โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

น่าเวทนา 7 ชีวิตครอบครัวยากจนพ่อแม่ลูกต้องซุกหัวนอนอยู่ในเพิงพักแออัดใกล้พัง

แนวหน้า

เผยแพร่ 11 ก.พ. เวลา 17.00 น.

สุดเวทนาครอบครัวยากจนอาศัยอยู่อย่างแออัดในเพิงพักเก่าๆพ่อแม่ลูกรวม 7 ชีวิตในพื้นที่ห้วยน้ำขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ แม้จะมีอาชีพรับจ้างแต่รายได้ไม่พอจ่าย ลูกชายคนโตอายุ 7 ขวบไม่ได้ไปโรงเรียนนานเกือบปีเพราะไม่มีรถไปส่ง เผยอยากได้รถมอเตอร์ไซค์สัก 1 คันไว้ออกไปทำงาน

วันที่ 12 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เพิงพักใกล้บ้านเลขที่ 16 ม.1 บ้านห้วยน้ำขาว ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับทราบว่า มีครอบครัว 2 สามีภรรยาคือนายโยธิน อายุ 49 ปีและนางสาวจินดา อายุ 38 ปี มีฐานะยากจน อาศัยอยู่อย่างแออัด 7 ชีวิตประกอบด้วย พ่อแม่และลูกๆ อีก 5 คน คนโตอายุ 7 ขวบ คนสุดท้องเด็กเด็กหญิงอายุ 3 เดือนเศษ

จากการตรวจสอบสถานที่พักครอบครัวนี้พบว่าเป็นเพิงพักเก่า ปูพื้นไม้ ยกสูงจากพื้นประมาณ 50 เซ็นติเมตร สภาพทรุดโทรม ความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 4 เมตร หลังคามุงกระเบื้องและสังกะสี ด้านข้างกันด้วยเศษไวนิล เศษผ้ายาง และเศษเมทัลชีท ไม่มีประตู หน้าต่าง เวลากลางคืนก็จะใช้ผ้ายางมาปิดไว้ ภายในเพิงพักไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเพียงหลอดไฟ 1 ดวง ที่พ่วงมาจากบ้านข้างๆ และมีก้อนอิฐ 3 ก้อนไว้ก่อไฟหุงข้าว ปรุงอาหาร โดยใช้น้ำบ่อข้างๆ บ้านญาติตักใส่ถังแล้วหิ้วมาใช้หุงต้มที่บ้านและใช้ดื่ม ส่วนห้องส้วมไม่มี ต้องใช้จอบขุดหลุมฝังกลบในป่าข้างบ้าน ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสงสารเด็กๆ ในครอบครัวดังกล่าวก็แวะเวียนมาเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว

จากการสอบถามนายโยธิน หัวหน้าครอบครัว ทราบว่า ได้อาศัยอยู่กับภรรยาที่เพิงพักดังกล่าวมานานกว่า 7 ปี แล้วโดยมาสร้างเพิงพักติดกับบ้านแม่ของตน ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป วันไหนได้งานก็จะมีรายได้เฉลี่ย 150-300 บาทต่อวัน ซึ่งบางวันก็พอค่าใช้จ่าย บางวันก็ไม่พอ เพราะต้องซื้อนมผง ซื้อแพมเพิสให้ลูกคนเล็กด้วย เวลาไปทำงานบางวันต้องเดินไปบ้าง โบกรถบ้าง เนื่องจากตนละภรรยาไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์ก็ไม่มี เวลาลูกไม่สบายก็ต้องออกไปขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ยืมรถญาติๆ เพื่อหาลูกไปหาหมอ

นางสาวจินดา ภรรยา กล่าวว่า ตนอยู่บ้านดูแลลูกๆ หากวันไหนมีเพื่อนบ้านมาช่วยดูลูกให้ก็จะออกไปหาหอยขม หรือเก็บผลปาล์มร่วงตามโคนต้นที่ชาวบ้านอนุญาตให้เก็บเพื่อเอามาขายเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่บางวันก็ไม่มีรายได้เลยเพราะต้องเฝ้าดูแลลูกๆ ส่วนอาหารการกินก็ไม่ถึงกับว่าอดมื้อกินมื้อก็ยังพอทนอยู่ได้ ถ้ารู้จักประหยัด และตอนนี้ลูกชายคนโตอายุ 7 ขวบเรียนอยู่ชั้น ป.1 แต่ไม่ได้ไปโรงเรียนมาเกือบปีแล้ว เพราะไม่มีรถไปส่งและอีกอย่างไม่มีเงินไปโรงเรียน

นางสาวจินดา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลห้วยน้ำขาว ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลบ้าง บางครั้งก็ซื้อนม ซื้อผ้าอ้อมเด็กมาให้ ก็ต้องขอขอบคุณ ส่วนใหญ่เพื่อนบ้านที่เห็นสภาพครอบครัวจะช่วยเหลืออยู่บ่อยครั้ง บางคนก็ซื้อข้าวสารมาให้บ้าง ซื้อขนมมาให้เด็กๆ บ้าง ทำให้ครอบครัวตนไม่ลำบากมากนัก แต่สิ่งที่จำเป็นตอนนี้อยากได้รถมอเตอร์ไซสักคันจะได้ออกไปหาหอยมาขาย ไม่ต้องคอยฝากคนอื่นไปขาย เพราะบางทีไม่ได้เงิน เพราะหายไปทั้งหอยทั้งเงิน ส่วนโทรศัพท์มือถือตนละสามีก็ไม่มีใช้ เวลาลูกไม่สบายก็ต้องเดินไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านให้ขับรถไปส่งหาหมอ ตนใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้มา 6-7 ปีแล้ว ไม่อยากจะเรียกร้องอะไรมากมาย - 003

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0