดสอบบริการเรียกรถแบบไร้คนขับในเดือนมิถุนายน ข่าวที่ช่วยบดบังปัจจัยลบจากผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ที่ต่ำกว่าคาด

หุ้นเมตา พุ่งขึ้น 1.55% และเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เช่นกัน หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2567 และจำนวนผู้ใช้งานแชตบอต Meta AI รายเดือนทะลุระดับ 700 ล้านราย ขณะที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตาคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ใช้งาน Meta AI จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1 พันล้านรายในปีนี้

นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นจากซีอีโอของเมตา และไมโครซอฟท์ที่ยืนยันว่า จะลงทุนมูลค่ามหาศาลในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยระบุว่าเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้

หลังจากที่ดีปซีค (DeepSeek) ธุรกิจสตาร์ตอัปจากจีนประกาศเปิดตัวโมเดล AI ต้นทุนต่ำ ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ และส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ถูกเทขายออกมาอย่างหนักในวันจันทร์ (27 ม.ค.)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงบวก หลังจากทรัมป์ยืนยันว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตั้งแต่วันเสาร์นี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากร จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นด้วย

นักลงทุนยังซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2567 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1.4%, 3.0% และ 3.1% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ของปี 2567 ตามลำดับ นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 2.8% ในปี 2567 หลังจากมีการขยายตัว 2.9% ในปี 2566

ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่จำนวน 220,000 ราย

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0