โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เว็บ Cookie คืออะไร?

Thaiware

อัพเดต 24 ธ.ค. 2561 เวลา 08.45 น. • เผยแพร่ 22 ธ.ค. 2561 เวลา 05.00 น. • moonlightkz
เว็บ Cookie คืออะไร?
คุกกี้ บนเว็บที่เราได้ยินกันบ่อยๆ คืออะไร ทำไมเข้าเว็บแล้วมีแจ้งเตือนว่ามีการใช้คุกกี้ มาหาคำตอบกัน

"คุกกี้" (Cookie) นอกจากจะเป็นชื่อของขนมที่หลายคนชอบทานแล้ว มันยังเป็นชื่อของข้อมูลขนาดเล็กที่ได้มาจากการเชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย มันมีชื่อเต็มยศว่า HTTP cookie บ้างก็เรียกว่า Web cookie, Internet cookie, Browser cookie หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า Cookie ก็ไม่ผิดอะไร เป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 โน่นเลย

Cookie นั้นถูกออกแบบมาให้เป็นกลไกการทำงานที่เชื่อถือได้สำหรับเว็บไซต์ มันทำหน้าที่จดจำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเว็บไซต์ อย่างเช่น หากเราเข้าเว็บขายสินค้าออนไลน์ แล้วเรามีสินค้าใส่เอาไว้ในตะกร้า หากไม่มี Cookie เมื่อเราปิดหน้าเว็บไป สินค้าในตะกร้าก็จะหายไปด้วย แต่ด้วยความสามารถของ Cookie เว็บจะสามารถจดจำได้ว่ามีสินค้าอะไรอยู่ในตะกร้าบ้าง หรือจะเป็นพวกข้อมูลบัญชีสมาชิก หากเราต้องการให้ตัวเว็บจดจำการเข้าระบบของเราไว้ตลอด ก็ต้องอาศัยการทำงานของ Cookie นี่แหละ

ตัว Cookie ยังถูกแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาแนะนำสาระให้ได้เสพย์กัน ว่าไฟล์ Cookie มีกี่ประเภท ประกอบด้วยอะไรบ้าง

เว็บ Cookie คืออะไร?
เว็บ Cookie คืออะไร?

1. Session Cookies

ที่เราเกริ่นตัวอย่างการใช้งาน Cookie กับเว็บซื้อขายออนไลน์เอาไว้ข้างต้น สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากว่าไม่มี Session Cookies  

จะมองว่า Session Cookies เป็นหน่วยความจำชั่วคราวของเว็บไซต์ก็ได้ มันจะคอยบันทึกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บเอาไว้ หากไม่มีมัน เราจะถูกตอบสนองเหมือนเพิ่งเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก

Session Cookies จะไม่มีการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ของคุณเลย และข้อมูลส่วนตัวของคุณ ซึ่งอย่างที่เราบอกเอาไว้ข้างต้นว่าคุกกี้ตัวนี้ทำหน้าที่เหมือนหน่วยความจำชั่วคราว ดังนั้น เมื่อเราปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบไปทันที

เว็บ Cookie คืออะไร?
เว็บ Cookie คืออะไร?


ภาพประกอบที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

2. First-Party Cookies

หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า Persistent cookie, Permanent cookies และ Stored cookies มันเป็นคุกกี้ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นหน่วยความจำระยะยาวของเว็บไซต์ มันช่วยให้เว็บไซต์ข้อมูลของเราได้ เพื่อให้ในอนาคตที่เราเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกครั้ง การตั้งค่าทุกอย่างจะยังเหมือนที่เราเคยตั้งเอาไว้

หากไม่มี First-Party Cookies แล้ว เว็บไซต์จะไม่สามารถจดจำข้อมูลการตั้งค่าเมนูบนเว็บ, ธีม, ภาษาที่เลือก, หรือ Boorkmark ในเว็บได้เลย และมันยังมีบทบาทสำคัญอีกอย่างในส่วนของระบบ User authentication หากเราทำการปิดคุกกี้ตัวนี้ไป เราจะต้องทำการรับรองเพื่อยืนยันเข้าระบบใหม่ทุกครั้งที่เข้าเว็บ

โดยส่วนใหญ่แล้ว First-Party Cookies จะมีอายุการใช้งาน 1- 2 ปี หากเราไม่มีการเข้าใช้งานเว็บไซต์ภายในระยะเวลาที่คุกกี้ยังไม่หมดอายุ ตัวเว็บเบราว์เซอร์ก็จะทำการลบคุกกี้ดังกล่าวให้อัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม First-Party Cookies ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน คือ เจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวจะสามารถติดตามพฤติกรรมการใช้งานของเราผ่านคุกกี้ตัวนี้ได้ด้วย

เว็บ Cookie คืออะไร?
เว็บ Cookie คืออะไร?


ภาพประกอบที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

3. Third-Party Cookies

ถ้าคุุณเคยได้ยิน "ชื่อเสีย" ของคุกกี้มาก่อน เจ้านี่แหละคือสาเหตุของสิ่งนั้น ในขณะที่ First-Party Cookies กันก่อน มันจะจับคู่ตามชื่อของโดเมนเว็บที่เรากำลังจะเข้า แต่ Third-Party Cookies จะไม่เป็นแบบนั้น มันจะทำการจับคู่ไปยังโดเมนเว็บอื่นๆ แทน

แน่นอนว่า เมื่อมันไม่ใช่คุกกี้ที่มาจากเว็บที่เราต้องการจะใช้งาน มันจึงไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเราเลยสักนิด หน้าที่เพียงอย่างเดียวที่ Third-Party Cookies ทำก็คือแอบติดตามความเคลื่อนไหวของเรา มันสามารถดูประวัติการเล่นเว็บ, พฤติกรรมการออนไลน์, ลักษณะการใช้จ่าย ฯลฯ

จากความสามารถดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะเป็นสิ่งที่นักการตลาดออนไลน์นิยมนำมาใช้ในการเพิ่มยอดขาย และยอดเพจวิว

ข่าวดี คือ ในปัจจุบันนี้เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกในการปิดกั้นการทำงานของ Third-party cookies ให้ใช้งานได้ อย่างใน Chrome เราสามารถตั้งได้ด้วยการไปที่ chrome://settings/content/cookies แล้วเปิดใช้งาน "Block third-party cookies"

เว็บ Cookie คืออะไร?
เว็บ Cookie คืออะไร?

