เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวจากกรมสรรพสามิตกำลังหาแนวทางเดินหน้าเก็บภาษี เบียร์ 0 % โดยจะเก็บในระดับใกล้เคียงกับเบียร์ทั่วไปคือ ร้อยละ 22 หรือ เก็บในอัตราที่ต่ำกว่านั้น แต่ต้องสูงกว่าเพดานจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มให้ความหวาน หรือ เครื่องเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ ในอัตราร้อยละ 10-14 ของราคาขายปลีก
มารู้จักกับเบียร์ 0 % กันก่อน?
เบียร์ 0 % หรือที่เรียกว่า "เครื่องดื่มมอลต์" ซึ่งมีวิธีการในการผลิตเหมือนกับเบียร์ทุกประการ เพียงแต่ใช้กรรมวิธีในการดึงแอลกอฮอล์ออก แต่แท้จริงแล้ว เบียร์ไร้แอลกอฮอล์ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีแอลกอฮอล์อยู่เลย แต่เพียงมีปริมาณแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในปริมาณที่ต่ำ หรือไม่เกินร้อยละ 0.5 จนกฎหมายอนุญาตให้ใช้คำว่า “ไร้แอลกอฮอล์” ในการเรียกผลิตภัณฑ์หรือใช้ในการโฆษณาได้
กระแสเบียร์ 0 % ในต่างประเทศและไทย
เนื่องจากเทรนรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยอดจำหน่ายเบียร์ลดลงในต่างประเทศ ผู้ประกอบการธุรกิจเบียร์จึงพากันผลิตเครื่องดื่มมอลต์ หรือ เบียร์ 0% ออกมาจำหน่ายเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพ ซึ่งกระแสตอบรับออกมาค่อนข้างดีในแถบประเทศยุโรป และสอดคล้องกับกระแสการบริโภคแอลกอฮอล์แบบพอสมควร ทั้งยังสามารถลดปริมาณนักดื่มได้
ซึ่งตรงข้ามกับที่ประเทศไทยมองว่า เบียร์ 0% ไม่ได้สามารถลดจำนวนของนักดื่มหน้าใหม่ได้เหมือนกับในต่างประเทศ ซ้ำยังจะเป็นการเพิ่มให้นักดื่มหน้าใหม่อยากลองอีกด้วย จึงเริ่มมองว่าต้องมีการจัดเก็บภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แนวทางการเก็บภาษีเบียร์ 0% ในอนาคตของภาครัฐ
ปัจจุบันเบียร์ 0% มีการจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 14 เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องดื่มที่ให้ความหวาน พวกน้ำอัดลม หรือ ชาเขียว โดยจำหน่ายกระป๋องละ 39-99 บาท แต่หากเป็นเครื่องดื่มที่มีแลกอฮอล์จะจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 22 ของราคาปลีก บวกกับภาษีปริมาณของแอลกอฮอล์
แต่เนื่องจากเบียร์ 0% มีลักษณะคล้ายกับเครื่องดื่มประเภทเบียร์ และด้วยความกังวลของภาครัฐที่กลัวว่าเยาวชนจะหันมาบริโภคเบียร์ 0% และพัฒนาไปดื่มเบียร์ปกติแทน จึงต้องการที่จะเปิดพิกัดภาษีใหม่ให้สูงกว่าเครื่องดื่มทั่วไปแต่ไม่สูงเท่ากับเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์
เบียร์ 0% เป็นทางออกในการลดนักดื่มหน้าใหม่ได้จริงเหรอ?
ผลการศึกษาจากหลายๆแหล่งได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจไว้ว่า เบียร์0% ไม่ได้มีผลอะไรต่อการดึงนักดื่มหน้าใหม่นัก เนื่องจากคนที่ต้องการทดลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็คงไม่เลือกที่จะดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แต่หากมีการขึ้นภาษีจริงแล้วทำให้ราคาของเบียร์ 0% ขยับเข้าไปใกล้กับราคาของเบียร์ปกติที่มีแอลกอฮอล์แล้วละก็ อาจจะทำให้การตัดสินใจว่าจะเลือกซื้ออะไรไม่ยากมากนัก เมื่อคิดถึงความคุ้มค่า!
คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าภาครัฐจะเลือกจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น หรือ ทำอย่างไร เพื่อลดการเกิดนักดื่มหน้าใหม่…
ความเห็น 105
pijig
BEST
มันก็พิสูจน์ได้ว่า ที่เพิ่มภาษีของหวานของเค็มไร มันไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพไรหรอกแค่ข้ออ้าง
01 ส.ค. 2562 เวลา 10.28 น.
Mag Turbo🐌
BEST
ไม่มีผลครับ เพราะ ไม่ดื่มแล้วครับ แอล0% ไม่อร่อย แล้วก็อีกอย่าง เด็กหน้าใหม่ มันไม่มาลองแบบนี้หรอกครับ ผมเองก็กินเฉพาะมีงานเลี้ยงเท่านั้น เพราะงั้นยากครับ กินแล้วไอ้ 0% เนี่ย แอลมันไม่ใช่นะครับ ได้แค่รสกลิ่น สุดท้าย งานเลี้ยงสังสรรค์ ปาร์ตี้ ปีใหม่ วันเกิด งานแต่ง ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เบียร์0% ไม่ได้มีไปวางบนโต๊ะหรอกครับ มันมีแต่มีแอล 7-40% ทั้งนั้นแหละ จบนะ จะกินแอล 0% ผมกินน้ำอัดลมดีกว่าครับ
01 ส.ค. 2562 เวลา 10.19 น.
Joke
BEST
ขึ้นภาษีทุกอย่าง มีเเต่ข้าวกับหญ้า ที่มันยังไม่ขึ้นภาษี.
01 ส.ค. 2562 เวลา 10.33 น.
งานของเขาคือ ดึงเงินจากคนรากหญ้าให้ได้มากที่สุด
01 ส.ค. 2562 เวลา 10.19 น.
lกรีeJไกS
ไม่ขึ้นหรอก เอาใจแก๊งเบียร์เพราะเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่
01 ส.ค. 2562 เวลา 09.29 น.
ดูทั้งหมด