เติมเต็มความฝันด้วยการไปใช้ชีวิตช้า ๆ ท่ามกลางธรรมชาติฉ่ำ ๆ พักบ้านไม้ริมน้ำที่ถอดแบบออกมาจากจินตนาการวัยเด็กของเรา ณ ‘ชนบท แม่ลาย จ.เชียงใหม่’ บ้านสองหลังน้อย ๆ น่ารักนุบนิบใจที่รอคอยให้เราได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวและธรรมชาติอันแสนสงบ นอนฟังเสียงน้ำไหล จั๊กจั่นเรไร จิบชาหอม ๆ ล้อมวงปิ้งหมูทะ นั่งชิงช้าห้อยขาแช่น้ำ ดื่มด่ำกับบรรยากาศให้เต็มที่ให้เหมือนเป็นวันที่ดีที่สุดของชีวิต อย่ามัวแต่นั่งคิด กดดูบรรยากาศข้างในให้ครบแล้วรีบจอง รีบตัดสินใจ บ้านมดส้มและบ้านหิ่งห้อยเต็มไวนะจะบอกกกกกกก
.
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : ชนบท chonnabot
Tel : 065-3676483
พิกัด : goo.gl/maps/wVHQfQFSqxYCCqLF8
ข้อควรรู้ก่อนมาชนบท แม่ลาย
– ชนบทมีบ้านพักทั้งหมด 2 หลังคือ บ้านมดส้มและบ้านหิ่งห้อย ราคาในการจองคือราคาของบ้าน 1 หลังเท่านั้น
– บ้านหิ่งห้อย ห้องนอนจะเป็นห้องใต้หลังคา ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง จากห้องนั่งเล่นสามารถเดินลงอ่างแช่ตัวชมวิวลำธารได้เลย
– บ้านมดส้ม ห้องนอนชั้น 2 จะมีระเบียงและมุมเตาผิง ชั้น 1 เป็นห้องนั่งเล่นและอ่างแช่ตัวสามารถเดินลงลำธารได้เลย
– ราคาช่วงนี้ วันธรรมดา 4,900 จาก 6,900 บาท/หลัง วันศุกร์-เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 5,500 จาก 6,900 บาท/หลัง
– มีหมูกระทะให้ทานในมื้อเย็น มี Afternoon Tea มินิบาร์ขนมขบเคี้ยว และมีอาหารเช้ารวมในค่าที่พักแล้ว
– บ้านพักแต่ละหลังสามารถเข้าพักได้ 2 ท่าน (เสริมท่านที่ 3 เพิ่ม 1,000 บาท)
– ที่พักไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเข่า บันไดขึ้นห้องนอนถือว่าชันเลยแหละ
– ตรงนี้คือป่ามีหญ้ามีต้นไม้จึงเป็นปกติที่จะมีแมลงต่าง ๆ ถ้าใครแพ้หญ้าหรือแพ้แมลงก็เตรียมยามาด้วย
– บ้านเป็นบ้านไม้ จึงเป็นปกติที่จะมีฝุ่นจากไม้หล่นลงมาบ้าง แต่ไม่ได้สกปรกหรือขาดสุขอนามัยแต่อย่างใด
– ไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือ แต่ที่พักมี wifi ให้ใช้ฟรี เร็วมาก ใช้เล่นเน็ต ดูหนังได้สบายๆ
– มีที่จอดรถอยู่ตรงข้ามกับที่พัก
– บ้านพักไม่มีแอร์แต่อากาศดี เย็นสบาย กลางคืนนี่หนาวเลยแหละ
– สำหรับคนที่หลับยาก จะบอกว่าตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงน้ำ เสียงกบ เสียงแมลงดังมาก และอาจจะมีกิ่งไม้ใบไม้หล่นใส่หลังคาบ้าง แต่สำหรับเรามันคือเสียงธรรมชาติ ทำให้หลับสบายไปเลย
– ระหว่างทางมาที่พัก มีทางโค้งและชันบ้างเล็กหน่อย
– มีเครื่องทำน้ำอุ่นและอ่างอาบน้ำทั้งสองบ้าน
– ที่พักอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 53 กิโล ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชม.
– ชนบท อยู่ในหมู่บ้านแม่ลาย ห่างจากแม่กำปอง 6 กม. ไม่ได้อยู่ในแม่กำปอง
– ห้ามส่งเสียงดังหลัง 20.00 น.
