ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการแต่งหน้าให้สวยเพอร์เฟ็คกับแป้งฝุ่นหรือลูส พาวเดอร์ ด้วยคุณสมบัติในการเซ็ตผิวให้เนียนเรียบ คุมมันและทำให้ผิวดูกระจ่างใส จึงทำให้ไอเท็มนี้กลายเป็น must – have บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ทำไมต้องใช้แป้งฝุ่นล็อคความชุ่มชื่นผิวหน้าหลังการลงรองพื้น
- ยับยั้งและลดความมันบนใบหน้าระหว่างวันได้นานขึ้น
- ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส
- ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน
- ช่วยเบลอรูขุมขนให้ดูเล็กลง
เหมาะกับผิวแบบไหน?
เหมาะกับสาวๆ ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะใครที่กังวลเรื่องความมันวาวระหว่างวันหลังแต่งหน้า ไม่อยากให้รองพื้นไหลเยิ้ม
เลือกแป้งฝุ่นแบบไหนให้เหมาะกับผิว
- แป้งฝุ่นแบบผสมรองพื้น แป้งฝุ่นชนิดนี้จะเหมาะกับใครที่ต้องการให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการแต่งหน้า ข้อดีคือติดทนนานกว่าไม่ต้องเติมบ่อยๆ หรือใครที่อยากโชว์ผิวไม่อยากลงรองพื้นหนักๆ ก็สามารถใช้แป้งฝุ่นปัดไล้บางๆ ให้ผิวดูนวลเนียนขึ้นได้
- แป้งฝุ่นแบบไม่ผสมรองพื้น ส่วนใหญ่แล้วแป้งฝุ่นโปร่งแสงจะใช้หลังลงรองพื้นเพื่อเซ็ตผิวให้รองพื้นติดทนนานยิ่งขึ้นและอีกหนึ่งคุณสมบัติหลักคือช่วยควบคุมความมันวาว สำหรับใครไม่เน้นการปกปิด บางสูตรอาจมีส่วนผสมของชิมเมอร์เนื้อละเอียดที่ช่วยปรับผิวให้ดูมีมิติและสว่างใสขึ้น
- ควรเลือกแป้งฝุ่นเฉดเดียวกับสีผิวหรือไม่ก็เป็นแบบไม่มีสีเพื่อให้ผิวดูเป็นธรรมชาติไม่ขาว ไม่ลอย แป้งฝุ่นที่ดีจะต้องไม่เกิดคราบบนใบหน้าระหว่างวันและควรมีเนื้อที่เนียนละเอียดกลืนกับผิว
ปัดแป้งฝุ่นยังไงให้ผิวสวย
- ถ้าเลือกใช้พัฟเราสามารถแตะแป้งฝุ่นแล้วกดซับเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าหรือเฉพาะบริเวณทีโซน
- ถ้าเลือกใช้แปรง แตะที่เนื้อแป้งฝุ่นเคาะออกสักเล็กน้อยแล้วปัดไล้ให้ทั่วหน้าซึ่งถ้าใช้แปรงผิวจะดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า
ทิปส์จากกูรู
Charlotte Tilbury เมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดัง เธอบอกว่าหลังลงแป้งฝุ่นทั่วใบหน้าหรือบริเวณทีโซนแล้วให้เปลี่ยนเป็นแปรงขนาดเล็กค่อยๆ แตะผิวใต้ตาเพื่อใบหน้าโดยรวมที่ดูเปล่งประกาย
Credit photo: Getty Images