4. Secure Cookies

คุกกี้ที่เรากล่าวไป 3 ชนิดข้างต้น เป็นคุกกี้พื้นฐานที่น่าจะรู้จักกันดี แต่มันยังมีคุกกี้อีกหลายชนิดที่เราอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักเพิ่ม อย่างแรกก็คือ Secure cookies มันสามารถรับส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ถูกเข้ารหัสเอาไว้เท่านั้น หรือจะพูดง่ายๆ ว่าส่งผ่าน HTTPS ก็ได้

ตราบใดก็ตามที่ Secure Cookies ทำงานอยู่ ข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกส่งผ่านชาแนลเชื่อมต่อที่ไม่ได้เข้ารหัส ซึ่งมันจะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของเราไม่ให้ "ถูกดัก" ระหว่างที่มีการรับส่งข้อมูลได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการเข้ารหัสเอาไว้แล้ว นักพัฒนาก็ไม่ควรใช้คุกกี้ชนิดนี้ในการรับส่งข้อมูลที่มีความสำคัญ เพราะด้วยหลักการทำงานของมัน มันแค่ปกป้องความลับภายในคุกกี้เท่านั้น แต่แฮกเกอร์สามารถใช้การโจมตีด้วยการเข้าควบคุม Secure cookies ผ่านช่องทางเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางเว็บไซต์ที่มีทั้งระบบ HTTP และ HTTPS ในเว็บเดียวกัน

5.  HTTP-Only Cookies

Secure Cookies ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็น HTTP-Only Cookies ด้วย มันจะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยปกป้องคุกกี้จากการถูกโจมตีด้วยวิธี Cross-site scripting หรือที่เรียกกว่า XSS (เทคนิคนี้จะเป็นการฝังโค้ดอันตรายเข้าไปบนหน้าเว็บโดยตรง ทำงานเมื่อหน้าเว็บถูกแสดงผล)
ตัว Secure Cookies จะไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านภาษาสคริปต์ (อย่างเช่น JavaScript) ได้ ทำให้ตัวคุกกี้ถูกปกป้องจากการโดนโจมตีด้วยวิธีการดังกล่าวได้

6. Flash Cookies

Flash cookies เป็นคุกกี้ที่พบได้มากที่สุดใน Supercookie ตัว Supercookie มันทำหน้าที่หลายอย่างที่คล้ายกับ Cookie ธรรมดา แต่มันจะยากต่อการค้นหา และลบทิ้งมากกว่าปกติ

Supercookie เป็นคุกกี้ที่จะมีชื่อเป็นโดเมนระดับสูงสุด เช่น .com หรือ .co.uk ส่วนคุกกี้แบบธรรมดาก็อย่างเช่น example.com เนื่องจากว่า Supercookies สามารถใช้ในการโจมตีได้ มันจึงถูกให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และเว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ก็จะปิดกั้นไม่ให้คุกกี้ชนิดนี้ทำงานได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเข้าระบบของเว็บ example.com เจ้า Supercookie ที่ชื่อว่า .com สามารถใช้ในการเข้าระบบแบบปลอมๆ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้ใช้ได้ ทั้งๆ ตัวมันเองไม่ใช่คุกกี้ที่มาจาก example.com ด้วยความสามารถดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มันจะถูกใช้ในทางที่ผิดโดยเหล่าแฮกเกอร์

7. Zombie Cookies

Zombie Cookies ถือว่าเป็นญาติสนิทของ Flash cookies ที่มันมีชื่อนี้เพราะว่ามันเป็นคุกกี้ที่สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้เมื่อถูกลบ มีความอมตะเหมือนกับซอมบี้นั่นเอง โดยมันอาศัยประโยชน์จากไฟล์ Backups นอกตัวเบราว์เวอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น Flash Local Share Object หรือไม่ก็ HTML5 Web Storage

8. Same-Site Cookies

เป็น Cookies แบบใหม่ที่ถูกคาดหวังให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่มีความปลอดภัยกว่าคุกกี้แบบเก่าๆ โดยหลักการทำงานของมัน คือ ตัวเว็บเบราว์เซอร์จะสามารถควบคุมการรับส่งคุกกี้ระหว่างเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ด้วยการใช้ SameSite cookie attribute ซึ่งการเปิดใช้งานก็ง่ายมาก ด้วยการเพิ่มชุดคำสั่งเข้าไปใน Cookie ในลักษณะนี้

Set-Cookie: CookieName=CookieValue; SameSite=Lax;
Set-Cookie: CookieName=CookieValue; SameSite=Strict;

ทั้งนี้เว็บบเราว์เซอร์ที่รองรับการใช้งานคุกกี้แบบนีัแล้วมี  Chrome, Firefox, และ Opera. รวมถึง Safari ตั้งแต่เวอร์ชั่น 12.1 ก็รองรับด้วยเช่นกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0