ข่าวด่วนล่าสุดจากที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ บอร์ดดีเอสไอ ลงมติเลื่อนการพิจารณาวาระ รับกรณี "ฮั๊วการเลือกตั้ง สว." เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ออกไป พร้อมกับจะเชิญ กกต.เข้ามาชี้แจง ในการนัดประชุมในครั้งหน้า วันที่ 6 มีนาคม 2568 หลังใช้เวลาประชุมนาน 3 ชั่วโมง ท่ามกลางกรรมการที่ลาประชุม 3 ราย
สำหรับการประชุมในวันนี้ (25ก.พ.68) เริ่มในเวลา 13.30 น. โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) นำการประชุมบอร์ดดีเอสไอเพื่อพิจารณาคดีสำคัญเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ห้องประชุม ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม และเสร็จสิ้นเวลาประมาณ 16.30น.
การประชุมครั้งนี้มีกรรมการเข้าร่วม 19 คน จากทั้งหมด 22 คน โดยมี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ และพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ
นายภูมิธรรมยืนยันว่า การพิจารณาคดีนี้จะเป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง "หากมีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่ามีปัญหา เราก็จะนำเข้าสู่กระบวนการรับเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินการต่อไป หากไม่ชัดก็จะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า" นายภูมิธรรมกล่าว
ประธาน กคพ. เน้นย้ำว่าคดีนี้มีผลกระทบต่อสถาบันหลักของประเทศจึงเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง และขอให้คณะกรรมการพิจารณาโดยไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกมาเป็นตัวตัดสิน "เชื่อมั่นในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกรรมการทุกคน อยากให้พิจารณาในกระบวนการที่เที่ยงธรรมและถูกต้องตามหลักกฏหมายและข้อเท็จจริง"
ทั้งนี้ การรับคดีเป็นคดีพิเศษจะต้องได้รับมติสนับสนุนอย่างน้อย 15 เสียง (2 ใน 3) จากคณะกรรมการทั้งหมด โดยผู้ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมสามารถส่งตัวแทนมาลงคะแนนแทนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกรรมการขาดประชุม 3 คน ได้แก่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม เป็นผู้แทน แต่ผู้แทนไม่ได้เข้าร่วม รวมถึงกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ด้วยเหตุผลเจ็บป่วยและติดภารกิจ
กรณี ฮั๊วเลือกตั้ง สว. คืออะไร?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระสำคัญที่จะมีการเสนอขอมติรับเป็นคดีพิเศษ มีชื่อวาระอย่างเป็นทางการ ได้แก่ เรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณี การคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งมีพฤติการณ์อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และประมวลกฎหมายอาญา
สำหรับเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 การร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติเห็นชอบให้เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) หรือการเป็นคดีความผิดทางอาญาอื่น เนื่องด้วยพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
โดยเป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) มาตรา 209 (อั้งยี่) ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 107 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ว่า ระหว่างการประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)
ปรากฏว่ากรรมการทั้งหมดได้มีการดีเบตเรื่องข้อมูลกัน จนท้ายสุดกรรมการได้เสนอให้มีการเลื่อนลงมติออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าต้องเชิญ กกต. เข้ามาชี้แจง ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง เนื่องด้วยการแถลงผลการประชุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังคงมีกำหนดการเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง