ได้เวลาถือเลียงลงคลอง ไป "ร่อนทอง" ชาวบางสะพาน กับของขวัญปลอบใจจากธรรมชาติ หลังน้ำลด รายได้ก้อนงามจาก "ทองนพคุณ" ที่ว่ากันว่า "ไม่มีวาสนา มิได้ครอบครอง"
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 พ.ย.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณคลองทอง บ้านป่าร่อน ม.6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบชาวบ้านเริ่มถือเลียง แบกพลั่ว ลงร่อนทองตามแนวคลองทอง ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ถือเป็นช่วงเวลาที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการลงร่อนทอง ซึ่งหากใครโชคดีก็จะได้ทองเม็ดที่มีน้ำหนัก 1-2 บาท โดยทองบางสะพานถือเป็นทองนพคุณ มีราคาซื้อขายสูงกว่าทองคำปกติตามท้องตลาดถึง 2-3 เท่า
ทั้งนี้ หากจะกล่าวว่า ทองบางสะพาน ถือเป็นของขวัญจากธรรมชาติก็คงไม่ผิด เพราะทองคำเหล่านี้เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ ว่ากันว่า ผู้มีโชค มีบุญวาสนา เท่านั้นถึงจะได้เป็นเจ้าของครอบครอง โดยสามารถเห็นวิถีชาวบ้าน ออกร่อนทอง ตามลำคลองทอง บริเวณ หมู่ 6 บ้านป่าร่อน ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากน้ำท่วมหรือน้ำหลาก จะมีการพบทองที่ถูกพัดมาตามกระแสน้ำเป็นจำนวนมาก ถ้าโชคดี อาจจะได้เป็นก้อนขนาดใหญ่ หรือเป็นเกล็ด เป็นผงก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป
"การร่อนทอง ถือเป็นวิถีชีวิตภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่อดีตสืบเนื่องกันมาหลายชั่วอายุคน และถือเป็นความภูมิใจที่ชาวร่อนทองทุกคนควรอนุรักษ์ไว้ โดยอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการร่อนทอง คือ เลียง ซึ่งทำมาจากไม้ใยด้าย มีลักษณะ เหมือนกระทะ ใช้สำหรับการร่อนหาทองตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
นางรัตนาพร หมวดน้อย อายุ 51 ปี ผช.ผญบ.หมู่ 6 ต.ร่อนทอง ที่ใช้เวลาว่างนำเลียงลงร่อนทองในคลองทองกล่าวว่า ช่วงนี้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มออกมาร่อนทองตามคลองทองกันเป็นจำนวนมาก ภายหลังน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งคนในพื้นที่จะทราบกันดีว่าหลังจากน้ำลดจะมีทองนพเก้า ที่เป็นทองคำบริสุทธิ์จากธรรมชาติไหลมากับตะกอนดินในช่วงน้ำท่วม สร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับคนในพื้นที่ โดยตนได้ลงร่อนทองมาแล้ว 3 วัน ได้เกล็ดทองน้ำหนักรวมแล้วประมาณ 6 หุน(ทองคำ 1 บาท = 40 หุน) ขายได้ราคาไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท สร้างรายได้อย่างงามหลังจากน้ำลด รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยว เนื่องจากมีผู้สนใจมาเช่าเลียง เพื่อเสี่ยงโชคลงไปร่อนทองกันจำนวนไม่น้อยในแต่ละวัน