เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) 4 ภูมิภาคของยูเครนที่ถูกรัสเซียควบคุมอยู่ ประกอบด้วย ลูฮานสก์และโดเนตสก์ในยูเครนตะวันออก และเคอร์ซอนกับซาโปริซเซียทางใต้ ประกาศเตรียมจัดให้มีการประชามติขอผนวกเป็นส่วนหนึ่งในของรัสเซียโดยด่วน แบบที่เคยทำกับไครเมียเมื่อปี 2014
โดยลูฮานสก์และโดเนตสก์ซึ่งอยู่ในภูมิภาคดอนบาส (ยูเครนตะวันออก) มีแผนจะจัดให้มีการลงประชามติวันที่ 23-27 ก.ย. นี้ ขณะที่เคอร์ซอนกับซาโปริซเซียยังไม่ได้แจ้งว่าจะจัดการลงประชามติเมื่อใด แต่บอกว่า จะจัดการโดยเร็วที่สุด
ก้าวเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ ยูเครนยึดหมู่บ้านในลูฮานสก์คืนจากรัสเซีย
รายงานใหม่จากสหรัฐฯ ชี้ “กองทัพจีน-รัสเซีย” มีจุดอ่อนที่เหมือนกันอยู่
ปูตินไม่ยี่หระปฏิบัติการโต้กลับของยูเครน ยืนยันไม่ปรับแผน
รัสเซียชะลอแผนผนวกเคอร์ซอน หลังยูเครนเร่งยึดพื้นที่คืน
ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย รองหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงของรัสเซีย กล่าวว่า การลงประชามติผนวกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะทำให้เขตแดนที่วาดใหม่นั้น “ไม่สามารถย้อนกลับได้” และทำให้รัสเซียสามารถใช้ “ทุกวิถีทาง” เพื่อปกป้องพวกเขาได้
“หลังการแก้ไขเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญของรัฐเรา จะไม่มีผู้นำในอนาคตคนใดของรัสเซีย ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใด จะสามารถย้อนกลับการตัดสินใจนี้ได้” เขากล่าว
ทุกฝ่ายคาดว่า หากเกิดการลงคะแนนเสียงในดินแดนที่รัสเซียควบคุมอยู่จริง อย่างไรผลที่ออกมาจะเป็นไปตามที่รัสเซียต้องการอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในยูเครน รัสเซียได้ส่งกองทหารไปยังคาบสมุทรไครเมียของยูเครน จากนั้นจึงจัดประชามติแล้วผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของตน
เดนิส ปูชิลิน ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในโดเนตสก์ที่สนับสนุนรัสเซีย กล่าวว่า การลงประชามติจะ “ฟื้นฟูความยุติธรรมทางประวัติศาสตร์” ให้กับ “ผู้คนที่ทนทุกข์ทรมานมายาวนาน” ในดินแดนแห่งนี้
“ประชาชนจะได้รับสิทธิที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่ถือว่ามาตุภูมิของพวกเขาเสมอมา” เขากล่าว
ด้าน วลาดิเมียร์ โรกอฟ เคลื่อนไหวในซาโปริซเซียที่สนับสนุนรัสเซีย กล่าวว่า “ยิ่งเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียได้เร็วเท่าไร สันติภาพก็จะยิ่งเกิดเร็วขึ้นเท่านั้น”
สื่อรัสเซียในซาโปริซเซียรายงานว่า ประชาชนจะสามารถลงคะแนนเสียงได้ด้วยตัวเอง หรือจะลงคะแนเสียงออนไลน์ทางไกลก็ได้
มีการประเมินว่า ที่รัสเซียพยายามจะเร่งการผนวกดินแดนนี้ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจาก “ปฏิบัติโต้กลับ” ของยูเครนที่มีความคืบหน้าอย่างมากในภูมิภาคคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือ
การผนวกดินแดนยูเครนมากขึ้นจะทำให้รัสเซียสามารถอ้างได้ว่า เขตแดนของคนกำลังถูกโจมตีจากอาวุธของนาโต และจะสามารถตอบโต้ได้อย่างเต็มกำลังมากขึ้น ทำให้นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่รัสเซียจะยกระดับสงคราม เพื่อเอาคืนความสำเร็จของยูเครน
ทาเทียนา สตาโนวายา นักวิเคราะห์ชาวรัสเซีย มองว่า การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้เป็นการยื่น “คำขาด” ไปยังยูเครนและตะวันตก ซึ่งหากพวกเขาไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสม “รัสเซียก็อาจจะระดมกำลังทหารอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับสงคราม การผนวกดินแดนจะทำให้ประธานาธิบดีปูตินมีสิทธิ์ตามกฎหมายรัสเซียในการใช้อาวุธใด ๆ ในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นอาณาเขตของตนเอง”
ในขณะเดียวกัน ก็มีบางกระแสที่บอกว่า รัสเซียอาจไม่ได้มีแผนผนวกดินแดนเร็ว ๆ นี้ แต่ถูกดินแดนที่ยึดมาได้มัดมือชกเพราะกลัวจะถูกรัสเซียตัดหางปล่อยวัด
แอบบาส กัลล์ยามอฟ นักวิเคราะห์การเมืองของรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเหมือนว่า “กลัวว่ารัสเซียจะละทิ้งพวกเขา” ท่ามกลางการรุกรานของยูเครนและวางแผนการลงประชามติเพื่อบังคับรัสเซียให้รีบ ๆ รับพวกเขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งด้วย
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ทางการรัสเซียพยายามจัดประชามติในพื้นที่ของยูเครนที่ยึครองไว้ได้ แต่การต่อสู้กับยูเครนที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องทำให้ไม่สามารถทำได้ ประกอบกับบางพื้นที่ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียอย่างเต็มที่ 100%
อย่างไรก็ตาม หากรัสเซียจัดให้มีการลงประชามติในพื้นที่ที่ยึดครองไว้จริง จะเท่ากับเป็นการปิดตายเจรจาใด ๆ ซึ่งจะทำให้การยุติความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนด้วยสันติวิธีกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น และยูเครนจะเสียพื้นที่ไปราว 90,000 ตร.กม. หากดินแดนที่รัสเซียยึดไว้ถูกผนวกเอาไป
ที่ผ่านมา นาโตเพียงให้การสนับสนุนยูเครนในด้านต่าง ๆ เท่านั้น แต่ไม่ได้ร่วมต่อสู้โดยตรง แต่หากรัสเซียผนวกดินแดนยูเครนสำเร็จ อาจทำให้เกิดการปะทะโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต ซึ่งท้ายที่สุด มีโอกาสที่จะนำไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่สาม” ได้
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / AP / BBC
ภาพจาก AFP
ความเห็น 0