ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเกิดเหตุหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้หนักสุด รถคอนเทนเนอร์จอดเสียที่สะพานกรุงนนท์ สุดท้ายตู้คอนเทนเนอร์ไหลไปชนอาคารพาณิชย์พังยับ
5 เม.ย. 67 เมื่อเวลา 13.20 น. พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้รับแจ้ง มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกคอนเทนเนอร์จำนวน 1 ตู้ จอดเสียบนเชิงสะพานกรุงนนท์ ข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ซอยสวนผัก 32 (ซอยกรุงนนท์) แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จนทำให้การจราจรติดขัดเนื่องจากกีดขวางการจราจรและเป็นซอยแคบ
อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าเวลา 15.00 น. มีรายงานว่ารถบรรทุกได้ไหลไปชนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่สร้างติดกันประมาณ 20 คูหา เป็นเหตุให้อาคารพาณิชย์ห้องหัวมุม 1 คูหา ที่ตกแต่งเป็นร้านอาหาร ถูกตู้คอนเทนเนอร์ชนพังเสียหาย จากภาพพบว่าเสารับน้ำหนักหักไปประมาณ 2 ต้น แต่อาคารยังไม่ทรุดตัวลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สะพานกรุงนนท์ เป็นสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างแขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ กับ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2516 หรือ 40 ปีก่อน เชื่อมระหว่างถนนสวนผัก ฝั่งกรุงเทพมหานคร กับถนนปลายบาง ไปยังถนนกาญจนาภิเษก และถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ ไปยังถนนราชพฤกษ์
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร เคยติดป้าย "ห้ามรถบรรทุกผ่าน เนื่องจากตอม่อสะพานชำรุด" แต่ก็มีรถบรรทุกฝ่าฝืนใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดบนถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก โดยเมื่อปี 2558 กรุงเทพมหานครเคยมีแนวคิดที่จะซ่อมแซมสะพานพร้อมขยายผิวจราจร แต่ต้องตรวจสอบกรรมสิทธิ์พื้นที่โดยรอบสะพานก่อน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปในจุดเกิดเหตุ พบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หัวพ่วง หมายเลขทะเบียน 62-3368 กรุงเทพมหานคร โดยส่วนหัวพ่วงจอดอยู่เชิงสะพาน ส่วนท้ายเป็นตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกเครื่องจักร น้ำหนัก25 กว่าตันล้มพลิกคว่ำพุ่งชนเข้าบ้านเลขที่ 40/8 จนพังเสียหาย
จากการสอบถาม แม่ดา ซึ่งพักบ้านเลขที่44 ห่างออกมา4 คู่หา จากจุดเกิดเหตุ ได้เล่ากับทีมข่าวว่า
เมื่อช่วงเช้าประมาณ 11 โมง รถคันเกิดเหตุ ได้พยายามวิ่งข้ามสะพานแต่ข้ามไม่ไหว จนทำให้รถไหลมาขว้างถนน ปิดการจราจรทั้งหมด โดยมีชาวบ้านพยามเตือนคนขับว่าอย่าขับรถข้ามไป แต่คนขับไม่ฟัง พยามดันทุรังข้าม จนทำให้รถค้างอยู่ตีนสะพานข้างขวา ก่อนที่คนขับจะตามรถเครนเพื่อมาดึงรถข้ามไปอีก จนรถข้ามไปถึงเกือบกลางสะพาน จนเกิดเหตุการณ์รถไหลพุ่งเข้าชนบ้านดังกล่าวเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดและแรงที่สุด จนตนเองใจหาย นึกว่าระเบิดลง ตนเองก็กลัวผลกระทบตึกหลังเกิดเหตุจะถล่มจนส่งผลมาบ้านตนเอง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล เพราะมันทำให้คนสองจังหวัดเดือดร้อน
ในส่วนเพื่อนบ้านอีกคนที่ได้รับผลกระทบ อาจารย์เบริด์ ไอที ได้เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดมาครั้งแรก แล้วที่รถที่มีน้ำหนักมาขึ้นสะพานแล้วไหลลงมา มีแล้วสี่ถึงห้าครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด ถนนเส้นนี้มักมีรถบรรทุกหนักแอบข้าม จริง ๆ แล้วมีป้ายห้ามไม่ให้รถบรรทุกวิ่งข้ามแต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืน สมควรน่าจะมีเหล็กกั้นบนถนนเพื่อกันรถบรรทุกวิ่งข้าม ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ ที่พนักงานการไฟฟ้าซึ่งเป็นผู้หญิงขับรถเก๋งตามหลัง รถบรรทุกเหล็กเส้น ถอยลงมาเพราะขึ้นไม่ไหวทำให้เหล็กเส้นพุ่งทะลุเข้ากระจกรถเก๋งของพนักงานการไฟฟ้าซึ่งเป็นหญิงสาว ดีไม่โดนหัวจนหญิงสาวพนักงานการไฟฟ้าช็อค จนออกจากรถไม่ไหว ฝากถึงหน่วยงานราชการถ้าไม่คิดจะทำอะไรกับสภานี้ก็ควรหาวิธีป้องกันไม่ให้รถใหญ่วิ่งเข้ามาเพื่อใช้สะพานนี้ ในส่วนทางที่ดีควรสร้างสะพานใหม่ไม่ให้มันชันขนาดนี้ เพราะถนนเส้นนี้เป็นเส้นเดียวที่ใช้ไปมาระหว่างคนกรุงเทพแล้วคนจังหวัดนนทบุรี ถนนเส้นนี้ใช้กันมานานมากแล้ว
