จากกรณีที่มีการแชร์เรื่องราวของพยาบาลรายหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กว่าเตรียมจะไปกราบเท้าแม่ แต่กลับต้องมาเฝ้าแม่ที่ห้อง ICU เพราะถูกเด็กแว้นขับรถมาชน ซึ่งโอกาสในการรอดชีวิตมีน้อย ต้องเฝ้าระวังวันต่อวัน และอาจต้องนอนติดเตียงแบบนี้ไปตลอด ขณะที่หลังเกิดเหตุ แม่ของน้องอายุ 14 ที่เป็นคู่กรณี ได้เข้ามาขอโทษ และขอให้อภัยให้กับลูกเพราะลูกยังเด็ก กลัวว่าจะเสียอนาคต ส่วนตัวน้องคู่กรณี แค่หันมามองหน้าแล้วหันหนีไป โดยไม่พูดอะไรเลย
พยาบาลผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้สามารถเอาผิดใครได้บ้าง ในเมื่อเอาผิดเด็กไม่ได้ จะเอาผิดกับพ่อแม่ ผู้ปกครองได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยคำว่าเยาวชน ตอนนี้หวังเพียงมีปาฏิหาริย์ ที่จะทำให้แม่ฟื้นขึ้นมา หรือลืมตาขึ้นมารับรู้ได้บ้าง
อ่านข่าวต้นฉบับ: เบื่อคำว่าเยาวชน! สาวเดือดแว้นซิ่งชนแม่โคม่าไร้สำนึก ไม่ขอโทษ ลั่นแค่14 ก็ควรติดคุก
การกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนในลักษณะนี้ เป็นที่ถกเถียงกันมาตลอดว่าควรได้รับโทษเหมือนผู้กระทำความผิดที่เป็นผู้ใหญ่แล้วหรือไม่ เนื่องจากในบางประเทศก็มีบทลงโทษสำหรับเยาวชนที่ทำผิดร้ายแรงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตเลยทีเดียว
อย่างที่ฝรั่งเศส เยอรมัน และแคนาดา ก็มีบทลงโทษที่ค่อนข้างชัดเจนสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งหากเป็นการกระทำความผิดที่ร้ายแรงก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองพิเศษในฐานะของเด็กและเยาวชน แต่จะพิจารณาที่ศาลเยาวชนและครอบครัวเท่านั้นไม่มีการโอนย้ายไปศาลปกติ โดยบทลงโทษจะขึ้นอยู่กับการสำนึกในการกระทำความผิดเป็นหลัก และนัยสำคัญที่ 3 ประเทศนี้เน้นก็คือ การให้ความสำคัญด้านการศึกษาเเก่เด็กเเละเยาวชนที่กระทำความผิดมากกว่าการลงโทษ สำหรับการกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรง
ส่วนประเทศไทย กฎหมายเปิดช่องให้สามารถโอนคดีจากศาลเยาวชนและครอบครัวไปศาลธรรมดาได้ หากพบว่าเยาวชนที่ก่อเหตุมีสภาพร่างกายและจิตใจโตเกินวัย และแม้ข้อหาที่กระทำผิดจะมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่ในทางปฏิบัติศาลจะมีข้อจำกัดและสงวนไว้กรณีที่ผู้ต้องโทษเป็นเยาวชน
อย่างไรก็ตาม เด็กสมัยนี้จะอ้างคำว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเด็กบางคนก็มีพฤติกรรมร้ายแรง และไม่สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ดังนั้นคุณเห็นด้วยหรือไม่ หากเด็กและเยาวชนที่ทำผิดร้ายแรงจะได้รับโทษเทียบเท่ากับผู้ใหญ่ที่กระทำความผิด หรือไม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนเหล่านี้ก็ควรได้รับโทษด้วยเช่นกัน