โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

แกะรอยรวบ อาฟู่ ล่ามบอสใหญ่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้จิตวิทยาหลอกเหยื่อ เสียหาย 16 ล้าน

Khaosod

อัพเดต 14 มิ.ย. 2566 เวลา 05.08 น. • เผยแพร่ 14 มิ.ย. 2566 เวลา 02.38 น.
จับล่ามบอสใหญ่
แกะรอยรวบ อาฟู่ ล่ามบอสใหญ่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้จิตวิทยาหลอกเหยื่อ เสียหาย 16 ล้าน

แกะรอยรวบ อาฟู่ ล่ามบอสใหญ่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จุดเกาะกง กัมพูชา ใช้โปรไฟล์หน้าตาดี-จิตวิทยาหลอกเหยื่อ ผู้เสียหายรวมสูญเงิน 16 ล้านบาท

วันที่ 14 มิ.ย.2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ, พ.ต.อ.สามารถ พันธ์ล้วน , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น.

พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี, พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5, ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)

นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) หรือ อาฟู่ อายุ 27 ปี ชาวจ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 39๕/2565 ลง 13 ส.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงินฯ” จับกุมตัวบริเวณ หน้าหอพักคนงาน บริเวณ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) ระบาดหนักในช่วงปี พ.ศ. 2565 จนถึงปัจจุบัน สร้างโปรไฟล์หนุ่มหล่อ/สาวสวยปลอมขึ้นมาออกอุบาย ทำทีเข้ามาติดต่อพูดคุย ตีสนิทจนกลุ่มเหยี่อผู้เสียหาย จนเหยื่อตายใจ บางรายถึงขั้นหลงรัก หลอกให้ร่วมลงทุนจนหมดตัว สูญเงินหลายล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 นำชุด PCT5 เร่งติดตามสืบสวน ขยายผล จนสามารถออกหมายจับสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสามารถเข้าจับกุมเครือข่ายสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 ราย

โดยได้ให้ข้อมูลว่าตัวการสำคัญ คือ นายสุรชัย ล่ามภาษาไทย-จีน คนสนิท บอสใหญ่มังกรจีน ตัวการสำคัญในขบวนการนี้ ซึ่งทำหน้าที่แปลเทคนิค ขั้นตอนการเรียนรู้ การพูดจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจ ในการนำมาใช้หลอกลวงเหยื่อโดยเฉพาะ จากบอสใหญ่ให้แก่พนักงานลูกจ้างที่ทำหน้าที่ แถว 1 แถว 2 และ แถว 3 อย่างเป็นระบบ ไม่ต่างจากบริษัททั่วๆไป สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามมากว่า 1 ปีอย่างต่อเนื่อง

สอบถามนายสุรชัยฯ ให้การภาคเสธว่า ประมาณปี 64 นายสุรชัยพร้อมกับนายสุรจิต น้องชาย ได้สมัครงานผ่านเฟซบุ๊กเพื่อไปเป็นล่ามแปลภาษา จีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 30,000 - 40,000 บาท เมื่อตนกับนายสุรจิตเดินทางไปถึงกัมพูชาปรากฏว่า ตนเองถูกพาไปทำงานที่ “เกาะกง” แทน โดยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนจากหัวหน้าชาวจีน ซึ่งไม่ทราบชื่อจริง แต่พนักงานที่นั้นจะเรียกกันว่า “หยู่เกอ” โดยตนจะทำหน้าที่ล่ามแปล คำพูดของนายหยู่เกอเป็นภาษาไทยให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่น

โดยทราบว่า ที่คนไทยไปทำงานนั้น เป็นงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งนาย “หยู่เกอ” เป็นคนสร้างแอพพลิเคชันปลอมนี้ขึ้น หลังจากตนทำงานได้ 6 เดือน ตนได้หลบหนีกลับประเทศไทย และได้สร้างครอบครัว เปิดกิจการร้านเหล้า ณ ภูมิลำเนาของตน ใน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและทราบว่า นายสุรชัยมาทำธุระ ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวและจับกุมนายสุรชัยฯ ส่งนำพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ จว.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า แผนประทุษกรรมของแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้ จะเป็นเริ่มเปิดปฏิบัติการโดยจะใช้โปรแกรมสร้างแฟลตฟอร์มปลอมที่ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” เพื่อหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ

จากนั้น นายหยู่เกอ บอสใหญ่ชาวจีน จะให้นายสุรชัย ผู้ถูกจับ และนายสุรจิต ทำหน้าที่ล่ามในการแปล ถอดคำพูดและวิธีการสอนให้พนักงานที่มาทำงาน ในการสร้างโปรไฟล์ หนุ่มหล่อ สาวสวย หน้าตาดี ทางแอพพลิเคชัน ผ่านทางกูเกิ้ลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter จำนวน 10-40 บัญชี และ Instragram จำนวน 1 บัญชี และ facebook จำนวน 1 บัญชี
โดยเฉพาะการสมัครแอพพลิเคชันทวิตเตอร์ (twitter) จะมีระบบโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้สุ่มเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จัก ตีสนิทติดตามเหยื่อก่อน

เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามคนร้ายกลับมา จะมีข้อความที่ตั้งไว้ตอบกลับอัตโนมัติในลักษณะคำทักทายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนเหยื่อเริ่มพูดคุย มีการสนทนาโต้ตอบ กลุ่มมิจฉาชีพจะเริ่มใช้จิตวิทยาและประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบอสใหญ่ ในการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ อายุ งาน ประเทศ เบอร์โทร วอทแอพ (WhatsApp) หากเหยื่อรายใดเริ่มมีความคุ้นเคย จะถามถึงสภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายของเหยื่อ

จนแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้ สามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้และมีความสามารถในการลงทุน คนร้ายจะชักชวนเหยื่อร่วมลงทุน โดยให้เหยื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์มเทรดคริปโต พร้อมทั้งสอนวิธีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลคริปโต แนะนำเชิญชวนให้ลงทุนโอนเงินดอลลาร์และจะให้เห็นว่าลงทุนแล้วได้กำไรและถอนเงินได้จริง เปลี่ยนให้เป็นเงิน USDT

พอเหยื่อลงทุนแล้ว ก็จะให้โอนเงิน USDT เข้าไปใน แพลตฟอร์ม ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” ที่สร้างขึ้นปลอม เพื่อเป็นการเลี้ยงเหยื่อ ให้ลงทุนเพิ่ม นาย “หยู่เกอ” จะทำการหลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอมแสดงกราฟขาขึ้น ให้เหยื่อดูเพื่อแสดงยอดเงินกำไรโชว์ให้เหยื่อ เพื่อให้เหยื่อลงทุนเพิ่ม หากเหยื่อจะถอนเงินที่ได้จากผลกำไร ทางแก๊งมิจฉาชีพนี้ จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี หากไม่ชำระภายในกำหนด ก็ไม่สามารถจะถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเป็นการหลอกผู้เสียหายซ้ำไปซ้ำมา จนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งตรงให้ติดตามจับกุม อาฟู่ มือขวาบอสใหญ่ชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) จุดเกาะกง กัมพูชา ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาก เพราะเป็นคนสอนเทคนิคการหลอก คอลเซ็นเตอร์ แถว 1 - แถว 3 โทรมาหลอกคนไทย แม้มีปัจจัยด้านต่างๆ แต่เราเกาะติด เฝ้าติดตามคนร้ายมาโดยตลอด เพื่อเป็นการตัดรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมแก๊งนี้ให้สิ้นซาก ป้องกันมิให้ประชาชนคนไทยตกเป็นเหยื่อตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดเดินหน้าปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังต่อไป

ขอเตือนประชาชนที่คิดจะไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านนั้น ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่า อาชีพหรือลักษณะงานที่จะไปทำนั้นเป็นในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ และขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนคนไทยอย่าได้หลงเชื่อกลวิธีเของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) ที่ชักชวนลงทุน

หากมีเบาะแสสามารถติดต่อไปยัง สายด่วน 1441 ตำรวจไซเบอร์ หรือ ศูนย์ ศปอส.ตร. 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 10

  • cc🦍
    อาเซียนมีแต่แก๊งค์จีนเทาหลอกเอาเงินก่ออาชญากรรมเต็มไปหมดเพราะคิดว่ามันเป็นนักท่องเที่ยวนักลงทุน ตม. มีไว้ทำไมครับ
    14 มิ.ย. 2566 เวลา 06.14 น.
  • กรรณิการ์
    จับมันให้หมด อยู่เชียงใหม่พวกนี้มีลูกน้องต่างด้าวทรงA สังเกตง่ายๆชูโทรศัพท์ท่าแปลกๆ สักแขนสีเขียว อยากบอกว่าไม่ทำงานให้ หรือรับเงินจากพวกคุณ ไม่ยอมเข้าวงการสีเทา ไม่โง่ให้หลอกใช้หรอกนะ อย่าตามเยอะ ไม่ใช่พวกทำผิดกฏหมาย ไม่ใช่ร่างทรง หรือนอมินีที่ฟอกเงินให้ใคร ถ้าเกิดคดีโดนจับพวกนี้ลอยตัว คนที่โดนคดีคือคนไทยที่มันใช้เป็นร่างทรงโกงเงินคนอื่น
    14 มิ.ย. 2566 เวลา 03.54 น.
  • Eed Eed
    กว่าจะจับได้มีผู้เสียหายตั้ง10กว่าล้าน แต่ก็ชื่นชมคุณตำรวจไทย เก่งมากค่ะ
    14 มิ.ย. 2566 เวลา 03.22 น.
  • ARUN
    ถ้ามีบัตรปชช.ไทย ก็ตรวจสอบการได้มาของบัตรปชช.ไทยด้วย พวกนี้มันชอบสวมสิทธิ์คนไทย
    14 มิ.ย. 2566 เวลา 04.27 น.
  • มีเงิน ก็มีบัตรได้ไม่ยากอย่างที่คิดนะ
    14 มิ.ย. 2566 เวลา 05.05 น.
ดูทั้งหมด