บ้านหิ่งห้อย ห้องนอนจะเป็นห้องใต้หลังคา ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง จากห้องนั่งเล่นสามารถเดินลงอ่างแช่ตัวชมวิวลำธารได้เลย
บ้านมดส้ม ห้องนอนชั้น 2 จะมีระเบียงและมุมเตาผิง ชั้น 1 เป็นห้องนั่งเล่นและอ่างแช่ตัวสามารถเดินลงลำธารได้เลย
ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางระหว่างบ้านทั้งสองหลัง สามารถมานั่งผิงไฟล้อมวงคุยกันได้
จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลามาถึงที่นี่ประมาณ 1 ชม. เท่านั้น จอดรถเสร็จเราก็เดินกันมาที่บ้านพักเลย ครั้งนี้เรามากับเพื่อนรวม 6 คน เลยจองบ้านพักทั้งสองหลังไปเลย กลายเป็นว่าคราวนี้พวกเราเหมาที่นี่ทำให้ยิ่งส่วนตัวเข้าไปอีก
เจอบรรยากาศริมน้ำแบบนี้สามารถนั่งชิลได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ
มากันที่บ้านหิ่งห้อย ก่อนเลย บ้านหลังนี้กลายเป็น IG Spot อีกหนึ่งที่ของเชียงใหม่ไปแล้วก็ว่าได้ ภายในบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นครึ่ง เพราะห้องนอนเป็นห้องใต้หลังคา ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องมินิบาร์ และชานบ้านที่มีอ่างอาบน้ำและโต๊ะนั่งเล่นเอาไว้ชมวิวลำธารได้ บ้านหลังไม่ไก้ใหญ่ แต่มุมถ่ายรูปเยอะ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
เราว่าใครที่ชอบห้องนอนใต้หลังคาจะต้องถูกใจที่นี่แน่นอน มีความน่ารัก อบอุ่น แต่เอาจริงแม้ว่าจะไม่มีแอร์ตอนนอนคือหนาวเลยนะ แถมยังได้นอนฟังเสียงน้ำไหลทั้งคืน มันดีสุด ๆ ไปเลย
เมื่อมาเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ สต๊าฟของบ้านก็จะเอาเซ็ตขนมและชายามบ่ายมาจัดวางให้ที่โต๊ะตรงนอกชาน อ่ะลองนึกถึงบรรยากาศจิบชาหอม ๆ เม้ามอยกับเพื่อน ด้านหลังเป็นวิวลำธารใส ๆ ดูสิ มันดีมากเลยใช่มั้ยล่ะ
แค่บรรยากาศหน้าบ้านหิ่งห้อยก็สวยชนะเลิศไปแล้ว
แต่คิดว่าบ้านมดส้มจะยอมแพ้เหรอ ทางนี้ต้องขอมาสู้ด้วยชิงช้าหน้าบ้านพร้อมกับการนั่งห้อยขาสวย ๆ ที่ตัวบ้านมดส้มมีสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าบ้านหิ่งห้อยเลย แต่มีออฟชั่นมากกว่าคือ มีตู้เย็น และห้องนอนกว้างมีระเบียงออกมานั่งเล่นได้ ที่สำคัญคือมีมุมเตาผิงให้เราได้นั่งเอาฟิลลิ่งหนาว ๆ กันด้วย
เพิ่มความรู้สึกหนาวด้วยการนั่งโพสต์เหม่อ ๆ หน้าเตาผิงและปล่องไฟ
ห้องนอนที่นี่กว้าง ห้องใหญ่ และมีระเบียงไว้ให้นั่งชมวิวด้วย
ภาพหน้าบ้านมดส้มก็ไม่แพ้บ้านหิ่งห้อยเลยนะจะบอก
ทุกบริเวณของที่นี่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องแบ่งวิวนี้กับใคร
นั่งเล่น เดินเล่น โพสต์ท่าถ่ายรูปไม่เท่าไหร่ ก็ถึงเวลาของมื้อเย็นกันแล้ว ว่าแล้วน้อง ๆ สต๊าฟก็เดินมาจัดแจงโต๊ะทานมื้อเย็นของเราอย่างขะมักเขม้น และก่อนจะจากไปน้อง ๆ ได้ส่งท้ายว่า สามารถสั่งหมูเพิ่มได้นะคะในราคาจานละ 100 บาท อ่ะจัดไปปป แม้ว่าของกินในเซ็ตที่ทางที่พักจัดให้จะเยอะจนคิดว่าพออิ่มอยู่แล้ว แต่สายแดรกอย่างเรา ต้องเผื่อเหลือดีกว่าขาดนะ
เมื่อคืนเรานอนหลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพราะวงหมูกระทะของเรามันช่างเฮฮาและสนุกสนานเหลือเกิน ทำให้วันนี้แอบตื่นสายเล็กน้อย แต่เมื่แตื่นมาแล้ว น้อง ๆ สต๊าฟก็รีบเอามื้อเช้ามาเสิร์ฟแบบทันใจมาก สำหรับอาหารเช้าของที่นี่จะมาเป็นเซ็ต จัดมาแล้วอย่างครบ 5 หมู่ หรือถ้าใครไม่อิ่มก็ลองขอน้องเค้าเติมได้น้า
หลังจากนั้นเราก็ขอมาแช่น้ำริมลำธารเอาฟิลใกล้ชิดธรรมชาติสัก 2-3 ร้อยช็อต
ถ้าให้ลิสต์ความประทับใจของการมาพักที่นี่ คงออกมาได้ประมาณร้อยข้อล่ะมั้ง แต่ถ้าถามแบบสั้น ๆ ว่าทำไมถึงชอบ คงตอบได้แค่ว่า เพราะบรรยากาศดี มุมถ่ายรูปดี และมันคือชีวิตดี ๆ อย่างที่เคยฝันเอาไว้ แม่จะเป้นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ทำตามความฝันในวัยเด็กให้สำเร็จไปแล้ว ถือเป็นการเติมเต็มพลังงานชีวิตในระดับหนึ่ง ทำให้เรากลับไปมีแรงที่จะสู้กับอุปสรรคใหม่ ๆ และสร้างแรงบันดาลใจเอาไว้ว่าสักวัน ฝันแบบนี้จะเป็นจริงแบบยาว ๆ แน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว
