31 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก น่าแปลกที่ถึงจะมีวันแบบนี้ แต่ประชากรที่สูบบุหรี่กลับไม่ได้ลดลงเลย กลับมีปริมาณมากขึ้นทุกปีจนน่าสงสัยว่าวันงดสูบบุหรี่โลกไม่น่าจะมีผลอะไรกับการสูบหรือไม่สูบบุหรี่เลย แต่ไม่ใช่กับประเทศไทย ในบ้านเราคนไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ลดลง ปี 2557 ร้อยละ 20.7 ปีที่ผ่านมา 2560 ลดลงเหลือร้อยละ 19.1 หรือประมาณ 10 ล้านคน และเป้าหมายคือในลดเหลือ 9 ล้านคนใน 7 ปี
แสดงให้เห็นว่าการรณรงค์ที่ผ่านมาส่งผลที่ดีต่อจำนวนประชากรที่สูบบุหรี่ และมีแนวโน้มว่าจะลดลงเป็นลำดับ อีกทั้งกฎหมายที่ออกมาเพื่อกำหนดพื้นที่การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะก็สามารถควบคุมปริมาณการสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากคิดจะเลิกหรือลดก็อาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
โดยเฉพาะคนที่สูบหนัก สูบเป็นประจำต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณจริงจังกับการจะลดหรือเลิกแค่ไหน ไม่ต้องไปคิดว่าทำเพื่อใคร จะเพื่อแฟนหรือเพื่อลูกก็ดีทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่คนที่เลิกขาดได้ เกิดจากการทำเพื่อตัวเอง เพราะเป็นเป้าหมายที่มั่นคงและแน่วแน่กว่า
เชื่อว่าคนสูบบุหรี่แทบทุกคนต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่คิดจะเลิกบุหรี่จริง ๆ จัง ๆ สักครั้ง แต่ที่ยังเลิกไม่ได้ เพราะทนรับกับความอยาก ความหงุดหงิด กระวนกระวายไม่ได้ ซึ่งเป็นผลกระทบแค่ช่วงแรก 2 สัปดาห์แรกของการไม่สูบเท่านั้น หลังจากนั้นถ้ายังมีอาการแบบนี้อีก บอกได้เลยว่าไม่ได้เกิดจากร่างกาย แต่เป็นเพราะจิตใจไม่เข้มแข็งพอต่างหาก
สำหรับคนมีประสบการณ์เคยลดหรือเลิกบุหรี่ถือว่าคุณได้ก้าวข้ามผ่านสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตอย่างหนึ่งมาแล้ว ลองมาแชร์ประสบการณ์อันเป็นประโยชน์เพื่อเป็นวิทยาทานกันดีกว่าว่ามีวิธีอย่างไรที่จะลด หักดิบหรือเลิกอย่างไรให้ไม่ต้องทรมาน เผื่อตัวเลขคนสูบหรือเสียชีวิตจากบุหรี่จะได้น้อยลงบ้าง
